“ไอซ์-ภาณุวัฒน์ เปรมมณีนันท์” ในวันที่ไร้ความกดดันและเปิดใจให้กับการแสดง
หนุ่มสูง 185 เซนติเมตรคนนี้แอบเปรยๆ กับเราว่า ‘วาสนารัก’ ละครเรื่องแรกของเขาคือความกดดันขั้นสุด และความกดดันนั้นกลายเป็นดาบสองคม จากที่จะกลายเป็นพลัง แต่กลับโถมไปด้วยความเครียด แต่ ‘ไอซ์-ภาณุวัฒน์’ ในวันนี้ ปลดล็อกตัวเองจากเรื่องนั้น กลายเป็นหนุ่มที่ไชน์เอามากๆ จากบท ‘ภูดนัย’ กับการแสดงเรื่อง ‘อ้ายข่อยฮักเจ้า’
เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากนั้นได้อย่างไร หมอกควันความกดดันอะไรที่บังตาเขาอยู่ วันนี้เราขอพูดคุยถึงหมอกควันความกกดันที่หายไปของเขา พร้อมอัปเดทผลงานชิ้นต่อไปที่เจ้าตัวเองบอกว่า ใกล้เคียงกับความเป็นตัวเองมากที่สุด
ต้องเล่นบทคอเมดี้ ทั้งที่จริงขี้อาย
ด้วยพื้นฐานผมเป็นคนขี้อายมาก่อน แต่ถ้าได้คุยกันจริงๆ 2-3 นาทีแล้วรู้สึกคลิกกัน มันจะทำให้เวลาผมคุยกับอีกฝั่งเหมือนสนิทกันมาหลายปี ดังนั้น สิ่งที่ทลายความขี้อายของผมได้คือ การเปิดใจ เปิดใจในหลายๆ ด้าน ทั้งการสังเกต พูดคุย และเรียนรู้ผู้คน รวมถึงตัวเอง ช่วงหลังๆ ผมพยายามเรียนรู้และศึกษาคนอื่นอยู่บ่อยๆ เช่น คนนี้เขาคุยสนุกนะ ทำไมเขาถึงคุยสนุก ทำไมคนนี้ถึงแสดงดีขนาดนี้ เขามีเคล็ดลับอะไร
พูดง่ายๆ คือ พยายามมีส่วนร่วมในทุกโอกาสการคุย ไปเป็นส่วนหนึ่งในวงนั้นเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดความเกร็งในตัวบางอย่าง และความสนุกมันจะตามมา จากที่ได้เรียนรู้และพูดคุยกับเขา อย่างพี่สิงโต นำโชค หรือแม่น้อย โพธิ์งามที่ผมแสดงด้วยในละคร ‘อ้ายข่อยฮักเจ้า’ ผมได้อะไรจากแม่น้อยและพี่สิงโตเยอะมากเลย
เรื่องเปลี่ยน ตัวตนข้างในก็เปลี่ยน
ตัวตนข้างในผมเปลี่ยนเยอะมากทั้งการทำงานและการแสดง ยอมรับว่า ตอนแสดง ‘วาสนารัก’ ผมกดดันตัวเองเกินไปและรู้สึกเครียดว่า จะทำมันออกมาได้ดีไหม แถมยังเกรงใจคนอื่นที่ร่วมแสดงด้วย เพราะเราเองก็หน้าใหม่มากๆ ตอนนั้นคิดว่า ตัวเองเปิดใจให้กับทุกอย่างแล้ว แต่จริงๆ ผมคิดไปเอง มันเป็นแค่การเปิดแง้มๆ แต่ไม่สุด เพราะอยู่กับตัวเองมากเกินไป
หลังจากนั้น ผมเลยเปิดใจกับทุกคนมากขึ้น เห็นได้ชัดมากจาก ‘อ้ายข่อยฮักเจ้า’ ผมมาพร้อมด้วยความมั่นใจว่า เราจะรับฟังคนอื่นและคู่นักแสดงที่เราแสดงด้วยกันมากขึ้น ไม่กลับไปเกรงใจหรือคิดเองเออเองอีก เพราะการแสดงคือการเล่นเป็นทีมครับ เราไม่ได้แสดงอยู่คนเดียว ทุกอย่างเลยเหมือนปลดล็อกโดยอัตโนมัติ และเราสนุกกับมันหลังจากนั้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ผมเลยเห็นถึงพัฒนาการในตัวบางอย่างและรู้สึกว่า ตัวเองโตขึ้นแล้วจริงๆ
ขนาดเพื่อนและพ่อแม่ยังทักเลยว่า ไม่น่าเชื่อ เมื่อก่อนกับตอนนี้ ต่างกันอย่างกับคนละคน ทั้งความคิดความอ่านบางอย่าง และการกล้าแสดงออกที่มากขึ้น
‘อุ้ม-กระทิง’ เพื่อนรู้ใจทางการแสดง
เรื่องนี้เหมือนปลดล็อกสกิลทองคำผมเลย (หัวเราะ) ส่วนหนึ่งเพราะได้พาร์ทเนอร์ทางการแสดงที่ดีด้วย อย่างอุ้มเองมีนิสัยคล้ายๆ กันกับผม เวลาเขาชวนคุยอะไร มันเหมือนละลายพฤติกรรมในตัว ตอนเข้าฉากเลยเป็นอย่างที่ผู้ชมเห็นคือ เกิดเคมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่น่ารักระหว่างคนทั้งคู่
ส่วนกระทิง เขามาเวย์ดื้อและบ้าพลังครับ (หัวเราะ) เวลาเข้าฉากด้วยกัน จะมองตาไม่ค่อยได้ แม้ในฉากต้องสู้กันตลอดเวลา แต่ตอนเข้าฉากคือ ต้องหลบตากัน เพราะจะขำกันเอง ซึ่งผมอยู่กับเขาแล้วมีความสุข เพราะกระทิงเป็นคนให้ใจกับผมมากๆ เหมือนเพื่อนสมัยมัธยมปลายที่ไปไหนไปกัน คุยกันได้ทุกอย่าง ผมเลยมองว่า การมีพาร์ทเนอร์ที่ดี ช่วยส่งให้การแสดงมันมีพลังจริงๆ เห็นได้จากที่ผู้ชมหลายคนชื่นชอบในตัวละครทั้ง 3 คนของเรา
‘ชายแพศยา’ ผลงานต่อไปที่อยากให้รอดู
5 เรื่องที่รับแสดง โทนเรื่องต่างกันหมดเลย แต่ผมอยากให้จับตา ‘ณพงศ์’ ใน ‘ชายแพศยา’ ให้ดีๆ ครับ ตัวละครนี้มีความใกล้เคียงกับผมค่อนข้างมาก อย่างเวลาที่เราอยากสนิทกับใครสักคน เราจะลืมความเป็นตัวเอง ไม่อยากทำให้อีกฝั่งอึดอัด และอยากเป็นสีสันในชีวิตของเขา
หลายคนมองว่า ผมเข้าถึงยาก มีความติสต์อยู่ในตัว แต่ถ้าได้คุยกันจริงๆ อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้น ผมจะชวนคุยและสร้างบรรยากาศให้สนุกขึ้น กับเรื่องนี้เองเหมือนกัน ผมสนุกมากที่ได้แสดง เพราะมันเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยพลังบวก และอยู่ไม่ค่อยนิ่ง เรื่องนี้ผมเลยจัดการการแสดงของตัวเองได้ง่าย เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ
ทุกเรื่องที่ผ่านมา ผมจะค่อนข้างนิ่ง แต่กับเรื่องนี้มีความต่างออกไป ตรงที่เขาเป็นละมุนบอยครับ (หัวเราะ) นุ่มนวล มีอิสระ และคิดนอกกรอบ ถือเป็นการแสดงที่ท้าทายตัวเองอีกครั้งและผู้ชมที่ติดตามผมมา จะไม่เคยเห็นผมแสดงแบบนี้มาก่อนแน่นอน
เป็นกำลังใจให้ ‘ไอซ์’ ละมุนบอยคนนี้ด้วยกับทุกๆ งานที่ออกมา
เพราะเราเชื่อว่า ความพยายามและความตั้งใจไม่เคยทำร้ายใคร
และหวังว่า หมอกควันแห่งความกดดันที่เขาเจอจะจางหายไปในเร็ววัน
Photography : Termsit Siriphanich @termsit
Interview : Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz
Editor in Chief : Austin Thein
#IcePanuwatxPosh
