“จูเนียร์-ฟลุ๊คจ์” ทบทวนความทรงจำที่ชวนให้ ‘คุณได้ไปต่อ’ กับทั้งคู่
#ช่องสามโปรดรู้หนูอยากไปต่อ ช่องรู้ แฟนคลับรู้ POSH เองก็รู้ว่า คู่นี้ควรได้ไปต่อกับเรื่องราวที่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของ “หมอจิ-อชิ” ในซีรีส์หวานกำลังดี “คุณได้ไปต่อ – To be continued Series” ที่หลายคนบอกว่า สุดท้ายแต่ไม่อยากให้ท้ายสุด เราเลยชวน “จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี @kajbhunditt ” และ “ฟลุ๊คจ์-พงศภัทร์ กันคำ @fluke_pongsapat ” มาทบทวนความทรงจำของเรื่องนี้ให้คุณหายคิดถึง และชวนเชียร์ให้ทั้งคู่ได้ไปต่ออีกครั้ง
ทบทวน #1 | “ซิงโครไนซ์” ให้ได้ไปต่อ
จูเนียร์: หาวัยเด็กของอชิผมว่ายากนะ อย่างผมอยู่กับแม่คนเดียวในเรื่อง ซึ่งในเรื่องอาจไม่ได้เล่าถึงคุณพ่อสักเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกที่ไม่มีพ่ออยู่ด้วย แม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วย เพราะแม่ไปอยู่ต่างประเทศ อีกทั้งยังย้ายโรงเรียนบ่อยถึงบ่อยมาก เลยต้องทำความรู้จักกับอารมณ์ของอชิพอสมควรว่า การที่ไม่มีเพื่อน การที่ต้องรู้สึกเหงาแล้วต้องหาใครสักคนหนึ่ง มันเป็นอย่างไร
ฟลุ๊คจ์: ของผมเองก็คล้ายๆ กันกับจูเนียร์นะ แต่สลับกันตรงที่แม่ของผมเสียไปแล้ว แถมยังไม่ถูกกับพ่ออีก เหลือแค่น้องที่เข้าใจเรา กว่าที่ผมจะเจอคาแร็คเตอร์หมอชิได้ ผมใช้เวลานานพอสมควรเลย สิ่งที่ช่วยให้ผมเจอคาแร็คเตอร์หมอจิได้มากขึ้นคือ ช่วง Workshop มีการใช้เทคนิคแบบหนึ่งที่เรียกว่า “โฟกัสเปิด” คือใช้สัญชาตญาณของตัวเองในการรับมือ คือเล่นไปตามความรู้สึก มันเลยทำให้เราค้นหาหมอจิได้ดีขึ้น
ทบทวน #2 | “”สติ” ช่วยให้ได้ไปต่อ
ฟลุ๊คจ์: ผมจำวันแรกที่เข้าฉากได้แม่นเลยคือ ฉากขับรถมอเตอร์ไซค์มารับเขาที่บ้านไปอีกที่หนึ่ง เป็นฉากที่สั้นและง่ายมาก แต่อาจจะมีหลายเทคหน่อย เพราะจำได้ว่ารับหลายมุมกล้องอยู่เหมือนกัน เลยทำให้การทำงานเรื่องนี้ สิ่งที่ต้องพกติดตัวมาโดยตลอดคือ สติครับ ถึงจะทำให้ตัวเองได้ไปต่อ (หัวเราะ)
จูเนียร์: ขยายความฟลุ๊คจ์นิดนึงตรงเรื่อง “สติ” คือไม่เกินจริงเลย เพราะกองนี้ทำงานกันเร็วมากๆ ต้องกระตือรือร้นและตื่นตัวตลอดเวลา ส่วนหนึ่งเพราะความเป็นซีรีส์ มันเลยต้องใช้จังหวะและความเร็วพอสมควร ทุกอย่างเลยฉึบฉับมาก ต้องบอกว่า โชคดีที่พวกผมมีถ่าย Pilot กันไปก่อนหน้านี้ เลยพอจับจังหวะได้ว่า เขาใช้ความเร็วแค่ไหน สติเลยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองนี้
ทบทวน #3 | ฉากเด็ดที่ชวนให้คนดูต่อ (หลายๆ ครั้ง)
ฟลุ๊คจ์: ผมแนะนำฉาก “สะพาน” เลย เพราะตอนนั้นอารมณ์และความรู้สึกทุกอย่างลงตัวทั้งหมด รวมถึงตอนแสดงผมรู้สึกดีกับฉากนี้มากๆ อีกทั้งมันยากด้วย เพราะต้องอยู่กับที่ แต่มีเหตุการณ์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นอารมณ์หนึ่ง ระหว่างฉาก ก็อีกอารมณ์หนึ่ง เดินออกไป ก็เป็นอีกอารมณ์ คือสุดจนชวนให้หลายคนต้องดู และแม้ผมจะชอบฉาก “สะพาน” แต่ฉากนี้ก็ถือเป็นอีกฉากที่ผมอยากจะกลับไปแก้อีกครั้ง ถ้าทำได้ เพราะอยากได้เวลามากกว่านี้ในการคราฟต์อารมณ์ให้สมบูรณ์กว่านี้
จูเนียร์: ใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ ไปดูเลยครับกับฉาก “เฟรนด์ชิพ” ผมชอบนะ เพราะมวลอารมณ์และความรู้สึก ณ ตอนนั้นมันอึดอัดและท้าทายผมในการถ่ายทอด เป็นสิ่งที่อยากบอก แต่บอกไม่ได้ เป็นความในใจที่อยากบอก แต่ก็ไม่กล้าบอก รวมถึงถ้าพูดหรือเขียนออกไป ก็กลัวผลลัพธ์ที่จะออกมา โดยเป็นการทำใจทางอารมณ์ในระดับหนึ่ง ซึ่งมีความซับซ้อนทางความรู้สึกพอสมควร
ทบทวน #4 | “พาร์ทเนอร์” ที่หลายคนเชียร์ให้ไปต่อ
จูเนียร์: สิ่งที่ดีที่สุดในการได้มารู้จักและทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่ชื่อ “ฟลุ๊คจ์” คือ “ความจริงใจ” ครับ ผมมองว่า เป็นคนคนหนึ่งบนโลกใบนี้ที่ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจมากที่สุด ด้วยบุคลิกเป็นคนพูดตรง ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น ผมเลยคิดว่า การมีความจริงใจต่อกัน มันช่วยทำให้ทั้งผมและเขาเข้าหากันได้ง่ายขึ้น และอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงในอนาคตต่อไป
ฟลุ๊คจ์: เขาพูดถึงผมในด้านความจริงใจ งั้นผมขอพูดถึงเขาในด้าน “ความอุ่นใจ” แล้วกันครับ ในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์ทางการแสดงร่วมกัน บอกเลยว่า อุ่นใจทุกครั้งที่ได้แสดงกับเขา เพราะเขาเป็นคนละเอียดมาก มันช่วยทำให้ผมรู้สึกไปกับตัวละครได้ลึกขึ้นและคอยส่งความรู้สึกให้ผมเข้าถึงตัวละครได้เป็นอย่างดี ก็ขอบคุณเขาจริงๆ รวมถึงดีใจที่ได้เขามาเป็นคู่หู (คอยแกล้ง) ให้ผมตื่นตัวอยู่ตลอดด้วย (หัวเราะ)
ทบทวน #5 | ประเมินตัวเองและเพื่อนต่อเรื่องนี้
จูเนียร์: เต็ม 10 ผมให้ 10 เลยครับกับเรื่องนี้แบบไม่ต้องสงสัย เพราะผมทำเต็มที่และลงแรงลงใจไปกับเรื่องนี้มากๆ ส่วนกับ “ฟลุ๊คจ์” ผมให้ 9 เพราะผมอยากมากกว่าเขาก็เท่านั้นเองครับ ต้องชนะ (หัวเราะ)
ฟลุ๊คจ์: ผมให้ 100 ครับ ของผม 100 เลย ผมชนะเขาแบบเกินลิมิตไปเลย (หัวเราะ) แต่ถ้ามีแค่ 10 ผมก็ให้ตัวเองเต็ม 10 เหมือนกันครับ เพราะผมตั้งใจกับซีรีส์เรื่องนี้มากจริงๆ ส่วน “จูเนียร์” เหรอ ผมให้เขา 9.5 เพราะผมเองก็อยากชนะเขาเหมือนกัน แต่ให้เกินมานิดนึง เดี๋ยวเขาร้องไห้ (หัวเราะ)
เข้าขากันขนาดนี้ พูดได้เต็มปากกว่า ได้ไปต่อในใจของแฟนคลับทุกคนแน่ๆ กับ “จูเนียร์” และ “ฟลุ๊คจ์” ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ด้วย โดย “คุณได้ไปต่อ” ชมย้อนหลังในเวอร์ชัน Uncut ได้แล้วที่ 3plus premium และ Netflix
นอกจากนี้ ตอกย้ำความสำเร็จของเรื่องกับอีเวนต์ คุณได้ไปต่อ FANMEET วันที่ 28 เมษายน 2567 ที่จะทำให้คุณฟินและจึ้งใจมากขึ้นกับพวกเขาทั้งคู่ ซื้อบัตรได้แล้วที่ thaiticketmajor ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com แล้วมาร่วมสร้างความทรงจำไปด้วยกันกับพวกเขาเยอะๆ นะ
