Cover Interview – Bas – Copter – Kimmon

“มีเขา…เหงาได้ไง” การรวมตัวเฉพาะกิจของ “บาส-คอปเตอร์-คิมม่อน” ให้เหล่าแฟนหายคิดถึง
เรารู้ว่า คุณคิดถึง 3 คนนี้ เรารู้ว่า คุณคิดถึงการอยู่ด้วยกันของเขา และเราก็รู้ว่า คุณคิดถึงบทเพลงสุดประทับใจของแก๊งค์นี้ หมดเวลารอแล้ว เพราะเขาทั้งสามกลับมารวมตัวกันในตัวย่อ BKC “บาส-คอปเตอร์-คิมม่อน” A.K.A. สุดเฟี้ยวกับเพลงเน้นอารมณ์แอบฝันลึกๆ อย่าง “มีเขา…เหงาได้ไง” ทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงมาทำงานกลุ่มเพลงนี้กันได้ POSH MAGAZINE THAILAND เลยให้เขาบอกเล่าเรื่องการทำงานร่วมกันสักนิด และเรื่องความเหงาที่เป็นแก่นหลักของเพลงอีกสักหน่อย

3 คนก็ยังสบายดี

บาส: หลายคนคงอาจจะคิดถึง พวกเราอยู่ด้วยกัน 5 คน แต่ในวันนี้ ผมว่าต่างคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำแตกต่างกันออกไป และรับผิดชอบความฝันของตัวเอง นั่นเลยทำให้ผมมองว่า มันอาจจะดูเหงานะ แต่อย่างน้อยเรายังมีเพื่อนคู่ใจที่ร่วมเดินทางสายเพลงกับเราอยู่ ผมเลยมองว่า 3 คนก็เป็นกลิ่นอายใหม่ๆ อีกแบบหนึ่ง และผมเองก็รู้สึกว่า อยากให้เพลงทำงานกับคนฟังจริงๆ ให้เขาชอบเพลงที่เป็นตัวของเราจริงๆ

คิมม่อน: พวกเราทัวร์มาแล้วทั่วเอเชียเกือบ 6 ปีด้วยกัน ความคิดถึงมันย่อมแน่นแฟ้นเป็นของปกติ กินนอนด้วยกัน รู้ใจกันแทบจะทั้งหมดแล้ว แต่พอจาก 5 คนเป็น 3 คน คอนเซ็ปต์ต่างๆ ก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเน้นเต้นแบบบอยแบนด์ ก็เริ่มเน้นที่เนื้อหาและความเอ็นเตอร์เทนให้เข้ากับคนในยุคนี้

คอปเตอร์: ผมว่าทุกคนโตขึ้นด้วยครับ จาก 5 คนที่อาจต้องปรับจูนกันประมาณหนึ่ง แต่พอเป็น 3 คนที่ผ่านงานด้วยกันมาเยอะแล้ว มันเลยยิ่งรู้ใจกันเร็วขึ้น และคอนเซ็ปต์ที่ต่างออกไป เสริมคาแร็คเตอร์ความขี้เล่นเข้ามา ไม่เน้นเต้นหนักเหมือนเมื่อก่อน (หัวเราะ) เลยทำให้จังหวะในการทำงานของเราสบายตัวขึ้นครับ

ชาเลนจ์ของ “มีเขา…เหงาได้ไง”

คิมม่อน: จากที่เคยโฟกัสแค่การทำเพลงเพื่อแฟนคลับ ตอนนี้ผมคิดว่า ผมมองกว้างขึ้นคือ ต้องการให้เป็นที่รู้จักในคนหมู่มาก ให้คนรู้ว่ามีเรา คาแร็คเตอร์เราเป็นแบบนี้ เนื้อหามาจากเนื้อตัวเราจริงๆ ผมเลยมองว่า จะทำอย่างไรให้มันเข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วไปได้ ซึ่งยอมรับว่าเป็นโจทย์ที่ยากพอควร

คอปเตอร์: เมื่อก่อนผมมองว่า เพลงของพวกเราเน้นความพร้อมเพียง สามัคคี ท่าเต้น การเข้าจังหวะใดๆ แต่ตอนนี้ผมคิดว่า อาจต้องกลับมามองที่ตัวตนของตัวเองมากขึ้นว่า เข้าหรือใช่กับคาแร็คเตอร์ของเราจริงๆ ใช่ไหม ซึ่งเพลงนี้ก็ตอบตัวเองได้ว่า ใช่ เรากำลังมุ่งมาในจุดนั้นอยู่ และเหมือนกับพี่คิมม่อนบอก แอบหวังอยู่เล็กๆ ว่า อยากให้คนทั่วไปได้ฟังเพลงของพวกเรามากขึ้นจริงๆ

บาส: เสริมต่อจากทั้งคู่ ผมมองว่าเนื้อหาในเพลงก็ท้าทายไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของคนเรา บางอย่างมันคลุมเครือซะจนเหมือนหาทางออกไม่ได้ แต่เพลงกำลังจะบอกว่า ลองมองมุมกลับ ปรับมุมมองสิ ไม่แน่ว่า อาจพบทางออกที่อยู่ใกล้ตัว ซึ่งมันเป็นเพลงที่หยิกแกมหยอกใช้ได้เลย 

Paper Planes กองหนุนของเพลง

คอปเตอร์: สำหรับๆ พี่ๆ วง Paper Planes มันนานมาแล้วเหมือนกันเนอะ

คิมม่อน: ตั้งแต่ตอน SBFIVE ตอนที่เราทำเพลง Spark แล้วครับ

บาส: มีเวลา 2 นาทีไหมครับ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง (หัวเราะ) เรื่องเริ่มมาจากพี่ใหญ่สุดของค่าย “พี่เต๋า” เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) พี่เขาได้ทำงานร่วมกับพี่ฮาย Paper Planes ซึ่งเขามาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ แล้วพี่เต๋าก็แนะนำมาอีกที ตอนเราเป็น SBFIVE เพลง Spark ก็เป็นหนึ่งในฝีมือพี่เขาในตอนนั้น แล้วพอเราทำกับพี่ฮายครั้งนี้ มันคลิกกันมากๆ ทั้งมุมมองและสไตล์เพลง ก็เลยตัดสินใจว่า ยังไงก็ต้องเป็นพี่ฮาย แต่ตอนนั้นพี่ฮายยังดังกับ “เสแสร้ง” ยังไม่เกิดลัทธิฟันน้ำนม ยังเป็นลัทธิชายฉกรรจ์อยู่ เลยยังพอมีคิวมาทำให้เราบ้าง แต่ตอนนี้พี่ฮายดังมาก ยังไงดีใจกับพี่ฮายด้วยนะครับ

ความยากในฐานะศิลปินนักร้อง

คอปเตอร์: ผมว่าการเอ็นเตอร์เทน หลายคนคิดว่า มีแฟนคลับเข้าใจสไตล์แล้วไม่น่ายากหรอก แต่เราไม่รู้ว่า ในอนาคต เวทีหรือสถานที่ที่เราเจอ มันจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมยังตื่นเต้นทุกครั้งที่ขึ้นเวที แต่ทุกอย่างต้องรับมือเป็นกรณีไป อย่างเพลง “มีเขา…เหงาได้ไง” ไม่ได้เป็นจังหวะเต้นหนัก จะไปยืนร้องเฉยๆ ก็อาจเบาไป อาจต้องมีการเสริมเพอร์ฟอร์แมนซ์บางอย่างเข้าไป เพื่อรองรับการโชว์ที่ใหญ่ขึ้น ผมเลยมองว่า เป็นจุดยากที่ต้องดูเป็นกรณีไปครับ

คิมม่อน: การพัฒนาตัวเองครับ แม้ทรัพยากรที่เรามีมันจะเพียบพร้อม ไหนจะวง ไหนจะแบ็คอัพ ไหนจะดนตรี แต่ความพยายามของเรามันเพียงพอที่จะทำให้โชว์นั้นประทับใจไปถึงคนฟังได้หรือเปล่า เราสนุกไปกับมันแค่ไหน และเป็นนักเอ็นเตอร์เทนเนอร์ที่ดีหรือยัง อันนี้คือจุดยากที่ผมสู้กับมันอยู่ ซึ่งถ้าผมจัดการตัวเองได้และทำโชว์ออกมาได้กินใจคนฟัง ผมว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย

บาส: สำหรับผม คนมักตัดสินก่อนว่า เราคือนักแสดงไม่ใช่นักร้อง เช่น บางคนจะบอกว่า “นี่คือนักแสดงซีรีส์วายมาร้องเพลง” ความรู้สึกจะต่างจาก “ศิลปินวงนั้นคนนี้มาร้องเพลง” อันนี้คือการจัดการยากที่สุด เพราะผมไม่อาจเข้าไปจัดการความคิดของคนที่คิดแบบนั้นได้ มันเปลี่ยนยาก สิ่งที่เราทำได้คือ ทำให้เห็นว่า สิ่งที่เราทำอยู่มันส่งถึงเขาหรือเปล่า เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำดีพอแล้วหรือยัง เพราะเราเองเราก็อยากเป็นนักร้องในฐานะนักร้องที่ร้องเพลงจริงๆ ให้ทุกคนได้ฟัง และเชื่อว่า สักวันทุกคนจะมองเห็นความตั้งใจในสิ่งที่เราทำครับ

เต็ม 10 กับโปรเจกต์เพลงของ BKC

บาส: เต็ม 10 นะ เพราะเราตั้งใจที่สุดแล้ว ต้องบอกว่าถ้าเราฟังแล้วพอใจ มันก็จะเต็ม 10 สำหรับเรา อยู่ที่ว่าในมุมคนฟัง คนฟังจะเต็ม 10 กับเราหรือเปล่า ก็อยากฝากทุกคนให้เต็ม 10 กับเราด้วยนะครับ

คอปเตอร์: ผมให้ 9.5 ขาด 0.5 ไป กลัวคนหมั่นไส้ (หัวเราะ) แต่ว่าจริงๆ ก็อย่างที่น้องบาสบอกไปเลยครับ งานนี้เราคิดกันมาอย่างดี เราตั้งใจทำเต็มที่ เป็นสิ่งที่สามคนคุยกันแล้วว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องการ เอาจริงๆ ถ้าจะให้ตีเป็นคะแนนก็พูดยาก ผมอาจมีรสนิยมแบบหนึ่ง คนฟังอาจมีประสบการณ์อีกแบบหนึ่ง แต่สิ่งที่ผมมีคือ ความตั้งใจและอยากให้สิ่งที่เราคิดหรือฝันเป็นจริงคือ มอบผลงานดีๆ ให้กับคนฟัง ผมเลยให้ 9.5 หักคะแนนความน่าหมั่นไส้ของตัวเองไป 

คิมม่อน: ผมอาจเป็นคนที่อ่อนสุดในการร้องและเต้น แต่ผมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ พอมันออกมาสำเร็จเสร็จสิ้น ตอบได้เลยครับว่า เต็ม 10 ส่วนในเรื่องรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละคน อย่างที่คอปเตอร์บอกเลย มันแตกต่างกัน ในเมื่อเราตัดสินใจแล้วว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา เพราะฉะนั้น อย่างไรคะแนนมันก็ต้อง 10 ครับ ส่วนคนฟังจะให้เท่าไหร่ มันก็เป็นสิทธิ์และรสนิยมของเขา แต่อย่างน้อยให้ 10 ก็ดีนะครับ (หัวเราะ) 

เพลงตัวแทนความเหงา ถ้าไม่ใช่ “มีเขา…เหงาได้ไง” 

บาส: ผมชอบเพลง “หลับตา” ของ URBOYTJ ผมรู้สึกว่า มันทำให้ผมเหงา ก็แค่อยากนอนหลับตา ไม่ได้อยากยุ่งอะไร ดูเหงาอยู่คนเดียว ถ้าไม่เหงา ก็ไม่คิดอะไร

คิมม่อน: ของผมน่าจะเป็นของพี่ Peacemaker เพลง “เหงา” ครับ
คอปเตอร์: ของผมเป็นเพลง “เลือดกรุ๊ปบี” ของคุณเอิ๊ก ชาลิสา ครับ

คิมม่อน: แต่ท้ายสุด ถ้าเหงามากๆ ฟังเพลงนี้ “มีเขา…เหงาได้ไง” จาก BKC ครับ (หัวเราะพร้อมกัน 3 คน)


Photographer: Termsit Siriphanich

Makeup: Aon Sung @aon_sung

Hair: TheArm Hair @thearm_hair89

Clothes: @imumu_official

Editor in Chief: Austin Thein

Location: @studio_vjthailand

Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz

#BASCOPKIMxPOSH