Cover Interview – 4MINUTES

4MINUTES กับ 4 ความรู้สึกลึกๆ จากใจเจษไบเบิ้ล

การจับคู่ในครั้งนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมไม่น้อยตั้งแต่ Trailer เปิดตัวมา เพราะฝั่งหนึ่งก็มาทางละครจ๋ามากกับ เจษเจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ @jesjpp กับอีกฝั่งอย่าง ไบเบิ้ลวิชญ์ภาส สุเมตติกุล @biblesumett ที่ได้เป็นนักแสดงนำแบบเต็มตัว ทำให้ซีรีส์ 4MINUTES เป็นกลิ่นอายใหม่ที่ POSH MAGAZINE THAILAND เองก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่า พวกเขาจะมาไม้ไหน และเรื่องจะดำเนินไปในทิศทางใดกันแน่

แต่จากหลายตอนที่ผ่านมาเราได้ดูแล้วมันพลิกหน้าพลิกหลังแบบที่เราก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวยิ่งใกล้โค้งสุดท้ายเข้าไปทุกทีก็ยิ่งบีบหัวใจไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกหัวหรือออกก้อยแต่สิ่งที่ไม่ต้องรอผลลัพธ์นี้คือเราชวนทั้งคู่มาบอกเล่าถึงการทำงานและการได้ร่วมงานกันผ่าน 4 อารมณ์ 4 ความรู้สึก และเกมสนุกๆ ที่เราอยากให้เขาเขียนด้วยลายมือตัวเอง เรียกว่าค่ายนี้เขาชอบเซอร์ไพรส์ผู้ชมแบบไหน เราเองในฐานะคนสัมภาษณ์ก็ชอบเซอร์ไพรส์พวกเขาไม่แพ้กันฉันนั้น

เสน่ห์ที่ทั้งคู่สัมผัสได้

แม้จะผ่านการแสดงมาก็หลายเรื่อง แต่เจษยอมรับว่า เรื่องนี้แตกต่างจากที่เคยแสดงไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งวิธีการเล่าเรื่องและวิธีการถ่ายทำ ซึ่งตอนแรกที่ออกฉายและได้นั่งดูตัวเอง เจษก็รู้สึกได้ถึงความต่างนั้น และเขาเองมองว่า มันเสี่ยง แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่า เราเลยไม่ชัวร์ว่า ความเสี่ยงที่ว่านี้ของเจษคืออะไร เลยขอให้เขาขยายความตรงนี้เพิ่มเติม

ผมอาจจะเคยชินกับสูตรสำเร็จในการทำงาน มีแพทเทิร์นที่ตายตัวและการันตีว่า เรื่องนี้ทำแบบนี้แล้วจะสำเร็จแน่ๆ แต่กับเรื่องนี้มีอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้ผมต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก มันเลยทำให้การแสดงและการทำงานของผมหลุดออกไปจากลูปปกติที่เคยทำมา ซึ่งผมคาดเดาผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้ว่า มันจะเป็นอย่างไร ซึ่งความไม่รู้ผลลัพธ์ตรงนี้แหละ มันเลยกลายเป็นความเสี่ยง แต่เป็นความเสี่ยงที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่าที่ได้ลองมัน

ความเสี่ยงที่เจษบอกเมื่อครู่เหมือนถูกส่งต่อมาที่ไบเบิ้ลด้วยเพราะไบเบิ้ลเองก็มองว่าระหว่างถ่ายทำตัวเองพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวจากในหัวของตัวเองยังรู้สึกเลยว่ายากจึงไม่มั่นใจว่าผู้ชมจะคิดแบบเดียวกับที่ตัวเองรู้สึกหรือไม่แต่พอได้เห็นผลตอบรับในโลกโซเชียลบอกได้เลยว่าประมาทพลังของผู้ชมไม่ได้เลย

นอกจากเรื่องที่เข้มข้นแล้ว ผมว่าความเป็นนักสืบของผู้ชมในโลกโซเชียล ทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์มากขึ้นอย่างมาก เพราะผมในฐานะนักแสดง ต้องอ่านบทหลายรอบ ทำการบ้านกับตัวละครแบบสุดๆ กว่าจะเห็นภาพหรือเข้าใจในรายละเอียดบางอย่าง แต่ผู้ชมกลับล้ำกว่าคือ วิเคราะห์ตั้งแต่ Trailer ยิ่งฉายไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งวิเคราะห์กันจริงจังมากขึ้น ผมเลยเข้าใจที่พี่เจษบอกเลยว่า ความเสี่ยงที่ตื่นเต้นและคุ้มค่า หน้าตามันเป็นแบบนี้ ที่ทุกคนมีส่วนร่วมและคาดเดาเนื้อหาในความคิดของตัวเอง

ผลตอบรับที่สะดุดตา

เราเดาว่า พวกเขาทั้งคู่อาจเป็นนักส่องโซเชียลมากกว่าเรา เพื่อเก็บฟีดแบ็กการทำงานของตัวเอง ในฐานะที่ซีรีส์ฉายไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว เราเลยอยากรู้ว่า ทั้งเจษและไบเบิ้ลเจอฟีดแบ็กเกี่ยวกับ 4MINUTES ที่เข้ามาหาตัวเองอย่างไรหรือมีคอมเมนต์ไหนที่น่าสนใจและยังจำได้ถึงทุกวันนี้เจษนิ่งคิดและบอกว่าสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดตอนที่ได้อ่านคือการวิเคราะห์ของผู้ชมแบบเป็นเรื่องเป็นราวและมีเรื่องที่ช็อกใจเขายิ่งกว่าก็คือ

มีคนทายถูกด้วยครับ (หัวเราะ) แต่ผมจะไม่บอกนะว่า เขาทายว่าอะไร แต่เท่าที่ผมจำได้คือ เขาเก็บรายละเอียดดีมาก ดียันเสียงบางเสียงที่เขาได้ยิน มันไปเชื่อมโยงกับอีกฉากหนึ่ง มันทำให้ผมนึกถึงตอนทำงาน คือช่วงเวลาอ่านบท มันก็จะมีแค่ภาพในจินตนาการ ไม่มีเสียง บางครั้งผมก็มองข้ามไป แต่พอกลับมาดูอีกครั้ง ผมถึงขั้นพิมพ์ไปถามในกรุ๊ปเลยว่า สิ่งที่เขาวิเคราะห์มาใช่ไหม จริงหรือเปล่า ผู้กำกับบอกว่า ใช่ ผมเลยนับถือใจเหล่าคนวิเคราะห์มากๆ

ไบเบิ้ลเองเสริมคำตอบจากเจษว่า เขาเองก็รู้สึกดีที่มีคนเห็นรายละเอียดเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการวางนาฬิกาหรือการบอกเวลา ซึ่งเขาขอบคุณเบื้องหลังทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่ๆ ควบคุมความต่อเนื่อง (Continue) ที่เก็บความซับซ้อนเหล่านี้ให้เข้ารูปเข้ารอยได้

เขาสังเกตรายละเอียดที่ซีรีส์วางไว้ขนาดนี้ ก็ต้องยอมใจผู้ชมจริงๆ ครับ เพราะคนที่ทำ Continue ทำงานหนักมาก และยากมากในการเรียงลำดับเหตุการณ์ เพราะบางฉากผมไม่ได้ถ่ายวันเดียวกัน ผมเองก็ต้องจำนะ (หัวเราะ) แต่บางครั้งก็ต้องถามทางพี่เขาด้วยเหมือนกัน เพื่อตรวจสอบความมั่นใจของตัวเองอีกรอบว่า สิ่งที่เราจำได้มันใช่หรือถูกต้องกับฉากนั้นหรือเปล่า ผมเลยดีใจที่มีคนสังเกตเห็นและเก็บรายละเอียดนี้เอาไปวิเคราะห์ต่อ มันทำให้เรื่องสนุกขึ้นเยอะเลย เพราะมันมีทิศทางให้ไปได้หลายทางมาก

พาร์ทเนอร์ที่สนุกและจริงใจ

ความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกันในฐานะพาร์ทเนอร์ทางการแสดง ถ้าให้ทั้งคู่เล่าออกมาคงใช้เวลานานเกินกว่า 4 นาทีตามชื่อเรื่องที่พวกเขาแสดง เราเลยสโคปให้แคปลงด้วยการให้พวกเขานิยามเพียงแค่ 3 คำและอธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่นิยามได้ไม่เกิน 1 ประโยค พวกเขาแอบเอามือป้องปากนิดๆ พร้อมครุ่นคิด ก่อนที่ไบเบิ้ลจะตอบออกมาเป็นคนแรก

สนุกมาก คำตอบของไบเบิ้ลสั้นกระชับได้ใจความ เพราะเขามองว่า การที่ได้มาเล่นคู่กับเจษคือ การค้นพบทางใหม่ๆ และร่วมพัฒนาตัวละครไปด้วยกัน อีกทั้งประสบการณ์ที่มีมากกว่าของเจษ ทำให้ไบเบิ้ลได้มุมมองเพิ่มเติมจากที่ตัวเองมองออกมาอีกเยอะมากเรียกได้ว่า แบ่งปันความคิดเห็นกันตลอด ขณะอยู่ที่กองถ่ายเลยครับไบเบิ้ลกล่าวสรุป

ในส่วนของเจษ สบายใจน่าจะเป็น 3 คำที่นิยามให้กับพาร์ทเนอร์ที่ชื่อว่าไบเบิ้ลได้ เพราะจากการทำงาน เจษมองว่า ไบเบิ้ลเป็นคนจริงใจกับตัวเองสูงและตั้งใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแบบไม่ลดละความพยายาม นั่นจึงทำให้ไบเบิ้ลเป็นเด็กที่น่ารักคนหนึ่งในสายตาของเจษถ้าเป็นไปได้ในอนาคต ผมก็ยังอยากร่วมงานกับน้องอีกนะเจษขมวดจบการนิยามด้วยรอยยิ้ม

ความคาดหวังหลังจากนี้

จนถึงตอนนี้ที่ซีรีส์ 4MINUTES กำลังเดินทางมาถึงตอนสุดท้ายและได้เวลาโบกมือลาตัวละครเกรทและหมอธามเราเลยอยากรู้ใน 2 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรก ถ้าได้ถามคำถามตัวละครที่แสดง อยากถามเขาว่าอะไร และคิดว่าพวกเขาจะตอบอะไรออกมา และ ประเด็นที่สอง หลังจบเรื่องนี้แล้ว คิดว่า 4MINUTES จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่ไปในแง่ไหนได้บ้าง

เจษบอกกับเราตรงๆ เลยว่าเมื่อก่อนพอผลงานออกสู่สายตาทุกคนแล้ว ผมก็จะไม่คาดหวัง และปล่อยให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเอง แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ผมอาจมองตัวเองว่า อยากเป็น นักแสดงวาไรตี้ คนหนึ่งที่จับงานได้หลากหลายขึ้น แสดงหรือเล่นอะไรก็ได้ ทุกบทที่ได้รับมีความท้าทาย โดยไม่มานั่งจำกัดกรอบตัวเองหรือนั่งแบ่งประเภทว่า เป็นซีรีส์แนวนั้น แนวนี้ เราอยากแสดงให้ได้ทุกแนวบนโลกใบนี้

ส่วนคำถามถึงหมอธามเหรอเจษเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนถามขึ้นมาว่า เหนื่อยไหม และนี่คือสิ่งที่หมอธามจะตอบออกมาจากความคิดของเจษ เหนื่อยแต่ก็ต้องทำครับ

ซีรีส์ 4MINUTES เปลี่ยนชีวิตไบเบิ้ลในแง่ของ การจัดการความรู้สึกตัวเอง เพราะเรื่องนี้ทำตามสัญชาตญาณตัวเองล้วนๆ ไม่เค้นหรือบังคับทำให้มันได้ เพราะยิ่งบังคับตัวเอง ทำไปก็จะไม่เวิร์ก ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งในคำแนะนำที่ได้รับจากเจษ นั่นจึงทำให้ไบเบิ้ลมองหาแกนกลางระหว่างการแสดงและความรู้สึกของตัวเองเจอจากความเปลี่ยนแปลงนี้เอง ทำให้ผมมองว่าตัวเองเป็นนักแสดงแล้วจริงๆ และเป็นกุญแจที่จะเปิดไปสู่ประตูแห่งโอกาสบานอื่นๆ ได้

เรื่องถามเกรทไม่ค่อยยาก แต่เรื่องตอบผมว่ายากคำถามที่ไบเบิ้ลอยากถามเกรทคือมีอะไรนอกจากการปาร์ตี้หรือการดื่มที่ทำให้ตัวเองมีความสุขบ้างไหมเกรทในความคิดไบเบิ้ลตอบออกมาว่า มี ก็แค่การเป็นอิสระจากอะไรบางสิ่ง

ไปลองของและสัมผัสถึงอารมณ์การถ่ายทอดจากความตั้งใจของทั้งเจษไบเบิ้ลได้กับ 4MINUTES ในทุกวันศุกร์ เวลา 23:15 . ทางช่อง one31 และ Sultrier Version ได้ที่แอปพลิเคชั่น Viu เท่านั้น

 

Never Have I Ever Challenge (เจษ)

เคยด้นสดขณะถ่าย 4MINUTES: ชอบการรู้สึกจริง และทำสิ่งที่ตัวเองและคนอื่นไม่คาดหวัง

เคยถูกทักว่าเป็นศิลปินท่านอื่น: กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา

ไม่เคยซื้อของไร้สาระแบบไม่รู้ว่าซื้อมาทำไม

เคยตกอยู่ในความเป็นความตาย: รถชน

เคยอธิษฐานแล้วได้สิ่งนั้นจริงๆ: เคย แต่ไม่แน่ใจว่าได้อะไร เพราะนานมากแล้ว

เคยคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์: คุยจริงจัง

เคยตีกลองจนไม้หัก: ตีต่อจนจบเพลง

เคยอดนอน: นอนไม่หลับ

(ไบเบิ้ล)

ไม่เคยเผลอหลับในกองถ่าย 4MINUTES

เคยทักคนผิด: ทักแชทไปผิดคนที่ชื่อคล้ายกัน

เคยเสิร์จชื่อตัวเองบนกูเกิ้ล: เสิร์จเพื่อยืนยันตัวตนในไอจี

เคยฝันประหลาด: ฝันว่าแมวถูกไฟคลอกในบ้านที่ไฟไหม้

เคยหน้าแตกต่อหน้าคนมากๆ: ร้องเพลงอยู่แล้วลืมเนื้อร้อง

เคยโดนเย็บแผล: 13 เข็มบนหน้าผาก

เคยใส่วิกหรือต่อผม: เพื่อการถ่ายแฟชั่น

ไม่เคยกินพิซซ่าทั้งถาดคนเดียว


Stylist: @kateleestylistfiles

Clothes: @coach @pacificagroup

Editor in Chief: Austin Thein

Photo team: @gur_kerdsup

Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz

#4MINUTESxPOSH