บุกเจียนกรุ๊ป จับเขาคุยกับ ‘เจ๋ง-พัท’ แบบค่อยๆ รู้จักและ “ค่อย ๆ รัก”
บทสัมภาษณ์กึ่งเรื่องสั้น สวมคาแร็คเตอร์โดย:
แมน-ธฤษณุ สรนันท์ และ เบน บัญญพนต์ ลิขิตอํานวยพร
@Anuruq
ทางเจียนกรุ๊ปติดต่อฉันมาว่า อยากให้คนรู้จักพนักงานน้องใหม่และเมเนเจอร์คนใหม่ให้มากขึ้น ในฐานะฟรีแลนซ์รับจ้างสัมภาษณ์อย่างฉัน งานนี้ถือว่า ไม่ยากและไม่ง่ายซะทีเดียว เพราะ “น้องพัท-ภาคภูมิ ตั้งวัฒนา” ดูจากโหงวเฮ้งแล้ว น้องเขาดูสดใส เข้าถึงง่าย น่าจะคุยสนุก แต่ความขรึมในชุดสูทดูทางการของ “คุณเจ๋ง-กิตติพงษ์ อรรถจิรานนท์” นี่สิ มันแอบทำให้ฉันประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะไม่รู้ เขาจะมาท่าไหนกันแน่
แต่วันนี้ทั้งคู่บังเอิญมีคิวตรงกันพอดี ทางเจียนกรุ๊ปเลยจับทั้งคู่มาสัมภาษณ์ร่วมกัน จะได้จบงานทีเดียว แต่ฉันจับสังเกตได้นิดหน่อย น้องพัทเวลาอยู่ใกล้คุณเจ๋งดูอาการออกอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะเกร็งหัวหน้าตัวเองด้วยหรือเปล่าไม่รู้ น้องก็ยิ้มใจดีสู้เสือพร้อมให้สัมภาษณ์ ส่วนทางคุณเจ๋งเองก็บอกว่า ทั้งฉันและน้องพัทสบายๆ ได้เลย ไม่ต้องเกร็ง ฉันก็เปิดประเด็นเลยสิคะ จะรออะไร
@Anuruq @Jittrakarn
เมื่อคนอื่นมอง
ถ้าให้ไปถามคนในเจียนกรุ๊ปว่า คุณเจ๋งและน้องพัทเป็นคนยังไง คิดว่าเสียงตอบรับที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างไร ฉันยิงคำถามเพื่อให้เขาประเมินภาพตัวเองเวลาที่คนอื่นมองมา คำตอบของทั้งคู่ที่ได้น่าสนใจเอามากๆ เริ่มจากคุณเจ๋งเปิดประเด็นก่อนว่า
“หลายคนคงอาจไม่ชอบผมเท่าไหร่ เห็นแวบแรกอาจมีราศีของความไม่ถูกชะตาอยู่บ้าง ไม่แน่ใจว่า เพราะด้วยตัวผมเองเป็นลูกเจ้าของบริษัทหรือเปล่า จะเข้าจะออกเมื่อไหร่ก็ได้ ก็เลยมีความน่าหมั่นไส้อยู่นิดๆ นอกจากนี้ ผมก็รู้ตัวเองว่า จริงจังกับงานมากไป ชอบดุลูกน้องในบางจังหวะ เพราะต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ผมก็เลยพยายามทอนตัวเองให้เบาลงอยู่”
@Jittrakarn @Kaserox
เหมือนน้องพัทจะรู้ว่า คุณเจ๋งตอบจบประโยคแล้ว เลยตอบความเห็นตัวเองทันที “ต้องถามพี่ก่อนว่า พี่ไปถามคำถามนี้กับใคร ถ้าเป็นคนที่ผมสนิท เขาอาจจะตอบว่า ก็ไม่ได้ดีและแย่ขนาดนั้น แต่ถ้าถามคนที่ผมไม่สนิท เขาก็จะมองว่า น้องคนนี้ดูไม่ค่อยเคารพผู้อาวุโสสักเท่าไหร่ อย่างครั้งหนึ่งผมเคยหักหน้าพี่คนหนึ่งกลางที่ประชุม จนคุณเจ๋งเขาเตือนผมเรื่องนี้ ตอนนั้นผมเองก็ดาวน์มากนะ แต่พอมารู้ว่า คุณเจ๋งอยากให้ผมโตขึ้นในทางที่ดี ผมเลยเข้าใจการกระทำของเขา”
เมื่อมองตัวเอง
บางครั้งสายตาที่คนอื่นมองมาก็ไม่เท่ากับกระจกที่ส่องหาตัวเอง ฉันเลยถามทั้งคู่ว่า แล้วถ้าให้บอกถึงสิ่งที่ชอบและไม่ชอบในตัวเอง คิดว่าจะลิสต์ออกมาได้กี่ข้อ คุณเจ๋งผายมือให้น้องพัทตอบก่อน น้องนั่งคิดครู่หนึ่งก่อนตอบออกมา
@Palm Angels @Jittrakarn
“ใจผมรักและชอบความท้าทาย รวมถึงอยากพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเก่า ไม่ว่าโปรเจกต์ไหนก็ตาม อยากทำออกมาให้ดีที่สุด จะบอกว่าชอบในความเต็มที่ของตัวเองก็ได้มั้งครับ มันเลยแอบกดดันตัวเองนิดๆ และปฏิเสธพี่ที่ทำงานไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ถ้าถามถึงสิ่งที่ไม่ชอบในตัวเอง ผมอาจไม่ชอบความเป็นเด็กของตัวเองเท่าไหร่ บางครั้งจะเสนอความเห็น คิดหรือขยับตัวจะทำอะไร ก็แอบยาก”
คุณเจ๋งเห็นน้องพัทตอบก็ได้แต่ยิ้ม ฉันเองแอบเสียมารยาทว่า คุณเจ๋งยิ้มอะไรเหรอ เขาก็ตอบออกมาว่า เป็นคำตอบที่จริงใจที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา ฉันเลยใช้คำถามเดียวกันถามกลับเจ้าของรอยยิ้มอีกครั้ง “ผมชอบที่ตัวเองเอาใจใส่ในรายละเอียด จะว่าเป็นคนพิถีพิถันละเอียดอ่อนก็ได้ และเป็นคนฉลาดวางแผน อยากได้อะไร ก็ต้องทำให้ได้ คงเหมือนกับน้องพัทที่อยากท้าทายและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
@Palm Angels @H&M @Jittrakarn
“แต่วิธีการของผมอาจทำให้ใครหลายคนอึดอัด ยังไงฝากขอโทษถึงพวกเขาผ่านสัมภาษณ์นี้ด้วย ส่วนที่ไม่ชอบ ผมว่าผมอาจมองหรือทรีตคนไม่เก่งเท่าไหร่ เพราะผมอยู่ในโลกของตัวเองมานาน เข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้ไม่เก่ง ซึ่งผมเองก็รู้นะครับว่า ตัวเองบกพร่องตรงนี้ แต่เรื่องบางเรื่อง ผมว่าต้องค่อยๆ แก้แบบค่อยเป็นค่อยไป มันแก้แบบวันสองวันคงเป็นไปไม่ได้”
เมื่อมองความรัก
คุณเจ๋งอาจมองหรือทรีตคนอาจจะไม่เก่ง แล้วเรื่องความรัก เขาใช้แว่นไหนมองสิ่งนี้หรือนิยามมันไว้ว่าอย่างไร ผู้บริหารหนุ่มยิ้มแบบอายๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ผมคิดว่าประสบการณ์ความรักของตัวเองไม่ได้มีเยอะมากนะ แต่ถ้ารักใครแล้ว ผมรักจริง พร้อมที่จะเสียสละให้คนนั้นๆ แบบหมดหัวใจ ผมเลยมองว่า ความรักเป็นเรื่องของความเอาใจใส่ ความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งตอนแรกผมอาจจะไม่มี แต่ผมมามีอีกที ตอนรู้จักกับน้องพัทนี่แหละครับ”
@Anuruq
ฉันตาเบิกโพลงหลังผู้บริหารหนุ่มตอบจบ เลยแอบถามต่อว่า แบบนี้เรียกว่า อาการคลั่งรักหรือเปล่า สิ่งที่เขาตอบคือ ไม่ถึงกับคลั่งรัก แต่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ และเมื่อน้องพัทเข้ามาในชีวิต ทำให้เขาเห็นตัวเองในมุมใหม่และเปลี่ยนตัวเองหลายอย่างเพื่อคนคนหนึ่ง น้องพัทเหมือนตกอยู่ในภวังค์ จนฉันต้องเรียกสติกลับมาว่า แล้วน้องพัทมองความรักเป็นแบบใด
“ผมมองว่า ความรักคือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนครับ เพราะถ้าเรารักเขาจริงๆ และเราให้เขาไปแล้ว จนอยู่ในจุดที่ตัวเองรู้สึกพอใจ ผมว่าแค่นั้นมันก็เพียงพอสำหรับความรักแล้วครับ แต่บางครั้งบางทีความรักมันก็มีความคาดหวังปนมาด้วย มันก็อาจทำให้เราเจ็บโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ดังนั้น อาจจะต้องเผื่อใจเอาไว้บ้าง”
@Anuruq
เมื่อมองถึง “แมน-เบน”
เสียงเปิดประตูดังเข้ามาตอนเรากำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการสัมภาษณ์ พี่หญิงบอกว่า เดี๋ยวทางทีมจะมีประชุมต่อในอีก 10 นาทีข้างหน้า ฝากฉันผู้เป็นคนสัมภาษณ์เร่งให้หน่อย ฉันเลยไม่รอช้า ติดเครื่องด้วยคำถามถึงนักแสดงที่ชื่อ ‘แมน’ และ ‘เบน’ ที่มารับบทเป็นพวกคุณ 2 คน ว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้อะไรจากการใช้ชีวิตเป็นคุณเจ๋งและน้องพัท น้องพัทตอบถึงเบนอย่างฉะฉานว่า
“ผมว่าเบนเขาคงรู้สึกว่า ทุกวันในชีวิตของผมมันดูแย่ มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้เข้ามา แต่อยากจะบอกเบนเหมือนกันว่า มันเป็นแค่ Bad Day แต่ไม่ใช่ Bad Life ของผม ผมยังมีชีวิตสนุกในมุมอื่นของผมได้อย่างอยู่กับพี่แอ๊ะ พี่ขนุน ผมก็จอย ฉะนั้นถ้าวันไหนที่รู้สึกแย่ อยากบอกเบนว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไปครับ”
คุณเจ๋งยิ้มเหมือนพอใจในคำตอบน้องพัท และตอบคำตอบของตัวเองเติมเข้าไป “ผมว่าตัวเองก็ไม่ได้ถูกที่สุดหรือเก่งที่สุดเสมอไปนะ มีอะไรที่ต้องแก้ไขในตัวผมเยอะมาก ผมเลยคิดว่า โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา และเราก็ไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล ลองมองถึงความรู้สึกคนอื่นบ้าง ผมว่าแมนเขาคงตกผลึกเรื่องนี้ได้ดีเลยแหละ”
@Anuruq @COS @Jittrakarn @Kaserox
แล้วทั้งคู่คิดว่า เมื่อชีวิตคุณเจ๋งและน้องพัทฉายออกไปแล้ว มันจะเปลี่ยนชีวิต ‘แมน’ และ ‘เบน’ ไปแค่ไหน คำถามสุดท้ายก่อนที่จะลาจากกันไป คุณเจ๋งตอบกลับมาด้วยสีหน้าภูมิใจว่า “ผมไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนชีวิตเขาไหม แต่ผมรู้อย่างหนึ่งว่า เขาต้องรักผมมากขึ้นแน่ๆ เพราะชีวิตผมคือสุดในแบบที่แมนเองก็ไม่น่าจะเคยเจอในชีวิต เขาเองคงลุยมาหนักมาก หลังจากนี้เขาคงมีความสุขมากขึ้น และคงขอบคุณที่ได้มาเป็นผมในวันนี้”
“ผมว่าน่าจะเปลี่ยนชีวิตเบนไปประมาณหนึ่งเลย” น้องพัทมองคู่สนทนาแวบหนึ่ง ก่อนตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “เพราะว่าเบนเองเขาก็ยังเด็กและเรียนอยู่ แต่การทำงานตรงนี้ มันน่าจะทำให้เขาซึมซับ Working Environment ในทางอ้อมเหมือนกันว่า ถ้าทำงานจริง จะเจอสังคมแบบไหน เจ้านายจะเฮี้ยบแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งผมว่าเขาคงกลัวแหละกับบรรยากาศแบบนี้ เพราะเขาไม่ได้เข้ากับคนเก่งขนาดนั้น
แต่ผมเชื่อว่า เขาจะพยายามหาทางรับมือกับมันอย่างดีแน่นอน”
พี่หญิงเปิดประตูห้องรับรองเข้ามาเหมือนรู้เวลา ฉันได้แต่ขอบคุณทั้งสองคนที่เสียสละเวลามาให้สัมภาษณ์ คนหนึ่งเดินค้อมตัวออกไปอย่างสุภาพ ส่วนอีกคนกระชับสูทให้มั่น
พร้อมกล่าวขอบคุณ ฉันก็ได้แต่บอกว่า จะเรียบเรียงบทสัมภาษณ์ออกมาให้ที่ดีสุด
ไม่รู้ว่า สิ่งที่เขียนออกมาเป็นอย่างไร ให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสิน และดูจังหวะชีวิตในออฟฟิศ รวมถึงความรักของพวกเขาทั้ง 2 คนแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ใน “ค่อย ๆ รัก” ทุกวันอังคาร เวลา 23.00 น. ทางช่อง one31 พร้อมกันนี้ ยังสามารถรับชมย้อนหลังทุกคืนวันพุธ เวลา 00:30 น.
และเบื้องหลัง Exclusive ทุกวันศุกร์ เวลา 20:00 น. ได้ที่ WeTV
Get to Know and Get to Love Jeng-Pat from “Step by Step”
A short-story interview with the characters portrayed by:
Man-Trisanu Soranun and Ben-Bunyapol Likhitamnuayporn
Jian Group contacted me with a request that they wanted the public to know more about their new employee and manager. As an interview freelancer, this task sounded simple but not easy because “Pat – Thanet Tangwatthana”, based on his appearance, seemed to be cheerful, approachable, and amiable. On the other hand, the taciturn look in a formal suit of “Jeng – Kittiphong Atthachiranon” made me slightly nervous because of his inscrutability.
@COS @Jittrakarn
Since both of them were available today, Jian Group brought them together for this interview to kill two birds with one stone. From what I noticed, Pat got all worked up whenever Jeng was around. He might be nervous because of his boss. But he tried to muster up his courage with a pleasing smile and readied for the interview. While Jeng just told me and Pat to relax and chill. With no hesitation, I took my chance to start the interview.
How Others See Us
If we ask the people in Jain Group what Jeng and Pat arelike, what kind of answer do you expect? That was my question to see how they perceive themselves from an outsider’s point of view. Their answers were surprisingly intriguing. Jeng started first by saying,
“Several people may not like me. They may not have a good impression of me. I’m not certain if it’s because I’m the son of the company’s owner. I can come and go freely so it may upset somebody. Besides, I know that I’m too serious with work, and sometimes I scold my subordinates because I need everything to be perfect. Well, I’m trying to tone it down.”
@COS @Jittrakarn @Kaserox
When Pat realized that Jeng finished his sentences, he immediately shared his opinion: “It depends on who you ask. If they’re close to me, they may say that I’m neither good nor bad. But if you ask someone who isn’t close to me, they may say I don’t respect the senior. One time, I embarrassed one of the seniors in the middle of a meeting. Jeng did reprimand me about it which made me low in spirits. But when I learned that Jeng wanted me to grow in the right direction, I understood his action.”
How I see Myself
Sometimes looking from other people’s perspectives is not as good as looking at your own reflection. Hence, I asked them to tell me their likes and dislikes about themselves. Let’s see how many things they could list out. Jeng gestured his hand toward Pat to let him answer first. Pat was contemplating for a moment before giving me his answer,
“I love and like challenges, including improving myself to become a better version. Whatever project it is, I’d give it all. Basically, it probably means that I like my dedication. But as a result, I kind of put pressure on myself, so I’m not good at rejecting any requests from my colleagues. Regarding the thing that I dislike about myself, I’m not very fond of my childishness. Sometimes, it’s pretty difficult when I offer my ideas or take any actions.”
@Palm Angels @H&M @Jittrakarn
Jeng smiled while listening to Pat’s answer. I cannot help asking him what he was smiling at. He answered that it was the most sincere answer he ever heard. So I used that same question to ask the smiling Jeng again. “I like that I’m very focused on the details. A meticulous person, perhaps. And a calculated one that achieves any goals set. It’s quite similar to Pat’s in that I love challenges and always improve myself.
“But my approach may cause many people uncomfortable. Please convey my apologies to them through this interview. Regarding my dislike, I think I may not be good at understanding or treating people because I have always been in my own world. I’m not good at empathizing with others which I know it’s my flaw. But for some matters, I think I need to take step by step. It’s impossible to get it fixed in a flash.”
@Palm Angels
How We See Love
Jeng is not very good at understanding or treating others but when it comes to love, what kind of lens does he use to see it, or what does it mean to him? The young manager smiled shyly before giving his answer with a gentle voice, “I think I don’t have a lot of experience with love. But when I love someone, I truly mean it. I’ll be ready to wholeheartedly devote myself to them. So I see love as a matter of care and empathy. It was something I used to lack, but then acquired after I’ve known Pat.”
My eyes popped out with surprise after the young manager finished his answer. So my next question was if this could be called crazy in love. Jeng replied that it wasn’t really him being crazy in love, but a spontaneous feeling. When Pat came into his life, it made him see himself from a new perspective and many things in him started to change for that person.
Pat seemed to be lost in his thought that I needed to call his attention with a question. How do you see love?
“I see love as the giving without expecting anything in return. If we truly love someone and we give them all of our hearts to the point that we’re satisfied, I think that’s more than enough for love. But sometimes, love comes with expectations and it may unconsciously put us in pain. Hence, we’d better keep ourselves in reserve for some disappointment.
@Anuruq
How We See “Man-Ben”
The door cracked open when we reached the last part of the interview. Ying, one of Jian Group employees, notified us that the team meeting would start in ten minutes and asked me, the interviewer, to wrap this interview up quickly. Without pause, I asked them about the main cast named “Man” and “Ben” who will be portraying both of them. What will they learn from putting themselves in the shoes of Jeng and Pat? Pat eloquently answered about Ben,
“I think Ben would feel that my every day seems like a bad day. It is full of awful things. But I wanted to tell him that just because it’s a bad day, it doesn’t mean that it’s a bad life. I can indulge in my other parts of life like the time I spend with Ae and Khanun. I enjoy it. Thus, when you have a bad day, I’d like to let Ben know that it shall pass eventually.”
Jeng who seemed to be pleased with Pat’s answer smiled and took his turn to answer, “I don’t think that I’m always right or I’m the best in everything. There are a lot of things that need to be fixed. So I came to the conclusion that the world doesn’t revolve around us and we aren’t the center of the universe. I should care about other people’s feelings. I think Man has crystalized well about this.
And how will the life of “Man” and “Ben” change after the airing of Jeng and Pat’s life? This is the last question before bidding our farewell. Jeng replied with pride, “I don’t know if it will change his life, but I know that he will love me more. Because my life is one of the extreme kinds that he has never experienced before. It must have been an arduous journey for him. From now on, he should be happier and thankful for being me today.”
@Anuruq
“I think it will change Ben’s life at a certain level”, said Pat with a serious expression after a brief glance at his partner. “Because Ben is still young and he is studying. But working here will give him a chance to indirectly absorb the real working environment; what kind of environment he will face or what kind of boss he will deal with in an actual workplace. I think he is probably scared in this kind of atmosphere because he isn’t a people person. But I believe that he will definitely find the way to handle it.”
Ying opened the lounge door as if she knew that the interview had finished. I thanked both of my interviewees for their time. One politely bent his head before leaving, while the other tightened his suit and said thanks to me. I only replied that I’d do my best in writing this interview.
As a reader, it’s your call to decide how this piece of the interview has turned out to be. You can watch the steps of life in the office and their gradually growing love in “Step by Step” every Tuesday at 23:00 ICT on Channel one31. The rerun is available every Wednesday at 00:30 ICT and the exclusive behind-the-scenes is available on Friday at 20:00 ICT on WeTV.
Creative Director/Photographer: Termsit Siriphanich @termsit
Stylist: Khomkrit Thanasomboon @Kristhanasomboon
Stylist Assistant: Achira prommarak @achira_prom
Clothes & Accessories: @Anuruq @Cosstores @PalmAngels H&M @hm_man
@Jittrakarnjewelry @Kaserox_official
Editor in Chief: Austin Thein
Photo Assistant: Nol Kerdsup @gur_kerdsup
Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz
Translator: Pa-kwan Panyatona @ferinpanyatona
#MANBENxPOSH
