Special Interview – ขุนพันธ์ 3

น้อย พรูผนึกกำลังปล่อยพลังเสียง 

โลดแล่นผ่านมือปืนเพลงประกอบภาพยนตร์ขุนพันธ์ 3”

ถือเป็นศิลปินระดับตำนานที่มีความโดดเด่นทั้งการร้อง และการเต้น สำหรับ “น้อย พรู” หรือ “กฤษดา สุโกศล แคลปป์” นักร้องนักแสดงชื่อดังที่เคยฝากผลงานเพลง และภาพยนตร์มาแล้วมากมาย นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลการันตีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมทั้งรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง 13 เกมสยอง, รางวัลสุพรรณหงส์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ หลังจากที่รับบทเป็น “อัลฮาวียะลู” จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ และเสือที่ไม่มีใครกล้าต่อกรใน “ขุนพันธ์ภาคแรก”

และครั้งนี้ “น้อย พรู” ส่งพลังเสียง ผนึกกำลังร่วมกับ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” แบทเทิลเพลง “มือปืน” เพลงประกอบภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3” กันอย่างสุดมันส์ ซึ่ง “น้อย  พรู” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการมาร่วมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ในครั้งนี้ว่า 

พูดถึงความรู้สึกที่มาร่วมร้องเพลงในครั้งนี้

ผมน้อย วงพรูนะครับ วันนี้ผมมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ “ขุนพันธ์ 3” พิเศษมาก เพลงนี้เป็นเพลงของ “พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” ชื่อว่า “มือปืน” ครับ เป็นการดวลกันแต่เป็นการดวลด้วยไมค์ ไม่ใช่ด้วยปืน แต่ในเพลงเป็นการดวลด้วยปืนคล้ายกับในภาพยนตร์ขุนพันธ์ ทั้ง 1, 2, 3 ต้องมีดวลกันอยู่แล้ว 

ขุนพันธ์ กับ พี่น้อย ถือว่าสำคัญมาก และร่วมงานกันมาร่วมสิบปีแล้ว ทั้งกับ สหมงคลฟิล์ม และกับพี่โขม อยากให้พูดถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ขุนพันธ์ 3

มันก็สิบปีมาแล้วนะครับตั้งแต่ขุนพันธ์ภาคแรก แต่ว่าคราวนี้น้อยได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์น้อยก็แฮปปี้มาก เรารู้สึกว่ามันมีความเป็นแฟมิลี่ น้อยทำงานกับโขมมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ อันธพาล และกับสหมงคลฟิล์มก็ตั้งแต่น้อยเข้าวงการกับเรื่อง 13 เกมสยอง ก็เลยรู้สึกเหมือนได้กลับมาพบกับแฟมิลี่เราอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ตกใจไม่นึกว่าจะได้กลับมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย โดยเฉพาะเพลงของปรมาจารย์อย่าง พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ก็เลยถือว่าเป็นเกียรติมากครับ

เพลง “มือปืน” สำหรับพี่น้อย มีความน่าสนใจยังไง

การมาร้องเพลงนี้มันเป็นเหมือนบทเรียนใหม่สำหรับน้อยครับ เพราะน้อยไม่เคยนึกว่าน้อยจะสามารถหรือจะได้มาร้องเพลงเพื่อชีวิต แล้วยิ่งเป็นเพลงของพงษ์สิทธิ์ คำภีร์ด้วย มันเป็นประสบการณ์ใหม่ พอน้อยได้ฟัง ซึ่งไม่ใช่แค่ได้ยินเสียงนะ น้อยได้อ่านเนื้อ แล้วก็ได้ร้องเพลงนี้มา พอเราฟังปั๊บ เราจะเห็นมันเป็นหนัง เป็นภาพยนตร์ได้เลยครับ หลายเพลงของพี่ปูและมันเป็นฟิลลิ่งนั้น เวลาเราได้ฟังเราจะรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของคาแรกเตอร์ในเนื้อหาเพลง ซึ่งน้อยก็คิดว่าปกติเพลงของ พรู ที่น้อยเขียนก็ไปทางชีวิตเยอะ น้อยไม่เคยร้องเกี่ยวกับตัวเอง มันจะเป็นนิทานหมดเลยสำหรับเพลงของพรู แต่ว่าเพลงนี้มันลึกมากกว่านั้นอีก เป็นนิทานที่ลึกมากกว่า เข้มข้นกว่า และใหญ่โตกว่า เหมือนเวลาร้องเรากลายเป็นนักแสดงขึ้นมาเลย ไม่ได้เป็นน้อยนะครับ น้อยรู้สึกอย่างนั้น และนั่นก็เป็นสิ่งที่น้อยสนุกอยู่แล้ว เพราะเวลาที่เราแสดงหนัง หรือ เราร้องเพลง เราจะชอบกลายเป็นคนละคน เราจะอินไปกับบทเพลงกับเนื้อหา

การทำงานนี้ มันยากง่ายยังไง และชอบท่อนไหนเป็นพิเศษ

เพลงของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ในการเขียนเพลงของเขา มันอาจจะเป็นเพลงเพื่อชีวิต แต่มันสามารถครอสโอเวอร์มาเป็นแมสส์ มันมีความป็อป มีความร็อค ซึ่งมันทำให้คนจับต้องได้มากขึ้น บางคำน้อยอาจไม่เข้าใจ มันเหมือนเป็นกลอนครับ บางคำที่น้อยร้อง น้อยก็ต้องถามทีมโปรดักชั่นว่า คำนี้ผมกำลังร้องอะไรอยู่ มันเป็นเหมือนบทกวี เหมือนเช็คสเปียร์ น้อยต้องตั้งใจ ต้องเรียนรู้ให้มากขึ้น เกี่ยวกับทุกคำว่าเรากำลังร้องอะไร นิทานนี้คืออะไร เราจะได้รู้สึกเรียล มันต้องมีความกดดันนิดหน่อยอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นเพลงของรุ่นพี่ ผมก็อายุมากแล้ว พี่ปูอาจจะเด็กกว่าผมรึเปล่าผมไม่แน่ใจหรืออาจจะวัยเดียวกัน แต่ผมมองเขาเป็นรุ่นพี่ เป็นระดับปรมาจารย์ ก็เลยมีความกดดันนิดหน่อยว่าจะถ่ายทอดเพลงนี้อย่างไรในแบบเรา ผมหวังว่าเขาจะชอบนะครับ แต่ว่าผมต้องขอบคุณทีมงานโปรดักชั่นด้วย ผมก็ฟังทั้งออริจินัลเวอร์ชั่น จริงๆ ผมฟังเวอร์ชั่นเราก่อน มาฟังออริจินัลเวอร์ชั่นเมื่อวานเอง ก่อนจะมาร้องวันนี้ ผมก็ โอ้ มันต่างกันเหลือเกิน เวอร์ชั่นนี้เราต้องตบมือให้กับทีมงานโปรดักชั่นนี้นะครับที่มี “หมู อภิชาติ พรมรักษา จากวงบิ๊กแอสที่มาช่วยเรื่องโปรดักชั่น และก็อีกคนก็คือ “เชาวเลข สร่างทุกข์” ที่เป็นคนช่วยดูแลหลายสิ่งหลายอย่างในเพลงนี้ด้วย 

เชาวเลข เคยรู้จักน้อย ก่อนจะเป็น น้อย วงพรู สมัยที่น้อยทำงานเบื้องหลังที่เบเกอรี่ แล้วผมก็รู้จักเขาก่อนที่เขาจะเริ่มมีชื่อเสียงเหมือนกัน ชีวิตมันก็สนุกและสวยงามตรงนี้ สมัยนั้นเราก็อยู่เบื้องหลังกันเยอะที่เบเกอรี่ ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่ง น้อยก็ได้มาร้องเพลงนี้ มาเป็น น้อย วงพรู แล้วเชาวเลขก็มีคนนับถือเขามากมาย ทั้งในด้านเป็นโปรดิวเซอร์ เป็นคนเขียนเนื้อเพลง เลยไม่ว่าจะเป็นกับสหมงคลฟิล์ม หรือกับ เชาวเลข หรือว่ากับ หมู บิ๊กแอส ในสุดท้าย ทุกอย่างมันก็ครบวงจร ผมก็ดีใจที่เรายังไม่หายไปไหน ยังทำงานในด้านเพลงกันไปเรื่อยๆ ครับ

พูดถึงเนื้อเพลง “มือปืน”

ผมชอบบรรทัดหนึ่งของเพลง “ศพแรกผ่านไป ศพสอง ศพสาม ค่อยๆ ผ่านไป” มันเป็นคำที่สะใจดี ไม่ได้อยากยิงใครนะ แต่มันอินดี้ฮะ และมันมีคำเล็กน้อยในเพลง อย่างเช่น เด็กโชคร้าย ไปตายเสียเถิด มันเป็นการร้องที่บางคำมันอาจดูแรง แต่เราร้องแบบมันก็เป็นเรื่องราวจริงๆ กับเมโลดี้ของพี่ปู น้อยก็อินไปเรื่อยๆ แล้วน้อยก็ชอบมาก น้อยสนุกเพราะว่ามันสำคัญมาก เหมือนตอนแรกที่ทางทีมงาน, โขม, สหฯ ชวนมาร้องเพลง ปกติน้อยจะร้องเพลงที่น้อยเขียนเวลาที่ร้องเพลงคนอื่น เราก็อยากชอบมัน อยากสนุกกับมัน เพราะมันไม่สนุกเลยเวลาที่เราต้องมาร้องเพลงที่เราไม่ค่อยอิน ไม่ค่อยชอบ ตอนที่น้อยทราบว่าเป็นเพลงนี้ที่น้อยชอบ น้อยอิน น้อยสนุกครับ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักร้อง มันเหมือนกับเวลาที่เราเล่นบทหนัง ถ้ามีคนขอให้เราเล่นบทหนึ่งที่เราเฉยๆ ไม่ค่อยอยากเล่น มันก็ไม่สนุกเป็นธรรมชาติของศิลปินทุกคนอยู่แล้ว แต่นี่เป็นเพลงที่น้อยอยากร้อง มันก็เลยทำให้อินไปด้วย แต่คือ ต้องร้องเพลงพี่ปูอย่ามาเทียบกันนะเพราะมันคงเทียบกันไม่ได้ เราเป็นจูเนียร์ แต่ว่าเราก็พยายามถ่ายทอดอารมณ์ให้มันถึงที่สุดครับ 

ฝากไปถึงแฟนๆ ของพี่น้อยที่จะได้ฟังเพลงนี้ได้เวอร์ชันเพลงประกอบภาพยนตร์ขุนพันธ์ 3 โดยพี่น้อย ดวลกับโตโน่ 

สำหรับเพลง “มือปืน” ที่เรามาร้องเป็นเพลงคัฟเวอร์ของพี่ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เรามาทำเป็นเวอร์ชันพิเศษเพลงประกอบภาพยนตร์ขุนพันธ์ 3 ซึ่งเพลงนี้ไม่ได้มีแค่น้อย ยังมีโตโน่ด้วย มาดวลกัน เราเอาไมค์มาดวลกันนะครับ ไม่ใช่ปืน เอาไมค์มาดวลกันในเพลงนี้ ซึ่งผมว่ามันพิเศษมาก เพราะว่าโปรดักชั่นมันเข้ากับหนังได้เป็นอย่างดี มันยิ่งใหญ่ และผมเชื่อมั่นว่า ขุนพันธ์ 3 มันก็ต้องแบบ… บู้ม! แน่นอนเลย เพราะมันยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ภาค 1-2 และมาในภาค 3 นี้ การันตียิ่งใหญ่แน่นอน มีทั้งอนันดา มาริโอ้ โตโน่เล่นด้วย รวมถึงมี “มือปืน” เพลงประกอบภาพยนตร์ ขุนพันธ์ 3 ด้วย ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ สำหรับส่วนตัวน้อย น้อยก็จะมีซิงเกิลใหม่ แต่ที่น่าจะตื่นเต้นมากกว่านั้นสำหรับแฟนเพลง พรู คือวงพรูก็จะกลับมาเล่นด้วยกัน โห ไม่ได้เล่นด้วยกันมาตั้ง 18 ปีแล้วครับ ยังไงรอติดตามกันนะครับ ขอบคุณทุกคนมากเลยครับ 


โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์กับการดวลเพลงคู่กับศิลปินในดวงใจ

กับผลงานเพลงมือปืนเวอร์ชันพิเศษเพลงประกอบภาพยนตร์ขุนพันธ์ 3”

นอกจากจะเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์แอ็กชัน-ฮีโร่ไทยฟอร์มยักษ์ “ขุนพันธ์ 3” แล้ว “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ผู้รับบทเป็น “เสือดำ” ยังได้รับอีกหนึ่งบทบาทที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เวอร์ชันพิเศษที่นำเพลง “มือปืน” ผลงานเพลงระดับมาสเตอร์พีซของ “ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” มาโลดแล่นผ่านเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งในครั้งนี้ยังได้ศิลปินผู้เคยแสดงบทนำในขุนพันธ์ภาคแรกอย่าง “น้อย พรู มาร่วมแบทเทิลกันในผลงานล่าสุดนี้ด้วย ซึ่ง โตโน่ ได้พูดถึงการมีส่วนร่วมร้องเพลงในครั้งนี้ว่า 

พูดถึงความรู้สึกที่มาร้องเพลง มือปืน ในครั้งนี้หน่อย 

วันนี้ผมตื่นเต้นและรู้สึกชื่นใจมากๆ ครับ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณสหมงคลฟิล์มด้วยที่ให้โอกาสผมมาร่วมงานทั้งในเรื่องของการแสดงที่มันหนักหน่วงและเข้มข้น เป็นอีกมิติหนึ่งของการทำงานของผมเลย แล้วยังมีเรื่องของดนตรีอีก ผมภูมิใจมากครับ

เราจะได้เห็นการดวลกันของสองเสือในขุนพันธ์

สำหรับโตโน่ กับพี่น้อย โตโน่ไม่มีอะไรไปเทียบพี่น้อยครับ สำหรับผมนะพี่น้อยเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ดีในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของงานเพลง หรือ การแสดง ผมไม่กล้าไปเทียบหรือไปดวลกับพี่น้อยเลย มีแต่ความรู้สึกดีใจ ภูมิใจ และเป็นเกียรติมาก ถ้าในพาร์ทของชีวิตจริงมีแต่ความภูมิใจ แต่ถ้าในพาร์ทที่เป็นเสือดำ หลายๆ คนพูดซึ่งผมได้ยินมาคือเรื่องเคมีระหว่างผมกับพี่น้อย หรืออัลฮาวียะลูกับเสือดำที่มันค่อนข้างเข้มข้นดุดันคล้ายๆ กัน แต่ผมก็รู้ว่ามันต่าง ถึงจะเป็นเสือเหมือนกัน ต้องไปดูกันในภาพยนตร์ ส่วนในเรื่องของเพลงประกอบภาพยนตร์ การทำงานในครั้งนี้กับพี่น้อย เรามีความรู้สึกเหมือนเด็กได้เห็นฮีโร่ จนวันนี้เราได้มาร้องเพลงกับเขา ผมนับถือพี่น้อยมาก และภูมิใจที่ได้ทำงานกับพี่น้อยมากครับ ในเรื่องของการทำงานเราก็รู้สึกได้ถึงเคมีบางอย่างในเวลาที่เราคุยกัน รวมถึงตอนที่ร้องเพลง เสียงของพี่น้อยกับโทนเสียงของผมมันคนละแบบกันเลย มันเหมือนขาวกับดำ เหมือนเป็นขั้วตรงข้าม เป็นการแบทเทิลกันที่ลงตัวมากครับ ผมรู้สึกดีใจที่ได้ทำอะไรดีๆ ให้กับผู้ฟัง

การมาร่วมทำเพลงด้วยกันเป็นยังไงบ้าง

ตอนแรกที่ทางสหมงคลฯ ติดต่อมา ผมมีความรู้สึกว่า ผมไม่อยากร้อง เพราะมือปืนเป็นเพลงที่ทุกคนรู้จัก เป็นเพลงที่ดัง และพี่ปูได้ทำไว้สุดมาก แล้วการที่จะมาทำอีกหนึ่งเวอร์ชัน ผมรู้สึกว่ามันใหญ่เกินตัวของผมในการที่จะทำให้มันออกมาดีได้ แต่ด้วยมันมีอะไรในใจที่อยากจะแชร์ อยากจะเล่าให้ฟังในมุมของเรา ผมก็เลยคิดว่างั้นลองดูดีกว่า หมายถึงการที่ผมได้มาเป็นเสือดำ การที่ผมได้เห็นชีวิตของตัวเขา รวมถึงชีวิตของผม ผมมีเรื่องอยากจะเล่า ถึงแม้จะว่ามันยาก คีย์ที่สูง นักร้องที่เราต้องแบทเทิลด้วยเป็นไอดอลของเราอีก (หัวเราะ) ถ้ามองในมุมที่หนักใจ ผมก็หนักใจแหละ 

แต่พอมองในอีกมุมหนึ่งมันเหมือนกับเรามาช่วยกันระบายสี เติมเรื่องราว เติมชีวิตให้กับหนังเรื่องนี้ ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าถ้าต้องมาทำเพลง ผมก็ยินดีที่จะเอาทุกอย่างที่มันอยู่ข้างในออกมาให้กับทุกคน เอามาแชร์ให้แฟนหนัง แฟนเพลง ไม่ว่าจะเป็นของพี่น้อย ของผม หรือใครก็ตาม ให้เขาได้มารู้จักในอีกมุมหนึ่งครับ ตอนที่ผมได้ฟังดนตรีที่ส่งมาให้ เป็นเดโม่ก่อน เรารู้สึกว่ามันเป็นแนวดนตรีที่ผมชอบ เสียงกีตาร์ของมัน จังหวะของมัน มันทำให้ผมนึกภาพออกในตอนที่เราเริ่มทำการบ้านเป็นเสือดำ มันมาตรงกันโดยบังเอิญ วิญญาณของเพลงๆ นี้ ยังไม่ใช่เนื้อนะครับ เอาแค่ซาวน์ดนตรีที่ พี่หมู – อภิชาติ พรมรักษา กับ พี่เชาว-เชาวเลข สร่างทุกข์ ทำ มันมีความบังเอิญหลายอย่าง แล้วพอเป็น 2 คนนี้ ซึ่งพี่หมูเองก็เป็นโปรดิวซ์ให้กับวงผม แล้วเรามีการคุยกันมาก่อนหน้านั้นว่าพี่หมู ผมถ่ายหนังอยู่เรื่องหนึ่ง ถ้าเราจะทำเพลง เราจะเขียนเพลง ผมอยากจะเขียนเพลงจากหัวเชื้อของเสือดำนะ แล้วผมก็ส่งแนวดนตรีไปให้พี่หมู แล้วไอ้แนวดนตรีที่ผมส่งไป กับเพลงมือปืนเวอร์ชันนี้ มันคล้ายกัน พอได้ยินเสียงกีตาร์ขึ้นมา ผมก็นึกถึงม้า นึกถึงปืน นึกถึงแสงพระอาทิตย์ แสงตะวัน กับป่า กับทุ่ง เราเข้าใจในกลิ่นอายนั้น เราเลยรู้สึกว่า… หลังจากที่เรารู้แล้วว่าวิญญาณของดนตรีที่เขาทำมา มันใช่ ก็ค่อยเป็นการบ้านของผมที่จะถ่ายทอดให้มันเป็นผม จะทำยังไงไม่ให้เหมือนเวอร์ชันอื่นๆ ไม่ได้มีความคิดที่จะฉีกอะไรทั้งนั้น คิดแค่ว่าถ้าเพลงนี้เป็นตัวแทนของคนที่มันมีความเป็นเสือ เป็นผู้ชายที่มีความเป็นคนจริงในโลกใบนี้ ผมอยากจะเอาจิตวิญญาณนั้นกลับมาใส่เข้าไปในเพลง ไม่ได้มีการออกแบบเลย ฟังจับจังหวะอย่างเดียว แต่ผมกะว่าเอาความรู้สึกนั้นมาปล่อย  ขอให้มันเป็นไปตามความรู้สึกข้างในเลย ต้องลองฟังดูครับ

อยากให้ฝากถึงแฟนโน่ และแฟนหนังได้ฟังเพลงนี้

ก่อนอื่นเลย ก็ต้องขอบคุณทีมงานและทุกๆ คนนะครับ ตั้งแต่ตอนถ่ายทำภาพยนตร์ จนมาถึงการทำเพลง ทุกคนตั้งใจและเต็มไปด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยม และเราก็หวังว่า ไม่ว่าจะเป็นเพลง หรือภาพยนตร์ หวังว่ามันจะให้อะไรกับคนฟังของเรา เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายมาก ทุกคนรู้จักเพลงนี้ และการมาคัฟเวอร์เพลงนี้ มันไม่ง่ายเลย แต่ก็หวังว่าความตั้งใจดี รวมถึงความรักในการทำงานของทุกคน รวมถึงผมและพี่น้อยด้วย จะทำให้ทุกคนฟังแล้วอินไปกับมือปืน ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานชิ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือว่าเป็นภาพยนตร์ แต่สิ่งที่มันสำคัญมากๆ ผมขอมอบเพลงนี้ที่เราทุ่มเทกันมาให้กับทุกเสือ รวมถึงพ่อขุนพันธ์ด้วยครับ และฝากถึงคนรักหนังรักภาพยนตร์ อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ลองฟังและลองดูในผลงานชิ้นนี้ของผม ใน ขุนพันธ์ 3 ครับ

 

ชม MV เพลง “มือปืน” ที่ https://youtu.be/VwDSOrkOfdw

ตัวอย่างแรก ขุนพันธ์ 3 (ทีเซอร์) ที่ https://youtu.be/_gbHZgjakmI