‘ฟอส-บุ๊ค’ กับการแสดงที่รู้ใจกันดียิ่งกว่าใครใน ‘ชอกะเชร์คู่กันต์’
‘มีเธอนี่แหละดี’ เพลงประกอบซีรีส์ ‘ชอกะเชร์คู่กันต์’ ถูกเปิดคลอในระหว่างที่ ‘ฟอส-บุ๊ค’ ถ่ายเซ็ตแฟชั่นคู่กัน ทำให้เรานึกย้อนไปถึง 1 ปีของ ‘อองชองเต’ จนมาถึงเรื่องนี้ ที่ทั้งคู่เพิ่มเสน่ห์
การแสดงของตัวเองมากขึ้น จนจับใจเหล่าแฟนๆ ให้ติดใจ ‘บอสกันต์-เจ้าแหลม’ กันเป็นแถว เราจึง
ไม่แปลกใจเลยว่า การโคจรมาเจอกันอีกครั้งของพวกเขา เหมือนเป็นการตอกย้ำเล็กๆ ถึงเคมีการแสดงของคนทั้งคู่ ก็คงเหมือนกับวลีที่ว่า “คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน” เพราะมันดีต่อใจหลังได้ดูจบในแต่ละตอนจริงๆ
แต่ไม่แน่ใจว่า ทั้ง ‘ฟอส-บุ๊ค’ จะรู้สึกแบบเดียวกับที่เรารู้สึกหรือเปล่า บทสัมภาษณ์หลังจากนี้ คือความรู้สึกในใจลึกๆ ของพวกเขาที่มีต่อพาร์ทเนอร์การทำงานและการแสดงใน ‘ชอกะเชร์คู่กันต์’
จาก ‘อองชองเต’ สู่ ‘ชอกะเชร์คู่กันต์’
คิดว่าทั้งคู่เห็นตัวเองเปลี่ยนไปอย่างไรทั้งความคิดและการแสดงของตัวเอง จากเรื่องที่แล้วมาสู่เรื่องนี้ คำถามง่ายๆ แต่ได้มุมคิดที่น่าสนใจ ฟอสตอบก่อนแบบไม่ลังเลว่า
“อองชองเต คือเรื่องแรกของผม ซึ่งเรื่องแรกสำหรับหลายคน มันทั้งประหม่าและตื่นเต้น เรื่องนี้ถามว่า ตื่นเต้นน้อยลงไหม ไม่เลย (หัวเราะ) มันยังคงมีเท่าเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ผมควบคุมความรู้สึกตื่นเต้นได้ดีมากขึ้น เลยประหม่าน้อยลงเวลาแสดงแบบเห็นได้ชัดมากๆ”
บุ๊คมองคล้ายกัน แต่เติมประเด็นจากฟอสเพิ่มลงไป “ผมว่าความเข้าใจตัวละครของผมเปลี่ยนไป เพราะผมเข้าใจเชร์ได้ลึกประมาณหนึ่งเลย รู้ว่าความต้องการเขาคืออะไร เป็นคนแบบไหน หลายคนอาจจะมองว่า ผมคือเชร์ แต่จะบอกว่า มันคล้ายผมแค่ 70% เอง ถ้าเทียบกับปัจจุบัน”
เราเลยยิงคำถามต่อว่า แล้วอีก 30% ที่หายไปคืออะไร “ความตื่นตัวครับ ถ้าเทียบกับตัวเอง
ตอนมัธยม ผมตื่นตัวกว่านี้ มันเลยทำให้เชร์คล้ายกับผมในสมัยมัธยมมาก ผมเลยดึงความทรงจำตรงนั้นมาใช้ แต่เนื้อตัวจริงๆ แล้ว ผมเป็นคน Introvert เข้าสังคมไม่เก่ง อยากรู้จักคน แต่ไม่กล้าเข้าไปคุยก่อน
เลยมักให้อีกฝั่งเป็นคนเปิดบทสนทนาก่อน และระวังคำพูดคำจาของตัวเองเป็นพิเศษ”
‘เชร์-กันต์’ ทำให้ฉันเปลี่ยนไป
“ผมเหมือนคนสองขั้ว” ฟอสตอบหลังได้ยินคำถามว่า ตัวละครทำให้ทั้งคู่เปลี่ยนไปในด้านไหนบ้าง “เวลาอยู่กับน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ผมเป็นสายเอ็นเตอร์เทนอยู่แล้ว สนุกเฮฮา เป็นคนคุยเก่ง เวลามีคนมาทักผม ผมก็คุยกับเขา เหมือนอยากทำความรู้จักคนใหม่ๆ ให้มากขึ้น แต่พอเป็นบอสกันต์ ผมเหมือนมีสวิตช์เปิด-ปิดความตื่นตัวของตัวเอง กลายเป็นว่าอยู่กับตัวเองคนเดียวเงียบๆ ได้นานขึ้น จนบางครั้งบุ๊คมาถามว่า วันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า ผมก็บอกว่า ไม่ได้เป็นอะไร”
บุ๊คเสริมสิ่งที่ฟอสพูด “เวลาเขานิ่ง ก็นิ่งใจหายเลยนะพี่ เลยถามเขาไปแบบนั้น” แล้วค่อยพูดถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปของตัวเอง “เชร์เปลี่ยนผมไปเยอะเหมือนกัน มีพี่คนหนึ่งทักว่า บุ๊คดูสดใสและร่าเริงขึ้น
ซึ่งผมมองว่า เชร์มีผลต่อชีวิตประจำวันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังบวกที่เชร์ส่งออกมา การแคร์ความรู้สึกของคนอื่น มันเลยกลายเป็นว่า ผมอยากให้พลังบวกกับทุกคนที่ได้เจอผม รวมถึงระวังการกระทำ
และคำพูดของตัวเองมากขึ้น เพราะมันอาจมีผลกระทบต่อใจและความรู้สึกของอีกฝั่ง”
พาร์ทเนอร์กันอีกครั้ง
ข้อมูลที่รวบรวมมาคือ บุ๊คเครียดมากกับบทนี้ แต่โชคดีที่ได้แสดงคู่กับฟอสอีกครั้ง ซึ่งฟอสเองก็รับรู้ได้ถึงความเครียดของเพื่อนคนนี้ “เขาจะเครียดว่า ตัวเองจะร่าเริงได้เบอร์ไหน ได้เท่ากับที่เชร์รู้สึกหรือเปล่า แต่ผมก็ได้แต่บอกบุ๊คไปเสมอว่า ‘ทำได้เพื่อน’ เชร์ก็คือเขาในมุมที่อาจจะร้างลาไปนานเวลาเจอเพื่อนที่สนิทมากๆ ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นตัวเองไว้ก่อนว่า ทำได้ แค่ดึงพาร์ทที่มันอาจจะหลบจากชีวิตเขาไปนานก็เท่านั้นเอง”
บุ๊คเล่าต่อจากฟอสเรื่องความเครียดของตัวเองว่า เป็นกำแพงที่ใหญ่พอสมควร “มันคือความกลัวแบบสุดๆ ของผมเลย เพราะเหมือนผมลืมพาร์ทที่ร่าเริงของตัวเองมากๆ ไปแล้ว มันเลยทำให้ผมต้องถามครูสอนการแสดง เรียนการแสดงเพิ่ม และฟอสเองก็บอกให้ผมเชื่อมั่นในตัวเอง ผมเลยผ่านความเครียดตรงนั้นมาได้ ก็ต้องขอบคุณเขามากๆ ที่เป็นกำลังใจให้ผมเสมอมา”
ฟอสตบเข่าเพื่อนทางการแสดงที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วบอกถึงความรู้สึกของตัวเอง “ผมมักจะบอกเขาเสมอว่า ถ้ารู้สึกเฟล อย่าจมกับมันนาน ลุกขึ้นมาให้ไว แล้วไปต่อ ผมเลยอยากให้เขาดูงานที่ตัวเองทำด้วยรอยยิ้ม ไม่อยากให้เขาเครียด และขอให้เขามีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำไปนานๆ ซึ่งบางทีผมเอง
ก็เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งเหมือนกันนะ แต่นี่น่าจะเป็นความรู้สึกจริงที่สุดเท่าที่ผมจะพูดให้เพื่อนคนหนึ่งได้”
บุ๊คกล่าวขอบคุณและพูดสรุปถึงพาร์ทเนอร์ทางการแสดงของตัวเอง “ในบางครั้งฟอสเครียด
ผมเองก็ดีใจที่สามารถเป็นกำลังใจให้เขาได้เหมือนกัน”
ข้อความถึงตัวละครและประเมินตัวเอง
อยู่กับตัวละครมาร่วมปี จนใกล้จะมี Our Skyy 2 ของ ‘ชอกะเชร์คู่กันต์’ เราเลยให้ ‘ฟอส-บุ๊ค’ ส่งข้อความอะไรก็ได้หา ‘กันต์-เชร์’ ในตอนนี้ พวกเขาจะส่งข้อความว่าอะไร ฟอสยิ้มก่อนพิมพ์ข้อความในมือถือ แล้วส่งให้เราอ่าน
“นายซอฟท์ได้มากกว่านี้นะ บางเรื่องปล่อยวางมันไปบ้างก็ได้ อะลุ่มอล่วยให้เชร์อีกนิดก็จะดี”
บุ๊คหัวเราะออกมาก่อนพิมพ์ข้อความในมือถือ แล้วส่งให้เราอ่านเหมือนกัน
“รักตัวเองเยอะๆ อย่าลืมความสดใสของตัวเอง ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ และอย่าด้อยค่าตัวเอง”
ทั้งคู่พอใจในข้อความที่ส่งหาถึงตัวละคร และเมื่อมาถึงเวลาประเมินการแสดงของตัวเอง บุ๊คพูดออกมาเต็มปากว่า ทำเต็มที่แล้วจริงๆ ในทุกจุด ไม่รู้สึกเสียดายหรืออยากกลับไปแก้ไขอะไร คะแนนที่บุ๊คให้ตัวเองคือ “เต็ม 10 ครับ เต็มความสามารถของผมแล้ว ทั้งความเข้าใจตัวละครและการทลายกำแพงความกลัวตัวเอง ซึ่งผมก้าวข้ามความกลัวนั้นมาได้แล้ว ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ 10 ครับ”
“ผมให้ตัวเองเท่ากับตอนแสดงอองชองเต” ฟอสพูดหลังจากที่บุ๊คให้คคะแนนตัวเองจบ “ผมรู้ว่าตัวเองเต็มที่กับงานทุกอย่างเหมือนกับบุ๊ค ผมรู้ว่าตัวเองทำงานเพื่ออะไร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อตัวเองในมุมที่ดีขึ้น เพื่อแฟนคลับที่รอผลงานของผมอยู่ ผมเลยให้ตัวเองเต็ม 10 ครับ และคิดว่าให้เกินกว่านั้นด้วย
คิดว่า 11 ไปเลยด้วยซ้ำ”
มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงได้รู้แล้วแหละว่า พวกเขารู้ใจกันดีและเต็มที่แค่ไหน ไปพิสูจน์
โค้งสุดท้ายของ ชอกะเชร์คู่กันต์ A Boss and a Babe ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง GMM25 และเวลา 22.30 น. ทางแอปพลิเคชัน Viu
4 TMIs with Force
1. เมนูกาแฟที่ฟอสจะสั่งเป็นประจำคือ อเมริกาโน่ ไม่หวาน ที่ต้องบอกว่า ไม่หวาน เพราะบางร้านอาจชงหวานมาให้
2. ฟอสเป็นมนุษย์ที่ชอบกินอะไร ก็จะกินอยู่อย่างเดียววนไป อย่างช่วงก่อนชอบกินฝรั่ง แต่ช่วงนี้ชอบกินสตรอว์เบอร์รี่และเมล่อนสลับกัน
3. ฟอสเป็นคนจำหน้าคนเก่ง แต่จำชื่อคนไม่เก่ง เวลาลืมชื่อก็จะเดินไปถามเขาเลยว่า ชื่ออะไร หรือบางครั้งก็เลือกถามคนใกล้ชิดคนนั้นไปเลยว่า เขาชื่ออะไร
4. ฟอสบอกว่า ตั้งแต่เด็กเป็นคนดวงดีมาตลอด เคยถูกล็อตเตอรี่ใบแรกในชีวิตในรางวัล 5,000 บาท
จนพอเริ่มโตมา เทพีแห่งโชคชะตาก็ไม่เคยเข้าข้างเขาอีกเลย เลยรู้สึกว่า ดวงชะตาเป็นเรื่องควบคุมไม่ได้
4 TMIs with Book
1. เครื่องดื่มที่เป็นตัวแทนบุ๊ค บุ๊คเลือกชาไทย เพราะมันคลาสสิก เรียบง่าย แต่ซ่อนไปด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความหอมในตัว
2. บุ๊คชอบฟังเสียง ASMR เช่น เสียงฝนตก เสียงซ่อมนาฬิกา เสียงสร้างบ้านในป่า ซึ่งมันช่วยให้บุ๊ครู้สึกผ่อนคลาย
3. หมูสไลด์ ลูกชิ้นชีส และผักบุ้ง คือ 3 เมนูแรกที่บุ๊คจะสั่งหรือกินเป็นประจำเวลาไปร้านหมูกระทะ
4. สุนัขคือสิ่งที่บุ๊คควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะถ้าเห็นก็อยากจะเข้าไปจับ ลูบ หรือคลอเคลีย จนหลายคนเตือนว่า อย่าเข้าไปจับสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเดี๋ยวมันจะกัด
Force-Book & Their Intuitive Bond in ‘A Boss and a Babe’
‘My Luck’, the original soundtrack of ‘A Boss and a Babe’, played in the background when ‘Force – Book’ were taking their photoshoot. It reminded me of their last year’s project, ‘Enchanté’, and how their charm had apparently increased as ‘Boss Gun – Laem’ to the level that it captivated the fans’ hearts. There is no surprise when they got paired up again as a partner. It’s solely another solid affirmation of their acting chemistry. It must be like the old saying that they were “destined to be together” as it resulted in your heart fluttering after watching each episode.
Nevertheless, I wasn’t certain if ‘Force – Book’ saw it the same way. This interview was going to reveal their true feelings toward their acting partner and their acting in
‘A Boss and a Babe’.
From ‘Enchanté’ to ‘A Boss and a Babe’
What changes did you see in yourself, both your thoughts and acting skills, from the last series to the current one? Despite its simplicity, the question provided their intriguing perspectives. Force answered first with no hesitation,
“Enchanté was my first series. Like other people’s first series, I was nervous and excited. But do I feel less excited when it comes to this project? Not at all (laughed). It was the same. What changed is that I had better control over my excitement. Hence, my anxiety while acting is apparently decreased.”
Book shared a similar view. He added to Force’s point, “I think my view towards my character role changed. I could understand Cher at a deeper level. I know what he wants, and what kind of person he is. Many people may deem that I’m Cher, but the similarity is only 70% based on my present-day personality.”
I took a chance to ask more: what was the missing 30%? “It was the alertness. If we compared myself to the one in middle school, I was more energetic. Cher is similar to me back then, so I recalled those memories to apply to the series. But to be honest, my nature is an introvert. I’m not good at socializing. Though I want to know people, I wouldn’t dare to talk to them first and wait for others to start the conversation. I’m also extremely cautious with words.”
‘Cher-Gun’ Changes Me
“I’m like a bipolar person”, Force answered immediately after hearing the question asking how the characters had changed them. “When I’m with my juniors, friends, or seniors; I always entertain them. I would be funny and talkative. When someone approaches me, I’d talk to them, like I’m ready to know new people. But when I played Boss Gun, it is like there was a switch to turn my alertness on and off. I enjoy being alone for a longer period of time. Book sometimes even asks me if something happens, and I just replied that it was nothing.”
Book added that “When he becomes quiet, it will be unbelievably quiet that I needed to ask.” Then he described his change, “Cher has changed me a lot. One senior pointed out that I become more delightful and cheerful. I see that Cher has a huge impact on my daily life; whether it is his radiant positive energy or his empathy for others. And it turns out that I wanted to give everyone my positive energy when they meet me; I become more cautious with my actions and words because it may affect others’ hearts and feelings.”
Partner Again
According to my research, Book was very stressed about this role, but luck was still with him because Force was partnered with him again. And Force could feel his partner’s stress, “he would be stressed on how cheerful he should be; if it would be equivalent to what Cher feels. I always encouraged him that ‘you can do it’. Cher is him in the aspect that he hasn’t got in contact with for a long time, like meeting an old friend. Hence, he only needs to be confident in himself that he can do it and reconciles with the part that has been buried away from his life for a long time.”
Book continued from what Force left off about his stress that it was a pretty huge barrier for him. “It was my biggest fear because I kinda forgot my extreme cheerfulness. I needed to ask my acting coach, studied more acting lessons, and Force kept telling me to be confident. As a result, I could get over the stress. I have to thank him for always rooting for me.”
Force tapped on his acting partner’s knee who was sitting beside him. He expressed his feeling that “I always tell him that, if he feels down, don’t get stuck with the matter for too long, get back up quickly, and move on. I want him to see his work with a smile. Not to be stressed and I hope he will be happy with what he is doing for a long time. Sometimes, I’m not good with words. But this is probably the sincerest feeling that I can say to my friend.”
Book thanked him and concluded their answer about the acting partner, “Sometimes when Force feels stressed, I’m also glad that I can encourage him, too.”
Messages to Characters and Self-Evaluation
After being with the characters for almost a year that Our Skyy 2 of ‘A Boss and a Babe’ was about to get aired, I asked ‘Force-Book’ to send any messages to ‘Gun-Cher’. If they had a chance right now, what messages would they send to them? Force smiled before typing his message on the phone and handing it back to me.
“You can be softer. For some matters, just let them go. Be compromised with Cher a little more.”
Book laughed before typing his message on the phone and handing it back to me.
“Love yourself a lot. Don’t forget your cheerfulness. Every problem has a solution and don’t devalue yourself.”
Both of them were pleased with the messages sent to the characters. When it was the time to evaluate their acting, Book clearly said that he had done his best in every aspect. There was nothing to regret or that needed to be fixed. The score that Book gave to him was “10 out of 10. That was my best shot at comprehending the character and overcoming my barrier of fear. And I’ve overcome that fear which makes me feel really good. 10 points.”
“I’ll give myself the same score as the one in Enchanté,” said Force after Book finished his evaluation. “I know that I gave it all for this project as Book did. I know what I work for – whether it’s for improving myself; or for my fans who are waiting to see my work. I gave myself 10 out of 10. I was thinking about giving more than that. It can even be 11 points.”
As you had reached this part, you must have already realized how well they know each other and how much effort they put into the series. Let’s witness the last episode of ‘A Boss and a Babe’ on Fridays at 8:30 p.m. on the GMM25 channel; and at 10:30 p.m., on Viu Application.
4 TMIs (Too Much Information) with Force
Force’s regular coffee menu is Americano with no sugar. He must order ‘with no sugar’ because some cafes may add sugar to it.
Force is the kind of man that when he likes something, he will keep eating it. For example, he liked to eat guavas earlier, but his current favorites keep swapping between strawberries and cantaloupes.
Force is good at remembering people’s faces, but bad at remembering people’s names. If he forgets their names, he will approach them and ask for their names; or sometimes ask the person who is close to them for their names.
Force said that he was a lucky person since he was young. He won his first lottery for 5,000 Baht. But when he grew up, the goddess of luck stopped being on his side. Thus, he feels like destiny isn’t something controllable.
4 TMIs (Too Much Information) with Book
Book chooses Thai tea to represent himself because it’s classic and simple, but full of a unique flavor and aroma.
Book likes to listen to ASMR e.g. sounds of rain, watch repair, cabin building in the forest; it helps him to relax.
Sliced pork, cheese meatball, and morning glory are three first menu that Book orders or eats at a pork BBQ restaurant.
A dog is something Book finds irresistible. When he sees them, he would want to touch, fondle, or snuggle with them to the point that many people warn him to be more careful, otherwise he may get bitten.
Creative Director / Photographer: Termsit Siriphanich @termsit
Stylist: Suranan Ponganan @tonnton.tsp
Makeup: Pawinee Thairaksa @jaydai_jay
Hair: Tanapon Sae-tang @pom_hairstylista
Clothes : @Freakstore.official
Editor in Chief: Austin Thein
Photo Assistant: Nol Kerdsup @gur_kerdsup
Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz
Translator: Pa-kwan Panyatona @ferinpanyatona
Location: @studio_vjthailand
#ForceBookxPosh
