Cover Interview – Deep Night

พูดคุยกับ “โชกุน-เฟิร์ส” แบบ In Depth จากวันแรกถึงวันสุดท้ายใน Deep Night คืนนี้มีแค่เรา
เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่เปิดตัว จนออกอากาศไปแล้ว หลายเสียงบอกว่า “ทำถึง” กับ ซีรีส์ Deep Night คืนนี้มีแค่เรา ที่ได้การประกบคู่ครั้งแรกอย่าง “โชกุน-ปารมี เทศดรุณ @shoguunn ” และ “เฟิร์ส-ปิยังกูร เสาหิน @f.piyangkull ที่สวมบท “เข็มทิศ” และ “เวลา” ได้อย่างลงตัว แต่กว่าจะลงตัวได้ขนาดนี้ ทั้งคู่ผ่านการทำงานมาอย่างเข้มข้น จน POSH MAGAZINE THAILAND เลยขอทบทวนการทำงานจากวันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่ซีรีส์ดำเนินมาถึง ผ่านการพูดคุยของทั้ง 2 ที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้ง กลั่นกรองความรู้สึกมาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่สวยงามของทั้ง 2 คนในฐานะพาร์ทเนอร์ทางการแสดงร่วมกัน

วันแรก | เพราะได้เล่น เราเลยต่างส่องกันและกัน

เฟิร์ส: ที่จริงต้องบอกว่า ส่องหมดทุกคนครับที่ผ่านเข้ารอบ Audition แต่พอรู้ว่าเป็นพี่โชกุนที่จะมาแสดงคู่กับเรา มันเหมือนเป็นการส่องแบบสำรวจไลฟ์สไตล์ให้เข้าใจกันมากขึ้นว่า เขาเป็นคนอย่างไร จะเข้ากันได้ไหม มีเรื่องอะไรที่สนใจร่วมกัน ซึ่งวัน Audition เราก็พูดคุยกันประมาณหนึ่งนะ แต่พอมาเจอตัวจริง ผมว่าคุยหนักกว่าเก่าอีก เพราะต้องปรับจูนร่วมกันว่า ต่างฝ่ายมองกันและกันอย่างไร

โชกุน: สำหรับผมตอนที่รู้ว่าได้รับการคัดเลือก ยอมรับว่า กดดัน โดยเฉพาะเฟิร์สที่เขามีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว ก็ยิ่งกดดันเข้าไปอีก รวมถึงตัวผมเองก็ใหม่มากกับวงการนี้ นี่คือครั้งแรกของผมสำหรับซีรีส์วาย ที่ไม่รู้ว่า ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เรารู้ได้ก่อนคือ ตัวตนของเขา เลยเป็นการส่องกลายๆ ว่า บุคลิกหรือไลฟ์สไตล์เขาเป็นแบบไหน เราจะได้พูดคุยและทำงานกันแบบต่อติดได้ง่ายขึ้น

วันต่อมา | เล่นด้วยกันไม่ยาก ที่ยากกว่าคือ…

โชกุน: 6-8 เดือนที่ Workshop ร่วมกันบอกได้เลยครับว่า โฟลว์มาก ไม่เหงา สนุก แต่ที่ผมว่ายากและจัดการอย่างไรให้อยู่ตัวคือ กายกรรม ผมจำได้ว่า ตอนฝึกรอบแรกถึงรอบสอง มีเวียนหัวและอาเจียนออกมาเลย เพราะร่างกายยังไม่คุ้นชิน มือที่จับผ้าก็ยังไม่ถนัด กว่าจะมาเข้าที่เข้าทางได้น่าจะรอบที่ 5-6 เป็นอย่างต่ำ สัมผัสมือผมได้เลยว่า ฝึกตรงนี้มาหนักแค่ไหน เนื่องจากเราต้องห้อยตัวบนที่สูง การทิ้งน้ำหนักให้สมดุล ท่าที่ค่อนข้างยาก ทำให้จากวันแรกถึงวันนี้ แรงในการรับมือกับกายกรรมที่ผมทำ มันต่างและเปลี่ยนไปเลย

เฟิร์ส: ของพี่โชกุนต้องรับมือกับกายกรรม ส่วนผมต้องรับมือกับการเป็นคนสองบุคลิก (หัวเราะ) เพราะที่มหาวิทยาลัยกับที่บาร์โฮสต์ บุคลิกจะแตกต่างกัน อยู่มหาวิทยาลัยจะเป็นเด็กตั้งใจเรียน เด็กหน้าห้อง นิ่งเงียบ ขรึม สุขุม แต่พออยู่ในบาร์โฮสต์ เวลาจะมีความแพรวพรวามาก คุยเก่ง เอ็นเตอร์เทนคนเป็นเลิศ ผมว่าตรงนี้แหละยากในการสลับอารมณ์ และทำให้บุคลิกทั้ง 2 ช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตแยกขาดออกจากกันแบบเป็นคนละคน เลยต้องทำการบ้านช่วง Workshop กับครูสอนการแสดงพอสมควร 

วันถ่ายทำ | คนหนึ่งก็ใหม่มาก กับอีกคนที่รู้จักกันดี

เฟิร์ส: ของเฟิร์สน่าจะจบหัวข้อนี้ได้ง่ายเลยกับความรู้สึกที่ได้ทำงานกับผู้กำกับ (ชีวิน ธนะมินทร์) ผมว่าเขามีวิธีการพูดกับนักแสดงแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันในการสื่อสารความต้องการของตัวเองว่า อยากให้ตัวละครเป็นแบบไหน กับเรื่องนี้ที่ออกไปแนวโรแมนติก-คอเมดี้ ความเข้มข้นไม่ได้เท่ากับ War of Y ที่ผมผ่านมา มันเลยทำให้การสื่อสารความต้องการของเขาไม่ซับซ้อน เขาบอกแค่อย่างเดียวกว่า จังหวะเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไม่ต้องยึดติดกับตัวเอง ปล่อยตัวละครออกมาได้เลย แต่ผมอ่ะดันคิดเยอะเองในช่วงแรก แต่ช่วงหลังก็ดีขึ้น

โชกุน: ก่อนเริ่มทำงาน มีคนสปอยผมว่า ผู้กำกับ (ชีวิน ธนะมินทร์) เป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ มันเลยเหมือนมีอาวุธติดตัวในการรับมือว่า ถ้าเขาพูดหรือทำอะไรออกมา เราจะรับมือกับมันอย่างไร ยอมรับว่า ภาพในหัวของเขาคิดว่า ต้องเป็นคนที่ดุมาก และใส่ใจไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่เอาเข้าจริง พอได้ร่วมงานกัน ผมชอบนะ เพราะทุกอย่างที่เขาพูดหรือสื่อสารออกมา มีเหตุผลในทุกๆ การกระทำ และเขาเป็นนักบิลด์อารมณ์ที่เก่งมากว่า ต้องการให้ตัวละครเป็นแบบไหน ผมว่าเขากำหนดขอบเขตในการสื่อสารระหว่างการทำงานโดยที่ไม่ไปกระทบกับอารมณ์ลึกๆ ของเราข้างในได้ดีเลย

วันออกอากาศ : มองสิ่งที่ตัวเองทำมา

เฟิร์ส: ผมว่าอย่างน้อยทุกคนจะได้รู้จักบาร์โฮสต์ในมุมเปลี่ยนไป ตรงนี้ผมให้ 10 ไปเลยว่า ยังไงดูแล้ว ต้องรู้สึกเปลี่ยนไปแน่ๆ แต่สำหรับการแสดงของตัวเอง ผมยังให้ตัวเองไว้ที่ 8 อยู่ เพราะความไม่มั่นใจของตัวเองในช่วงแรกนี่แหละ ที่ยังคงเกร็งๆ และคิดเยอะอยู่ เลยสตาร์ทตัวของเวลาได้เข้ารูปเข้ารอยช้ากว่าคนอื่น เริ่มมาติดเครื่องตอนช่วงกลางๆ แต่ผมมองว่า แอบช้าไปนิดนึง อยากปรับจูนได้เร็วกว่านี้

โชกุน: ผมว่าขนาดเข็มทิศที่ไม่ชอบบาร์โฮสต์ ยังเปลี่ยนใจมาชอบได้เลย ทุกคนที่ดูผมว่า ก็ต้องรักในบาร์โฮสต์นี้เหมือนกันกับเรา ก็ให้มุมนี้เต็ม 10 เหมือนกัน ส่วนเรื่องการแสดงที่ผมทำ ผมให้ 9 ละกัน อีก 1 คะแนน ผมเว้นพื้นที่ให้บาดแผลของตัวเองที่น่าจะทำได้ดีขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเรื่องเสียง กายภาพ หรือสิ่งที่ถ่ายทอดออกไป ซึ่ง 9 เป็นรางวัลแห่งความพยายาม ส่วนอีก 1 ไว้ปรับปรุงในงานหน้าต่อไป

วันที่ซีรีส์ถึงตอนจบ : แด่พาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกัน

โชกุน: เฟิร์สเป็นคนที่จริงจัง ขยัน และตั้งใจมาก บางครั้งอาจเป็นคนที่ติดซีเรีสด้วยซ้ำ แต่ผมมองว่า ทุกอย่างจบและผ่านไปเรียบร้อยแล้ว เราทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่แล้ว ผลออกมาจะเป็นอย่างไร ขอให้ยิ้มและภูมิใจกับสิ่งที่ออกมา และหลังจากนี้ ขอให้สนุกกับงานที่จะได้เจอหลังจากนี้ ไม่ว่าจะได้แสดงคู่กันหรือไม่ได้คู่กันอีก อย่างไรจะคอยสนับสนุนและช่วยเหลือกันเสมอ ขอบคุณที่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีเสมอมาครับ

เฟิร์ส: พูดอีกเดี๋ยวก็มีน้ำตา (หัวเราะ) ที่จริงเคยคุยกันเป็นการส่วนตัวถึงเรื่องนี้ไปกับพี่โชกุนแล้ว แต่ไหนๆ ถามมา ก็จะบอกให้ทุกคนรู้กันไปเลยว่า ขอบคุณมากนะครับพี่ที่ได้ร่วมงานกัน ขอให้พี่ภูมิใจในตัวเองว่า พี่เก่งแล้ว ทำได้ดีแล้ว หลังจากนี้ขอให้สนุกและเอ็นจอยไปด้วยกัน ไม่รู้ว่าจะได้โคจรมาเจอกันอีกไหม แต่อย่างน้อย มิตรภาพดีๆ ที่มีให้กันตรงนี้ ผมว่ามันเป็นภาพความทรงจำที่ดีมากๆ เลย ขอบคุณนะครับ

ความในใจลึกๆ ที่ทั้งคู่พูดออกมา ทำให้ POSH เห็นถึงสายสัมพันธ์และความมุ่งมั่นของทั้ง 2 คน เลยอยากให้ทุกคนห้ามพลาดกับซีรีส์ Deep Night คืนนี้มีแค่เรา ด้วยประการทั้งปวง โดยดูออนไลน์ได้แล้วในเวอร์ชัน UNCUT บนแอปพลิเคชัน iQIYI และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น


Photographer : Peerakran Numnoke @_pnphoto_
Editor in Chief : Austin Thein
Interview : Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz