Cover Interview – Tre Porapat

10 คำค้นหากับการค้นหาตัวตนลึกๆ ของ “ตรี-ภรภัทร ศรีขจรเดชา”

แฟชั่นของ POSH MAGAZINE กับตรีน่าจะคุ้นทางกันเป็นอย่างดี แต่ในฐานะคนสัมภาษณ์ เราไม่อยากให้เขาจับทางได้ แม้จะเคยสัมภาษณ์กับเรามาแล้วหลายครั้ง และกับผลงานล่าสุดอย่าง “สงครามสมรส” ที่เราไปเซอร์เวย์การสัมภาษณ์มา ตรีก็น่าจะสัมภาษณ์ไปหลายมุมมากเหมือนกัน ทั้งมุมคนทำงานหรือการอินเนอร์ตัวละครไปตอบ ครั้งนี้เราเลยทำเกมสัมภาษณ์สนุกๆ ให้เขาเล่นแบบสบายๆ

  เราจั่วหัวถามตรีไปก่อนว่า เคยค้นหาชื่อตัวเองในเว็บไซต์ค้นหาคำไหม ตรีบอกว่า นานถึงนานมากแล้วที่เขาใช้ชื่อตัวเองค้นหา งานนี้เข้าทางเรา เพราะเราเตรียมคีย์เวิร์ดการค้นหาชื่อตรีมาทั้งหมด 14 คำที่พอพิมพ์ชื่อตรีไปปุ๊บ มันจะตามมาด้วยคำบางอย่าง ซึ่งถ้าเขาเห็นคำนี้แล้วรู้สึกอย่างไร ก็ตอบออกมาได้เลย ซึ่งเราขอคัดมาจากที่สัมภาษณ์กันแค่ 10 คำเท่านั้นและเก็บที่เหลือไว้รู้ของเราเองนะ เริ่มจากคำแรก…

ตรี ภรภัทร … คือใคร

สำหรับผม ตรี ภรภัทร เท่ากับคำว่า อารมณ์ (Emotional) เพราะเวลาที่ตัวตนของผมเป็นแบบไหน มักจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น บางทีชอบอยู่กับคนอื่น บางทีชอบอยู่กับตัวเองคนเดียว บางทีเรื่องนี้ซีเรียสจริงจังขึ้นมาเฉย บางทีเรื่องนี้กลับชิลมากแบบไม่มีสาเหตุ เรียกว่าเป็น คนจริง (Real) มากก็ได้ เช่น ผมเป็นคนสีหน้าออกชัดมาก เวลาเด๋อคือเด๋อเลย ตื่นเต้นหรือโกรธก็จะเห็นได้ชัด หรือเวลาเล่นเกมต้องโกหกหรือแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อไม่ให้อีกฝั่งจับได้ สีหน้าผมจะออกเป็นอย่างแรก และทุกคนจะจับได้ว่า ผมกำลังโกหกอยู่ ฉะนั้น ตรี ภรภัทร จึงเท่ากับอารมณ์ที่เป็นอยู่ ณ เวลานั้น 

ตรี ภรภัทร … ฉายา

ถ้าตอนเล่นเกม ฉายาของผมคือ ตรีเทพ หรือ ตรีเทพ007 ตามแอคเคาท์ที่ผมตั้งชื่อไว้ แต่ถ้าแวบขึ้นมาในหัวเรื่องนี้ ผมมีฉายาหนึ่งตอนเด็กๆ ที่ไม่ชอบเลย ซึ่งต้องขอเท้าความก่อนว่า ตอนเด็กผมเคยนั่งผิดจังหวะแล้วศีรษะลงมากระแทกพื้น เย็บไปหลายเข็มและกลายเป็นแผลเป็นอยู่ช่วงหนึ่ง โดยสมัยเรียน เด็กผู้ชายต้องตัดผมสั้น หัวเกรียน และด้านหลังศีรษะของผมจะมีรอยขีดจากแผลเป็นที่เห็นชัดมาก เพื่อนผมเลยชอบเรียกว่า “กระปุก” คือศีรษะเหมือนกระปุกหยอดเหรียญเลย ณ ตอนนั้น ผมเลยไม่ค่อยชอบที่เพื่อนล้อเรื่องนี้เท่าไหร่ และหวิดมีเรื่องอยู่หลายครั้ง แต่พอลองมองกลับไปตอนนี้ ก็แอบขำๆ ตลกๆ เหมือนกันว่า เพื่อนก็ช่างครีเอทชื่อดีเหมือนกัน

ตรี ภรภัทร … ร้องเพลง

(หัวเราะ) เห็นคำนี้ มันทำให้ผมนึกถึงตัวเองเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุดในชีวิต เพราะทักษะการร้องเพลงของตัวเองเป็นศูนย์ ปรบมือไม่เข้าจังหวะ จะเข้าท่อนเพลงตอนไหนยังไม่รู้เลย แต่หลังจากเริ่มฝึกฝนและเรียนจริงจัง เริ่มรู้ว่าเทคนิคการร้องเพลงเป็นอย่างไร อุปกรณ์ที่จะช่วยเสริมการร้องเพลง ต้องใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ทำให้ผมร้องเพลงได้ดีขึ้น และรู้ว่าตัวเองทำสิ่งนี้ได้ เพียงแค่ฝึกมันเท่านั้น โดยถ้าใครที่ติดตามหรือเป็นแฟนคลับผม เวลาผมไปออกงาน จะมีเพลงประจำที่ผมร้องอยู่ 2-3 เพลง เช่น คิดถึงจัง (มาหาหน่อย) คิด(แต่ไม่)ถึง หรือถ้าค้นหาคำว่า “ร้องเพลง” แล้ว ขึ้นชื่อผมขึ้นมา ผมเดาว่าต้องมีเพลง “มองใจ” อยู่ในนั้นแน่ๆ เลย เพราะผมร้องบ่อยมาก

ตรี ภรภัทร … ซิกแพค

เป็นช่วงรายการ Super Match กับ 5 Elements ที่ช่วงนั้นผมออกกำลังกายเยอะมาก ซึ่งต้องเล่าก่อนว่า ผมเริ่มออกกำลังกายและเล่นฟิตเนสมาตั้งแต่อายุ 19 ปี จนถึงตอนนี้ผมอายุ 29 ปีแล้ว กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า มันก็มีจุดเหนื่อยบ้าง อย่างมีช่วงหนึ่งผมไปฝึกศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว (Martial Art) และว่ายน้ำอย่างหนัก เลยทำให้ไหล่มีปัญหาอยู่ช่วงหนึ่ง และเมื่อช่วงวิกฤตโรคระบาด 2 ปีที่แล้ว ผมปวดหลังและขามาก ปวดจนร้องไห้เลย ไปทำ MRI กับ CT SCAN ก็ไม่เจอสาเหตุการปวด ผมเลยสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการออกกำลังกายอย่างหนักของตัวเอง เลยเปลี่ยนจากออกอย่างหนัก มาเป็นออกเพื่อรักษาและยืดหยุ่นตัวเอง ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว

ตรี ภรภัทร … ดราม่า

ผมไม่คิดว่าจะมีคำนี้โผล่มาเลยด้วยซ้ำ ถ้าให้ผมมองย้อนกลับไปตั้งแต่ ภาตุฆาต เลดี้บานฉ่ำ สงครามนักปั้น เวลากามเทพ พนมนาคา จนมาล่าสุดอย่าง “สงครามสมรส” ทุกตัวละครที่ผมแสดง ไม่มีตัวไหนสุขเกิน 70 เปอร์เซ็นต์เลย ทุกตัวละครมีความเศร้า ความหม่น ความเทา ความเสียสละ และมีปูมหลังชีวิตที่อึดอัด ผมหวังไว้ว่า เรื่องต่อจากนี้ในอนาคตจะเบาลงบ้าง ผมอยากแสดงแนวสบายๆ ไม่เครียด เช่น โรแมนติกคอเมดี้ เชื่อไหม ผมอยากลองเล่นมาก อยากลองดูว่า เวย์ตลกของผมจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งก็หวังใจไว้เหมือนกันว่า ผู้ใหญ่จะมอบโอกาสให้ผมได้ท้าทายตัวเองอีกครั้งหนึ่ง

ตรี ภรภัทร … ACTIVITRE

เป็นรายการฟีลฟรีของผมรายการหนึ่งเลย แม้จะมาช่วงในระยะเวลาสั้นๆ แต่ผมก็สนุกกับมันมากๆ อยากทำอะไรก็ทำ อยากดูหรืออยากไปไหน ก็ทำได้หมด ค่อนข้างไร้กรอบประมาณหนึ่ง มันเลยทำให้ผมเติมตัวตนของตัวเองลงไปในเนื้อหารายการได้ รวมถึงการได้พูดคุยและทำกิจกรรมกับแขกรับเชิญ ก็เป็นอีกสิ่งที่ผมชอบเหมือนกัน ซึ่งถ้า ACTIVITRE มีซีซั่นต่อไป ผมอยากลองทำกิจกรรมแบบผู้ชายลุยๆ ดูบ้างอย่าง แนวผจญภัย ก็น่าสนใจ ส่วนเรื่องการเป็นพิธีกร ผมมองว่า ผมก็ทำได้ดีเลยนะ แต่ถ้าจะให้ดี ผมว่าผมเล่นละครดีกว่า (หัวเราะ) 

ตรี ภรภัทร … ทนาย

ผมมี 2 โมเมนต์กับคำคำนี้ ก่อนเริ่มถ่ายและสวมบทบาท รู้สึกเครียด ตื่นเต้น กดดัน และคาดหวังอยากจะทำออกมาให้ดี ไม่เป็นตัวถ่วงของคนอื่น แต่หลังจากถ่ายจบ อีก 1 โมเมนต์ตามมาเลยก็คือ รู้สึกขอบคุณ ขอบคุณตัวเองที่ทำหน้าที่กับบทนี้อย่างเต็มกำลัง ขอบคุณพี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) ที่ลงรายละเอียดกับตัวละครนี้จนสมบูรณ์แบบ ขอบคุณพี่ๆ ทีมเขียนบทที่รังสรรค์บทนี้ขึ้นมา และขอบคุณนักแสดงที่อยู่รายล้อมทุกคน ที่พาผมก้าวข้ามความท้าทายตรงนี้มาได้ ผมเลยมองว่า ทนายภาวินท์ได้มอบหลายสิ่งหลายอย่างให้กับผู้ชม ทั้งความรู้ ความกล้า และแพชชั่นที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างเพื่อตัวเอง มันเลยรู้สึกหายเหนื่อยและตื้นตันใจอย่างมาก ที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้

ตรี ภรภัทร … สงครามสมรส

เป็นความทรงจำที่ดีและสวยงามมากๆ เป็นประสบการณ์ที่ผมจะจำแบบไม่มีวันลืมเลย เพราะกว่าจะได้สิ่งดีๆ นี้มา ยอมรับว่า ได้มาด้วยความยากลำบาก ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย ใช้ความตั้งใจของตัวเองอย่างมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ มันเลยเป็นโอกาสอันล้ำค่ากับชีวิตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ได้เจอทีมนักแสดงที่เก่งกันมากๆ ได้เจอทีมงาน ผู้กำกับ และคนเขียนบทที่เป็นเหมือนทีมอเวนเจอร์สแบบสุดๆ รวมถึงได้เสียงตอบรับที่ดีกลับมาจากแฟนคลับและคอละครของเรา ผมเลยรู้สึกว่า ได้พลังบวกจากละครเรื่องนี้มาเยอะมาก อีกทั้งรู้สึกดีใจที่ช่วงชีวิตหนึ่งเราได้ทำงานกับทีมงานคุณภาพที่คอยดูแลและให้กำลังใจเราเป็นอย่างดี

ตรี ภรภัทร … แอฟ ทักษอร

ยอมรับว่าเกร็งในช่วงแรก (หัวเราะ) แม้กระทั่งตอนคุยกันปกติหรือถ่ายเทคแรก หน้าผมคือเกร็งมาก แต่พอเราเริ่มสนิทและทำลายกำแพงซึ่งกันและกัน ผมก็เห็นมุมน่ารักของพี่เขาเยอะขึ้น เห็นถึงความตั้งใจ ความเป็นนางฟ้าทั้งในจอและนอกจอ ความพยายามในการทำงาน ความอดทนต่อความยากของอารมณ์ที่แสดง พี่เขาเก่งมากๆ เป็นคนที่สู้แบบสุดๆ แม้ภายนอกหลายคนอาจมองว่า พี่เขาดูบอบบาง แต่พอแสดงเท่านั้นแหละ ถึงไหนถึงกันมาก ผมเลยชื่นชมและสนับสนุนพี่เขาตลอดเวลาในฐานะพาร์ทเนอร์ทางการแสดงของตัวเอง และมีอีกเรื่องที่ผมอยากเล่าคือ ผมมาสนิทกับพี่เขาจริงๆ ตอนที่ถ่ายใกล้จะจบแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้โคจรมาร่วมงานกับพี่เขาอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่อย่างไรก็คิดถึงพี่สาวคนนี้นะครับ

ตรี ภรภัทร … ส่วนสูง

ตอนเด็กผมเตี้ยมาก ตอนชั้นม.1-2 ผมสูงอยู่ราวๆ 158-160 เซนติเมตรนี่แหละ และผมมาสูงขึ้นครั้งตอน ม.2-3 เป็น 165เซนติเมตร ซึ่งมันขึ้นมานิดเดียว ก็ดูไม่น่ากังวลอะไร แต่ช่วงพีคของส่วนสูงคือ ช่วง ม.3-4 อยู่ดีๆ จาก 165 เซนติเมตรขึ้นเป็น 180 เซนติเมตรเลย ขึ้นมาทีคือ 15 เซนติเมตรแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ช่วงนั้นโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) คงทำงานหนักเป็นพิเศษ แต่ดูท่าจะหนักมือเกินไปหน่อย เพราะจากที่เคยยืนอยู่ข้างหน้าสุดในโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน กลายมาเป็นยืนอยู่หลังสุด เพราะตัวสูงเร็วมาก แล้วมันก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่าง ม.5 ก็ขึ้นมาเป็น 186 เซนติเมตร จำได้ว่า ผมเคยดีลกับร่างกายว่า ขอแค่ 185 เซนติเมตรพอนะ แต่เหมือนร่างกายไม่ฟัง กระเถิบขึ้นมาให้อีก 1 เซ็นติเมตร ซึ่งมันก็จะพยายามยืดขึ้นอีกนั่นแหละ ผมเลยใช้วิธีการกินยาหยุดความสูงเข้าช่วยไม่ให้มันสูงไปกว่านี้ แล้วมันก็หยุดอยู่ที่ 186 เซนติเมตร เท่านี้จริงๆ ซึ่งถ้าผมไม่กิน ผมว่าผมมีสูงทะลุ 190 เซนติเมตรแน่ๆ

  ส่วนอีก 4 คำค้นหาที่เหลือ เราขอเก็บไว้รู้กันเองกับตรีนะ แต่นอกจากบทสัมภาษณ์สนุกๆ นี้แล้ว คุณยังสนุกไปกับละคร “สงครามสมรส” ที่เขาตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่ได้ในช่อง ONE31 ซึ่งตอนนี้เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว และสามารถดูย้อนหลังเก็บความประทับใจเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ทาง แอปพลิเคชั่น oneD 


Photographer : @gur_kerdsup
Stylist : @zana_gir @hhhoshi.n
Clothes : @vanillinstudio @pmith @greyhoundoriginal
Makeup & Hair : @_zofear99
Editor in Chief: Austin Thein
Photo Assistants : @p_p__pumpkin @faiday.y @aakr.staa
Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz