Posh Magazine Thailand @poshmagazinethailand พาคุณมาทำความรู้จักกับหนึ่งในนักแสดงนำจากเรื่อง 4 Kings 2 ‘จี๋ – สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร @geesutthirak’ ซึ่งรับบทเป็น รก บุรณพนธ์
ตอนที่รู้ว่าเขาจะขยายบทของ “รก บุรณพนธ์” รู้สึกยังไงที่ได้มาเล่นบทนี้อีกครั้งนึง
-มันเป็นความรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างไม่รู้จะดีใจดีไหม กลัวจะดีใจเก้อ เพราะว่าวันที่เรารู้ว่ามันจะมีการขยายบท ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้น และเราก็อยู่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่ผู้กำกับ พี่พุฒิ เริ่มพัฒนาบทเลย ก็นั่งคุยกันว่าอยากให้มันเป็นยังไงครับ
พอได้รู้ปุ๊บ ก็รับแสดงเลย
-ผมชอบอยู่แล้ว ผมอยากเล่นตั้งแต่เห็นตัวเดโม่ 15 นาทีแล้วครับ
มาในครั้งนี้คาแรคเตอร์ “รก บุรณพนธ์” ของเรา เป็นยังไงบ้าง
-เป็นตัวละครที่เปิดโอกาสให้ทำอะไรได้หลากหลาย ตัวละคร ‘รก’ เป็นตัวละครที่มีมิติมาก และมีเลเยอร์ที่ให้เลือกใช้ได้เยอะสุด ๆ เลยครับ ด้วยความที่มันเป็นเด็กช่าง ก็จะมีความแอ็คชั่นด้วย และได้บู๊หน่อย มันก็จะมีคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจอยู่แล้ว บวกกับพอมีเรื่องของดราม่า เรื่องของปัญหาพื้นหลังครอบครัว เวลาอยู่กับที่บ้านก็จะเป็นคนนึง พออยู่กับเพื่อนก็จะเป็นอีกคนนึง พออยู่กับคู่อริ ก็จะเป็นอีกคนนึง มันก็มีหลากหลายความรู้สึกให้เราได้เลือกใช้ออกมาครับ
พอเรื่องนี้ได้มาเป็นนักแสดงนำ เป็นตัวหลัก เตรียมตัวยังไง
-จูนเยอะมาก จูนตั้งแต่คุยเรื่องบทกับพี่พุฒิแรก ๆ เลยว่ามันควรจะเป็นยังไง ปกติกระบวนการทำงานของผม เวลาได้รับคาแร็คเตอร์ไหนมา ผมจะปลูกเมล็ดพันธุ์ของคาแร็คตอร์นั้นไว้ในตัวเองอยู่แล้วครับ แล้วก็ดูว่าเมื่อมันเติบโตขึ้นมาในคาแร็คเตอร์นั้น มันมีบางอย่างในข้อไหนบ้าง ที่ใกล้เคียงกับตัวเองแล้วก็ดึงส่วนนั้นมาขยาย หรือว่าถ้าบางส่วนขาดอะไร เราก็จะไปสำรวจในโลกของตัวละครว่าเขาขาดอะไร แล้วเขาควรจะเป็นยังไง คนแบบไหน รู้สึกนึกคิดยังไงครับ
แล้วตัวตนของ “รก บุรณพนธ์” จริง ๆ เป็นคนยังไง
-ก่อนที่จะไปเจอพี่รกตัวจริง เราก็ไปหาดูคลิปที่เขาสัมภาษณ์ในยูทูปมา และก็คิดว่าโห เราก็ได้ยินชื่อพี่เขามาเยอะว่าพี่รกต้องโหดแน่ ๆ แต่พอไปเจอจริง ๆ พี่เขาก็น่ารักมาก เห็นเราเป็นน้อง เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพคนหนึ่ง มันมีความรู้สึกนึงที่ตลกมาก ตอนที่เจอกับพี่รกครั้งแรก พี่รกก็รู้แล้วว่าเราจะเล่นเป็นพี่เขา แล้วมันจะมีจังหวะที่ตาสบตากัน แล้วก็แบบรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่มันรู้สึกตรงกัน ว่าแบบโฮ! เราอยากเป็นพี่เขาให้ดีเลย และพี่เขาก็แบบมีความภูมิใจหรืออะไรบางอย่าง พูดง่าย ๆ มันเป็นคนสองคนที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่ว่าพอได้มาอยู่ ณ ช่วงเวลานี้มันกลายเป็นเชื่อมโยงกันอย่างบอกไม่ถูก แล้วผมรู้สึกผ่านอายคอนแทคที่มองตาพี่เขา ไม่รู้ว่าพี่เขารู้สึกหรือเปล่านะ ผมอาจคิดไปเองคนเดียวก็ได้ แต่ผมรู้สึกแบบนั้นครับ
“พี่รก” ตัวจริงมีแนะนำอะไรเราบ้างไหม
-พี่เขาก็มีแนะนำบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีถาม ‘เฮ้ย เป็นไงวะ เป็นยังไงบ้าง’ ผมก็จะบอกว่า ‘พี่ไม่ต้องห่วง จัดเต็มกราฟ’ (หัวเราะ)
แตกต่างจากบทของเราในเรื่องไหม
-ผมก็ดึงบางส่วนจากพี่รกมาใช้ด้วย ก็อาจจะมีรายละเอียด พวกท่านั่ง พวกวิธีการพูด เพราะพี่รกไม่ค่อยโวยวาย ก็จะโวยวายเป็นจังหวะที่มันควรจะเป็น ถามว่า ‘รก’ เป็นคนยังไง คือเวลาอยู่กับเพื่อนก็จะเป็นคนที่ร่าเริง เฮฮา สนุกสนานสุด ๆ แต่ในขณะเดียวกันเวลาที่อยู่คนเดียว มันก็จะเหงาสุด ๆ และรู้สึกอ้างว้างในใจสุด ๆ เลย เพราะว่ามันเป็นตัวละครที่ขาดบางอย่างครับ
“รก บุรณพนธ์” มีตรงไหนที่เหมือน “จี๋” ไหม
-ผมว่ามันก็คงเหมือนในแง่ของความรู้สึกที่เกิดขึ้น และเคยเกิดขึ้น และประสบการณ์บางอย่าง ที่มันสามารถดึงมาใช้ได้ครับ
ส่วนตัวเอานิสัยใจคอ “พี่รก” ไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยไหม
-ส่วนใหญ่ผมทำการบ้านจากคลิปสัมภาษณ์พี่รก และจากเรื่องเล่าของพี่รกและคนอื่น ๆ ด้วย แล้วก็ดึงดูว่าตัวละครแบบนี้ พอมันอยู่ในสถานการณ์ในหนัง มันควรจะเป็นแบบไหนแล้วเหมาะสมที่สุด
บทนี้ไม่ยากมากสำหรับเราใช่ไหม
-ยากเพราะว่าแทบจะทุกซีนในเรื่องนี้มันต้องไปแตะจุดที่สำคัญ หมายถึงว่าถ้าเราไม่ถึงจุดนั้น ซีนมันอาจไม่ทำงานเลย เราก็เลยจำเป็นที่จะต้องไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ครับ
ในภาค 2 นี้ มีฉากที่ยากหรือฉากที่ประทับใจสำหรับเราไหม
-โฮ!ผมชอบทุกซีน ชอบทุกคัท ชอบทุกเฟรมเลยครับ เพราะรู้สึกว่าทุกคนเขาตั้งใจ หมายถึงว่าไม่ว่าคัทไหน เฟรมไหน ฉากไหน พี่พุฒิ ผู้กำกับ รวมถึงทีมงานทุกคน เขาตั้งใจทำสถานที่นั้นให้มันมีจิตวิญญาณและดูสนุกที่สุด เราก็อยากทำให้ดี ให้สมกับความตั้งใจของพี่เขา ที่จัดเต็มทุกอย่างขนาดนี้ครับ
ภาคนี้ได้ร่วมงานกับ “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง”
-ได้เข้าซีนกับพี่ทัช พี่ทัชเล่นเป็นพ่อครับ ก็ดีครับ สนุก พี่ทัชน่ารัก เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก ๆ คือในเรื่องเขาจะดุนิดนึง แต่ว่าตัวจริงเขาอบอุ่นมาก ๆ ในเรื่องมีฉากที่ผมต้องปะทะกับพี่ทัชบ้าง แต่ก็ไม่มีความเกร็งนะ เพราะพี่ทัชน่ารักครับ
พี่ทัชน่าจะรู้จักกับคุณพ่อ เจี๊ยบ-พิสุทธิ์ ด้วย
-ใช่ครับ เลยสืบสาววงศาคณาญาติกัน รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับพี่ทัชและทุกคนที่ผมได้เข้าซีนด้วยครับ
ทำงานกับแก๊งค์ใหม่ อย่าง เฟย แม็กซ์ และ เบนจามิน เป็นยังไงบ้าง
-ผมว่าเราเป็นทีมที่ดี เราเป็นทีมที่ซัพพอร์ทกัน และโชคดีมากที่ได้ทีมนักแสดงชุดนี้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่ต้องอาศัยความเชื่อใจกันมาก ๆ ถึงจะพาหนังให้มาอยู่ในจุดที่มันควรจะเป็นได้ครับ ก็โชคดีที่ทุกคนเปิดใจให้กัน พี่แหลม , พี่เบนจามิน , พี่บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด , เฟย, พี่ท็อป, พี่แม็กซ์ และ พี่เบียร์ (นักแสดงร่วม ที่เคยเรียนช่างกล) ทุกคนเปิดใจ ซึ่งผมเข้าฉากกับพี่เบนจามินบ่อยสุด เป็นคู่หูผมเอง
คาแรกเตอร์ของ “เบนจามิน” ภาษาชาวบ้าน เป็นตัวเรียกตีน
-ใช่ ๆ เขาจะเป็นตัวจี๊ด เป็นตัวยั่วครับ ทุกโรงเรียนก็จะมีตัวจี๊ดอยู่ พี่เบนเป็นฝั่งบุรณพนธ์ และเฟย เป็นของกนก
เห็นว่า “เบนจามิน” และ “เฟย” ไม่ออมแรงกันเลย
-ใช่ ๆ ทุกคนเต็มที่มาก ๆ ครับ
จน พี่พุฒิพงษ์ ผู้กำกับ ต้องบอกให้เบากันหน่อย เวลาที่เล่น
-ใช่ ๆ คือปกติเวลาออกกอง ผู้กำกับเขาต้องพูดว่า ‘ขอขึ้นไปอีกได้ไหม’ แต่เรื่องนี้ผู้กำกับต้องบอกว่า ‘อุ้ย! ใจเย็น ๆ นะครับ พอก่อนนะครับ เบาได้เบากันนะครับ’ (ยิ้ม) คือนักแสดงทุกคนเต็มที่กันมาก ๆ ครับ
4Kings ประสบความสำเร็จอย่างมาก แล้วเราเป็นนักแสดงจากภาคแรก มาเป็นตัวหลัก รับบทนำใน 4Kings2 ด้วย กดดันไหม
-ช่วงแรก ๆ ก็กดดันครับ แต่ว่าช่วงหลังรู้สึกว่าเราแค่โฟกัสที่การทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด แค่สนุกไปกับมัน ที่เหลือก็เป็นส่วนอื่นที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เราก็โฟกัสในสิ่งที่เราควบคุมได้ ก็น่าจะเพียงพอครับ
เสน่ห์ของ 4Kings2 อยู่ที่ตรงไหน คนดูจะได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
-อย่างแรกผมว่าอยุ่ที่ความสนุก ผมว่าเสน่ห์ของ ‘4Kings’ มันคือความเป็น ‘4Kings’ นั่นแหละ มันคือเรื่องราวของวัยรุ่นที่เล่าผ่านกรอบความเป็นเด็กช่าง อาชีวะ ช่างกล นอกจากนี้ยังมีกิมมิคต่าง ๆ ของช่วงเวลานั้นที่เราคิดถึง เช่น พวกบัตรจีบ อะไรพวกนั้น มันมีความน่ารักของพฤติกรรมคนในยุคนั้น ๆ ซ่อนอยู่ตลอดทั้งเรื่อง และบรรยากาศของเรื่องยุค 90 ที่คนคิดถึง มันก็จะอบอวลอยู่ในเรื่องนี้ครับ
ฝากหนัง “4Kings” 2 หน่อย
-อยากฝากไว้ เพราะทุกคนตั้งใจมาก ๆ เวลาที่พูดแบบนี้ ผมไม่อยากจะพูดแค่ว่าทุกคนตั้งใจมาก ๆ เลย ผมอยากจะพูดชื่อทุกคนเลย เพราะทุกคนสำคัญหมด ทีมนักแสดง ทีมไฟ ทีมสวัสดิการ คนทำอาหาร ผู้ช่วย 1 ผู้ช่วย 2 ทีมกล้อง ทีมอาร์ท ผู้กำกับ ทีมนักแสดงประสานงาน โปรดิวเซอร์ ผมรู้สึกว่าชื่อของทุกคนมีความหมายมาก และผมอยากจะบันทึกช่วงเวลานี้ ให้หยุดไว้ ณ ช่วงเวลาแห่งนี้ เพราะว่าเราทุกคนได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งนี้ขึ้นมาพร้อมกัน และมันเป็นความตั้งใจที่พวกเราเต็มใจ และเต็มที่กับมัน หวังว่าทุกคนจะได้สนุกกับมันครับ
Photography : Termsit Siriphanich @termsit
Clothes : @pitnapatofficials
