Cover Interview – Ohm Leng

สำรวจตัวละครในวันนี้และชีวิตหลังจากนี้ของโอมเล้งผ่านซีรีส์ “KIDNAP ลับจ้างรัก

โอมภวัต จิตต์สว่างดี และ เล้งธนพล อู่สินทรัพย์ยิ้มแย้มราวกับเด็กน้อยเมื่ออยู่ในเซตแฟชั่นคู่กัน แต่เมื่อมาอยู่ในโหมดสัมภาษณ์ ภาพนั้นก็ถูกสลัดให้หายวับ กลายเป็นชายหนุ่มที่ดูขึงขังและจริงจังขึ้นมาทันที ซึ่งเราสัมผัสได้จากคำพูดของทั้ง 2 คนผ่านคำถามที่เราเตรียมมา ในการสำรวจตัวละคร มิน และ คิวที่พวกเขาได้รับในซีรีส์ “KIDNAP ลับจ้างรัก รวมถึงความคิดลับๆ ลึกๆ ข้างในที่หลายคนอาจไม่รู้

คำตอบที่ได้รับเต็มไปด้วยแรงกระเพื่อมและพลังงานบวกที่พวกเขามีให้ต่อการแสดงและการได้ร่วมงานในเรื่องนี้และนี่คือความรู้สึกจากใจจริงของเขาทั้งคู่


KIDNAP –
อะไรก็ได้บนโลกใบนี้

เราเริ่มต้นบทสนทนาด้วยชื่อซีรีส์ KIDNAP ที่พวกเขาแสดง ซึ่งหมายถึงการลักพาตัว แน่นอนมินและคิวคงทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งนี้ แต่เราถามอีกแบบเพื่อไม่ให้พวกเขาจับทางการพูดคุยของเราได้ เหมือนซีรีส์มากลูกล่อลูกชนที่ทั้งคู่เล่น ถ้าทั้ง โอมเล้ง ลักพาอะไรก็ได้บนโลกมาไว้ที่ตัวเองได้ 1 อย่าง คิดว่าอยากลักพาสิ่งใด เพราะอะไร ทั้งคู่แอบยิ้มเบาๆ ก่อนที่เล้งจะตอบออกมาก่อนว่า

ผมอยากได้ความสามารถของคนที่มีประสาทสัมผัสที่ดี ดีในที่นี้ ตั้งแต่การมองเห็น การได้กลิ่น การได้ยิน การลิ้มรส การสัมผัส และผมอาจนับรวมไปถึงสัมผัสที่ 6 คือมีใจพิเศษหรือหยั่งรู้มากกว่าคนปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถ้าผมได้มา มันอาจช่วยผมได้ในอนาคต และแตกแขนงอาชีพที่ผมทำออกไปได้อีกเยอะมาก ผมเลยมองว่า ถ้าได้มาจะโชคดีมากๆ เลย

โอมถามเรากลับว่าเพื่อตัวเองใช่ไหม?” เราบอกว่าใช่ คำตอบของเขาทำให้เรารู้สึกว่า เขามองไกลกว่าที่เราคาดไปมากผมอยากได้ความสามารถในการเขียนโปรแกรมของนักโปรแกรมเมอร์ระดับโลก เพราะผมเป็นคนมีภาพในหัวเยอะมาก แต่บางอย่างบรรยายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ เช่น ผมอยากต่อเติมบ้าน ผมมีภาพทุกอย่างเลย แต่อธิบายแล้วคนอาจไม่เข้าใจ การเขียนหรือใช้โปรแกรมให้ช่วยจัดการความคิดเหล่านั้นแทน ผมมองว่าน่าจะอำนวยความสะดวกได้มากทีเดียว และถ้าได้จริงๆ ผมจะเขียนทุกโปรแกรมที่ผมอยากทำเลย


ลับเฉพาะ (นักแสดง) เท่านั้นที่รู้

คำถามสามัญประจำซีรีส์สำหรับพวกเขาคือ ตัวละครเป็นอย่างไรบ้าง แต่น้อยคนนักที่จะถามพวกเขาว่า แล้วอะไรที่ทำให้เขาหลงเสน่ห์ของตัวละครนี้ และอะไรที่ทั้ง โอมเล้ง รู้สึกแอบไม่ชอบพอในสิ่งนี้ของพวกเขา โอมตอบในฐานะ มิน ว่าชอบในความใจเย็น

เย็นในที่นี้ ถ้าสังเกตในซีรีส์ให้ดีคือ มินจะคิดตลอดเวลา คิดเยอะมาก ทบทวนแล้วไตร่ตรองอีก จนได้คำตอบที่คิดว่า พอใจแล้วจึงค่อยลงมือทำ อีกทั้งด้วยความใจเย็นนี้เอง มินในบางช่วงเลยกลายเป็นคนอ่อนโยนในบางครั้ง แต่ไม่อ่อนแอนะ ฟีลประมาณแข็งนอกอ่อนใน

โอมใช้คำว่า มินดู กรอบนอกนุ่มใน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ส่วนสิ่งที่แอบขัดใจมินในมุมโอมก็คือเขาเป็นคนมองภาพรวม แต่มองแคบ ไม่มองเผื่อ นั่นจึงทำให้การตัดสินใจบางอย่างของมิน มีความผิดพลาดบ่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องใหญ่ๆ ที่มินเลือกและตัดสินใจไปแล้ว แต่มินไม่ได้มองเลยว่า ในอนาคตจะมีผลกระทบใหญ่อะไรตามมาอีก

สิ่งที่ผมรักและแอบไม่ชอบใจในตัวคิว มันแอบเป็นอย่างเดียวกัน แต่ว่ามองคนละมุมกันเล้งบอกว่ามันคือ ความกล้า กล้าจะที่เสี่ยง มุมหนึ่งมันก็มีข้อดีตรงที่คิวดูคล่องแคล่ว ไม่กลัวใคร เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ถึงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลายเป็นสิ่งที่เล้งไม่ชอบในตัวของคิวเพราะมันมีแต่ความผิดพลาด หรือบางครั้งคิวอาจหลงลืมสิ่งสำคัญระหว่างทางไปจากความมุทะลุเหล่านั้น เลยทำให้ความพุ่งนี้กลายเป็นเหมือนดาบสองคมที่คิวต้องรับแรงกระแทกครั้งใหญ่หลังจากนั้น

หลายคนอาจรู้ถึงแรงกระแทกนั้นแล้ว เพราะมันซัดทั้งสิ่งรอบตัว (และตัวเอง) ให้เจ็บปวดไม่มากก็น้อย เราเลยถามถึงความรู้สึกหลังแสดงเหตุการณ์แรงกระแทกนั้นของทั้งสองหนุ่ม โดยส่วนตัวโอมไม่คิดว่าจะไปถึงเวย์นั้นได้ถ้าเราทำกันไม่ได้ ผมจะรู้สึกเสียดายมากๆ สำหรับฉากนี้ เพราะทุกอย่างถูกวาดมาเพื่อให้ชีวิตตัวละครเป็นไปในรูปแบบนี้ แต่สุดท้ายเราก็ทำได้

เล้งกล่าวเพิ่มเติมต่อจากสิ่งที่โอมพูดผมว่าเครียดด้วยกันทั้งคู่ ไหนจะบทที่ยาวและมีเวลาเพียง 20 นาที แต่สปิริตทุกคนในกองเหมือนถูกงัดออกมาใช้ทั้งหมดเพื่อฉากนี้ มันเลยกลายเป็นทั้งเมจิกโมเมนต์และเป็นฉากจำสำหรับเราทั้งคู่เลย

จ้างร้อยก็แสดงให้ร้อย

ผลงานซีรีส์ของพวกเขาที่คู่กันครั้งแรก จะเปลี่ยนชีวิตของพวกคุณไปในด้านไหนบ้าง คำถามที่ในมุมส่วนตัวของเรามองว่า เปลี่ยนแน่ๆ แต่ความคิดของเจ้าตัวทั้งสองทำเราเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย เริ่มจากโอมผมว่ามันไม่ได้เปลี่ยนชีวิตผมในแง่ของชื่อเสียงหรือการเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่มันเปลี่ยนตรงที่ผมถ่ายทอดความเป็นมินออกไปแล้ว ได้นำสิ่งที่เรียนรู้จากมินมาปรับใช้ ผมว่านั่นถือเป็นกำไรในการแสดงของผมแล้ว

สิ่งที่เราสงสัยต่อมาคือ เขาได้อะไรจากมิน และมันทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างไรผมเต็มที่กับเรื่องนี้มากๆ มีร้อยก็เรียกได้ว่าให้ร้อย ผมเลยกลายเป็นคนใจเย็นมากขึ้นเพราะมิน จากที่เคยเป็นคนใจร้อน ก็เริ่มค่อยๆ คิด ค่อยๆ ไตร่ตรองถึงเหตุและผลมากขึ้น มันเลยช่วยลดอารมณ์ร้อนของผมลงไปเยอะมาก ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เราเป็นแบบนี้

เล้งบอกว่า เรื่องนี้มีร้อยผมก็ให้ล้าน ซึ่งมันเปลี่ยนตัวเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้รับบทคิวในฐานะนักแสดง ยอมรับว่า บทคิวค่อนข้างซับซ้อนและเข้าถึงยากสำหรับนักแสดงมือใหม่อย่างผม แต่ผมใส่ใจ ใส่เต็ม และกระโดดลงไปโดยที่ผมไม่กลัวอะไร ผมเลยพึงพอใจกับคิวที่ผมแสดงออกมา และผมมองก้าวต่อไปในการแสดงของตัวเองแล้วว่า ผมอยากลองทำอะไรใหม่ๆ มากกว่านี้ในฐานะนักแสดง รวมถึงได้รับบทที่ท้าทายศักยภาพของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ” 

รักและขอบคุณพาร์ทเนอร์คนนี้

ในซีรีส์มีเริ่มเรื่อง จุดพีค และการคลี่คลาย หากการนั่งคุยกับ โอมเล้ง คือ การรับชมซีรีส์เรื่องหนึ่ง ตอนนี้ก็ถึงช่วงเอนด์เครดิตแล้ว ก่อนเราจะขอบคุณทั้ง 2 คนเพื่อเป็นการส่งท้าย เราชิงถามก่อนว่า แล้วสำหรับทั้งคู่ อยากขอบคุณอะไรหรือเรื่องใดในกันและกันบ้าง

โอมเริ่มเอนด์เครดิตของตัวเองขอบคุณเล้งที่ทำให้ตัวผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมาก เหมือนเห็นตัวเองตอนเข้ามา GMMTV ใหม่ๆ ซึ่งผมได้พี่สิงโต (ปราชญา เรืองโรจน์) เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลทุกอย่างช่วงที่แสดง เขามาเชงเม้งข้างๆหลุมผมครับและเหมือนผมเองกำลังทำหน้าที่เดียวกับพี่สิงโตให้กับเล้ง ซึ่งเขามีความตั้งใจเกินร้อยมากที่จะลุยไปด้วยกันกับเรา ผมบอกได้เลยว่า คิวที่ 1 จนถึงคิวสุดท้าย เล้งเติบโตและเก่งขึ้นจริงๆ และรู้สึกดีที่ได้ให้คำแนะนำที่ดีกับเขา

ปิดท้ายด้วยเอนด์เครดิตของเล้งด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกัน และได้มาร่วมงานกับคนที่คุ้นเคยขอบคุณโอมที่ดูแลและสอนผมเป็นอย่างดี โอมแนะนำผมเยอะมาก โอมหวังดีกับผมมาก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างผมรู้สึกและสัมผัสได้ รวมถึงผมพยายามขอบคุณเขาให้ได้ทุกครั้งในทุกคำแนะนำที่เขาให้มา ผมเลยชื่นชมในทุกความตั้งใจและความหวังดีที่เขาส่งต่อมาให้ผม ขอบคุณมากเลยเพื่อน

ทันทีที่จบการสัมภาษณ์และเรากล่าวขอบคุณ ชายทั้งสองคนหัวเราะและยิ้มกว้างให้กับการพูดคุยครั้งนี้ เพราะโอมเล้งบอกว่า ไม่เคยคุยจริงจังขนาดนี้มาก่อน นอกจากบทสัมภาษณ์จะจริงจังแล้ว เราเลยชวนไปดูความจริงจังทางการแสดงของพวกเขาต่อในซีรีส์ “KIDNAP ลับจ้างรักทุกวันศุกร์ เวลา 20:30 . ทางช่อง GMM25 และรับชมย้อนหลังที่แรกทาง Netflix เท่านั้น

TMI with Ohm & Leng

1 คำถามที่อยากถามตัวละคร แล้วถ้าให้ตัวละครตอบคำถามนั้น คิดว่าเขาจะตอบว่าอะไร

โอม: ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะไปแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตไหม?

สิ่งที่คิดว่ามินจะตอบกลับมา: เราว่าเราแก้นะ เพราะข้างในเราพังมากจากปมในใจที่เกิดขึ้น มันทำลายทุกอย่างในชีวิตเรา เราว่าเราอยากแก้

เล้ง: เป็นไงที่เล่นไปโอเคหรือเปล่า?

สิ่งที่คิดว่าคิวจะตอบกลับมา:เราคิดว่านายเป็นคิวเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วล่ะ


Photographer: TT&T

Clothes : @commoncotton.official

Editor in Chief: Austin Thein

Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz

Photo Assistant: Chayut Sunthornsiri @chyt.s