Cover Interview – JAMES MA – NEEYA MAKELA

“เจมส์ มาร์นีญ่า มากีลา” กับครั้งแรกของเขา เธอ ฉัน และเราใน “นาคบรรพ์ | Eternal Bond

โคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกบนจอเงินกับภาพยนตร์ “นาคบรรพ์ | Eternal Bond ที่นักแสดง “เจมส์ มาร์” และ “นีญ่า มากีลา” พร้อมแล้วที่จะพาทุกท่านดำดิ่งสู่เรื่องราวความรัก ความผูกพัน และการต่อสู้ที่อาจต้องแลกด้วยชีวิตกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความลี้ลับและตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ และการเดินทางครั้งนี้กำลังจะสิ้นสุดลง เพราะเราจะได้พิสูจน์การแสดงของทั้งคู่แบบเต็มตา

แต่ทว่าเรื่องราวในภาพยนตร์ว่าเข้มข้นแล้ว เบื้องหลังและการร่วมงานของทั้งคู่ก็เข้มข้นไม่แพ้กัน POSH MAGAZINE THAILAND เลยขอจับเข่าคุยกับทั้งสองในธีม “ครั้งแรก” ที่พาคู่พระนางไปทบทวนความคิด การทำงานที่ผ่านมา และการได้เป็นพาร์ทเนอร์ทางการแสดงร่วมกัน ผ่านความเป็นเขา เธอ ฉัน และเรา ที่สัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่มีอย่างเต็มเปี่ยมให้กับเรื่องนี้

ละลายพฤติกรรมครั้งแรก

นีญ่า: สิ่งที่ทำให้เราได้รู้จักและทำความเข้าใจกันมากขึ้นคือ การพูดภาษาอังกฤษ (หัวเราะ) ช่วงนั้นจำได้เลยว่า พูดและใช้ภาษาอังกฤษกันบ่อยมาก กลายเป็นว่า เราแทบจะคลิกกันในทันที เข้าใจกันและกันอย่างลงตัว รวมถึงภาษาอังกฤษช่วยทลายกำแพงในใจระหว่างเราได้เยอะมาก

เจมส์ มาร์: ผมเสริมนีญ่าเพิ่มเติม ตอนที่ผมเข้ามาในวงการยุคแรกๆ มีคนบอกผมว่า อย่าพูดภาษาอังกฤษ เพราะเวลาพูดอาจมีผลไปถึงตอนแสดงจริง ที่ภาษาหรือสำเนียงที่เราใช้อาจจะเพี้ยน แต่ผมเลือกที่จะพูดภาษาอังกฤษกับนีญ่า เพราะวัตถุประสงค์ในการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างตรงไปตรงมาในแบบที่ไม่สร้างความสับสน ผมไม่กลัวเรื่องการติดสำเนียงไปใช้ เพราะนีญ่าพูดภาษาไทยชัด แต่ผมพูดภาษาอังกฤษ เพราะต้องการให้นีญ่ารับรู้ว่า ผมเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงานของเขาหรือเพื่อนคนหนึ่งที่คุยกับเขาได้ ไม่ว่าจะเรื่องการแสดงหรือเรื่องอะไรก็ตาม

ความรู้สึกแวบแรกที่อ่านบท

นีญ่า: ตอนที่ได้อ่านบทครั้งแรก ยอมรับเลยว่า บทน่าสนใจมาก ด้วยความซับซ้อนหลายๆ อย่างของ “จินตา” ทำให้ตัดสินใจรับแสดงเรื่องนี้ เพราะอยากรู้ว่า เราจะถ่ายทอดความซับซ้อนออกมาได้ดีแค่ไหน คนจะเข้าใจหรือรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เราตีความออกมา รวมถึงหลายฉากที่อ่าน อยากรู้ตัวเองว่า จะมีอินเนอร์ร่วมกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร เลยรู้สึกว่าสิ่งนี้น่าลอง และส่วนตัวเป็นคนที่ชอบความท้าทายและลองสิ่งใหม่ๆ อยู่แล้ว เลยทำให้บท “จินตา” กลายเป็นความท้าทายที่สมใจตัวเองแบบสุดๆ (ยิ้ม)

เจมส์ มาร์: ผมอยากเล่นบท “ธารินทร์” เพราะหน้าที่ของเขาคือ “เสรีไทย” ตอนแรกที่เห็นเรื่องย่อ ผมคิดเลยว่า มันคือหนังแอ็คชั่นฮีโร่ สงคราม คิดไปทางนั้นแล้ว แต่พอมาเห็นบทจริง ไม่เห็นมีบู๊เลย ถึงขั้นไปถามผู้กำกับว่า ผมไม่ได้บู๊กับใครเลยเหรอ (หัวเราะ) จริงๆ หน้าที่เสรีไทยคือบู๊นะ แต่ไม่ใช่พละกำลัง แต่บู๊กันด้วยความเชื่อแบบ Propaganda พอได้ยินแบบนี้ ผมขนลุกเลย เพราะผมไม่เคยเล่นแบบนี้ อยากลองแสดง อยากเล่นโดยที่ไม่ไปตีกับใคร แต่ใช้ความเชื่อและจิตวิทยาห้ำหั่นกันล้วนๆ

ทำงานกับผู้กำกับ (คนนี้) ครั้งแรก

เจมส์ มาร์: ผมใช้คำว่า “บันเทิงมาก” เพราะพี่ตั้ม (โชคอนันต์ สกุลธรรม) ผู้กำกับของเราน่ารักมาก เป็นคนที่วิ่งทั่วกองเลย บางทีเดินมาจับนักแสดงเอง บางทีเดินมาดูนักแสดงแต่งหน้าเอง บางทีเดินมาเช็คความต่อเนื่อง คือไปทั่วมาก (หัวเราะ) ซึ่งความน่ารักตรงนี้ มันเลขทำให้เขากลายเป็นคนที่ทุกคนเข้าไปหาเพื่อขอคำปรึกษาเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบทหรือการแสดง ผมเองก็เข้าไปหาเขาเยอะนะ มีคำถามเยอะมากด้วย แต่สิ่งที่พี่เขาตอบกลับมาคือ “ไม่ต้องคิดเยอะ เป็นตัวละครก็พอ เดี๋ยวที่เหลือเป็นหน้าที่ของพี่เอง” พูดแบบนี้แล้วผมอุ่นใจและโล่งใจมากเลย

นีญ่า: ขอเสริมนิดนึง พี่ตั้มทำให้บรรยากาศการทำงานเต็มไปด้วยความสบายใจ ดึกแค่ไหนพี่เขา ก็ยังยิ้มแย้มอยู่ ลำบากแค่ไหน พี่เขาก็ยังสู้ ดูภายนอกเขาเป็นคนชิล แต่ทำงานจริงเก็บรายละเอียดแทบทุกเม็ด และพร้อมที่จะดูแลทุกคนเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายในขณะทำงาน และที่สำคัญเขาชอบชวนคุยมาก (หัวเราะ) ให้พลังบวกและกำลังใจที่ดีกับเรามาโดยตลอด อยู่ด้วยแล้วไม่เครียด และยอมรับว่า พี่เขาน่าจะรู้ความในใจของเราเยอะมาก เพราะเขารับฟังทุกคน และเป็นนักฟังที่ดี

ร่วมงานกับ “นก สินจัย” ครั้งแรก

นีญ่า: ตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นแบบคูนสิบ คูณร้อย คูณพันเลย เพราะเราต้องใกล้ชิดและแสดงร่วมกับพี่เขาทุกฉาก มันเป็นความตื่นเต้นที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน จะว่าเกร็งก็เกร็ง เพราะเราเคยดูผลงานพี่เขามาก่อน และเราเป็นสายดูละครเวที โดยเฉพาะเรื่อง “ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล” คือชอบมาก เป็นนักแสดงแบบอย่างที่ดีและเป็นไอดอลของแม่เราด้วย แล้วพอได้มาแสดงแบบปะทะกันจริงๆ มันเหมือนฝันมาก จาก “จะว่าเกร็งก็เกร็ง” มันเลยกลายเป็น “จะว่าดีใจก็ดีใจ” เพราะเราได้ประกบกับนักแสดงมากฝีมือที่ไม่รู้ว่า จะไปหาโอกาสแบบนี้จากไหนได้อีก มันเลยกลายเป็นความตื่นเต้นขั้นสุดไปเลย

เจมส์ มาร์: หลายคนคิดว่า ผมอยู่วงการมานาน คงได้ร่วมงานกับพี่นกมาบ้าง ขอบอกตรงนี้เลยว่า เรื่องนี้ตัดสายสะดือร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างผมกับพี่นก (ยิ้ม) ทุกครั้งที่ได้เจอมีแต่สวัสดีพี่เขา ทักทาย และก็จบกันไป แต่วันนี้ได้มาแสดงร่วมกันแล้วรู้สึกยินดีมากๆ แม้จะเป็นแบบโฉบไปเฉี่ยวมาไม่ได้ปะทะจังๆ เหมือนนีญ่า แต่ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เขากำลังแสดงกันอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ยืนข้างๆ แต่พลังมันออกมามากมายเหลือเกิน มันเลยกลายเป็นหนึ่งในความประทับใจที่เราได้สัมผัสฝีมือการแสดงของนักแสดงที่เราอยากร่วมงานด้วยมานาน ถ้าจะให้พูดง่ายๆ คือ ผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้นีญ่าเหมือนกัน (หัวเราะ)

เล่นกับซีจีครั้งแรก

นีญ่า: เอาจริงๆ พี่ตั้มแค่บอกว่า ปล่อยไปตามน้ำเลย แต่จากที่ตอบสัมภาษณ์ไปเมื่อครู่นี้ สุดท้ายแล้วพี่เขาก็ละเอียดมากอยู่ดี (หัวเราะ) เพราะอารมณ์ต้องถึง ผู้ชมต้องเชื่อ ช็อตการมององค์พญานาคก็ต้องได้ สรุปคือ ยากมาก ต้องแม่นและทำการบ้านเยอะพอสมควรเลยว่า องค์พญานาคมีลักษณะแบบไหน ดวงตาเป็นแบบใด รายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับองค์พญานาคที่พี่ตั้ม (ผู้กำกับ) ให้ข้อมูลไว้ เราต้องนำมาประกอบในความคิดของเราและแสดงมันออกไป เลยรู้สึกว่าเล่นกับซีจีไม่ง่ายเลย

เจมส์ มาร์: ขอลอกคำตอบของนีญ่าได้ไหม (หัวเราะ) สำหรับเรื่องซีจี ตอนแสดงผมจำได้เลยว่า มันมีความมากขึ้น น้อยลง ไม่พร้อมกัน ของช็อตองค์พญานาคอยู่เยอะมาก สุดท้ายแล้วผมมองว่า มันเป็นการจับจังหวะและการลองผิดลองถูกอยู่ประมาณหนึ่ง ซึ่งพี่ตั้ม (ผู้กำกับ) จะคอยนำทางให้เราจนไปหาจุดที่มันสมดุลจริงๆ ในการแสดง ผมเองก็ทำการบ้านหนักมากกับเรื่องนี้ เช่น ไปหาฉากองค์พญานาคที่คล้ายกัน หรือฉากที่คนเห็นองค์พญานาค เพื่อให้จินตนาการภาพตามได้

 

ความในใจครั้งแรกถึง “พาร์ทเนอร์”

เจมส์ มาร์: นีญ่าเก่งมาก ผมรู้ว่าเขาตื่นเต้น ผมเลยทำให้ทุกอย่างสบายๆ ชิลๆ ไม่กดดัน เพื่อให้นีญ่าก้าวข้ามคำว่าตื่นเต้นและกังวล กลายเป็นสนุกด้วยกัน ผมถึงขั้นบอกน้องเลยว่า จะเล่นอีก 10 เทคหรือ 20 เทคก็ได้ เพราะสุดท้ายเราคือพาร์ทเนอร์ในการทำงานด้วยกัน เรามั่วไปด้วยกัน (หัวเราะ) แต่ด้วยความพยายามของนีญ่าบอกได้เลยว่า มันไปสุดจริงๆ เก่งมาก

นีญ่า: จำได้เลยว่า ฉากแรก เรายืนขาสั่นปากสั่นไปหมด ยิ่งเข้าไปในฉากที่มีเขาด้วย ยิ่งรู้สึกว่า เราควรทำตัวอย่างไรดี เราจะเป็นตัวละครได้ไหม มันมีแต่บรรยากาศที่ไม่คุ้นชิน แต่เพราะคำพูดเรื่องเทคนี่แหละ ที่ทำให้คลายกังวลไปได้เยอะมาก เลยอยากบอกว่า ดีใจที่ได้มาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกัน รวมถึงเป็นประสบการณ์การทำงานและความประทับใจที่ดีมากจริงๆ (ยิ้ม)

ให้คะแนนผลงานตัวเองครั้งแรก

นีญ่า: ถ้าในเรื่องการแสดงของตัวเอง ณ ตอนนี้ ให้ตัวเองอยู่ที่ 6 เต็ม 10 โดย 6 คะแนนคือความตั้งใจและความพยายามที่ใส่เข้าไปเต็มที่ เราทำการบ้านมาเยอะมาก ฝึกพูด ฝึกออกเสียงให้ชัดถ้อยชัดคำ เรียนตั้งแต่พื้นฐานเลย รวมถึงฝึกการแสดงตลอดระยะเวลา 3 เดือน มันคุ้มค่ามาก กับผลงานที่ได้ทำออกไป ส่วนอีก 4 คะแนนที่หายไป รู้สึกว่า ยังมีพื้นที่อีกมากมายให้ตัวเราได้ออกไปพัฒนาและค้นหาประสบการณ์ทางการแสดงใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยทำ ถือเป็นการเว้นพื้นที่เล็กๆ เพื่อรับความท้าทายที่จะเข้ามาในโอกาสครั้งต่อไป

เจมส์ มาร์: เรื่องการแสดง ผมให้ 7 เต็ม 10 ผมเต็มที่มากๆ กับเรื่องนี้ โดยเฉพาะการหาปูมหลังให้กับตัวละคร “ธารินทร์”
ผมทำการบ้านเยอะที่สุดตั้งแต่ที่เคยทำมา และพี่ตั้ม (ผู้กำกับ) ก็ซื้อสิ่งนั้นด้วย แสดงว่าเรามาถูกทาง และผมดีใจที่ได้ใช้ปูมหลังนั้นทำให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น ส่วนอีก 3 คะแนนที่หายไป ผมรู้สึกว่า การแสดงหรือทุกอย่างมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุง (Room for Improvement) อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น และไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาหลังจากนี้

เห็นถึงความตั้งใจที่มีอย่างเต็มเปี่ยมของนักแสดงทั้งคู่แล้ว การันตีได้ถึงการแสดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และตราตรึงใจผู้ชมอย่างแน่นอน มาร่วมพิสูจน์เรื่องราวของเขา เธอ ฉัน และเรา ไปพร้อมกันว่า ความรักจะเอาชนะอุปสรรคและตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ ติดตาม นาคบรรพ์ | Eternal Bond ได้วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์


Photography : @gur_kerdsup

Stylist : @tontonstyling

Clothes: @touchjai.official , @anuruq , @anarus.atelier , @vanilinstudio

Creative Director : Austin Thein

Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz