หากพูดถึงศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทั้งการแต่งเพลง ร้องเพลง แว่บแรกที่เข้ามาในหัวจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหนุ่มคนนี้ THE TOYS ศิลปินที่มีการร้องเพลงเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว และเพลงฮิตขึ้นชาร์ตอย่าง “ก่อนฤดูฝน” ที่ผู้คนต่างพากันร้องตามทั่วทั้งเมือง ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้เขาจะปล่อยอัลบั้มออกมาให้ได้เห็นกัน เมื่อมีโอกาสได้เจอเขาจึงพามาอัพเดตเรื่องราวให้ผู้อ่านได้หายคิดถึงเขาสักนิด
ได้ข่าวว่า The Toys กำลังจะมีอัลบั้มเต็มเป็นของตัวเอง ขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว
ใช่ครับ เดือนตุลาคมนี้ครับ จริงๆมันก็เสร็จไปร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ผมยังอยากที่จะดูมันอีกสักนิดก่อนครับ
แล้วอัลบั้มนี้มีความพิเศษอะไรไหม
คือทุกๆเพลงของผมมันจะพิเศษในแบบของมันเอง เพราะว่ามันไม่เคยซ้ำกันเลย ไม่เคยทำให้คนคาดได้ว่าสุดท้ายมันจะออกมาเป็นประมาณไหนครับ (หัวเราะ)
เวลาเราแต่งเพลงซักเพลง เราหาแรงบันดาลใจจากไหน
ส่วนใหญ่สำหรับผมมันจะออกมาตอนช่วงเวลาที่รู้สึกนอยด์ๆ ช่วงนั้นจะเป็นเวลาที่ผมจะเขียนเพลง เวลาเหงาๆ แล้วเรารู้สึกอยากระบาย คุยกับใครซักคน เพราะส่วนตัวผมเป็นคนไม่ค่อยชอบคุยกับใคร ก็เลยชอบเขียนมันออกมาเป็นเพลงมากกว่า
แล้วอารมณ์เหงามันมักจะมาตอนไหน
มันมาได้ทั้งวันเลยครับ (หัวเราะ) มันจะเป็นอารมณ์แบบอึดอัด แต่อยากบอกใครซักคน แต่ไม่มี บอกใครไม่ได้ การระบายที่ดีที่สุดก็คือการเขียนเพลง
แล้วพออารมณ์มันมาในสถานการณ์ที่เราจดใส่สมุดไม่ได้ เรากลัวลืมไหม
มีวันนึงผมไปทานข้าวกับผู้ใหญ่ทั้งโต๊ะเลยครับ แล้วเพลงมันดันคิดได้ตอนนั้น ผมก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็ฮัมเพลงใส่ แบบแอบๆเอามือปิดไว้ เค้าก็มองกันว่าทอยมันทำอะไร (หัวเราะ) ผมก็รู้สึกเขินๆ นะ แต่สุดท้ายเราก็ทำตอนนั้น เพราะถ้าเราไม่อัดเราก็ลืม มันจะออกมาแต่แป๊ปเดียว ต้องเก็บมันไว้ทันที
ในช่วงแรกที่มาเป็นศิลปินเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ชอบเบื้องหน้า มาถึงตอนนี้เรารู้สึกรับมือกับมันได้มากขึ้นไหม
ผมคิดว่าก็ได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วนะครับ แต่ก็ยังมีในส่วนที่ผมยังคอนโทรลไม่อยู่ อย่างเช่นตัวเองนี่แหละ คือผมเป็นคนที่อยู่กับสคริปต์ไม่ได้จริงๆ คือถ้าแรกๆ มีเวลาให้เตรียมตัวซัก 7 วันอย่างนี้พอไหว (หัวเราะ) แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นแบบที่เราเป็นอยู่แล้ว เราจำได้ แต่ถ้าขัดกันไปเลย ก็จะลำบากนิดนึง ก็พยายามทำแต่ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงจำไม่ได้ครับ (หัวเราะ)
แล้วผลงานเพลงที่จะออกมาใหม่นี้จะเป็นแนวไหน แอบบอกได้ไหม
มีหมดทุกอารมณ์เลยครับ แต่เพลงล่าสุดเร็วๆ นี้จะเป็นแนวออกตลกครับ
เคยมีคนเห็นด้านตลกของเราบ้างไหม
มีครับ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนคลับ แล้วก็คนใกล้ชิด มันจะมาตอนกลางคืนครับด้านนั้น (หัวเราะ) เช้าๆ ผมก็จะเงียบๆ สักหน่อย
ทอยมีงานร้องเพลงเยอะมาก เวลาไปร้องเพลงแต่ละคนเราเจอปัญหาเรื่องการเล่นดนตรีสดบ่อยไหม
เยอะเลยครับ ทั้งไฟดับบ้าง แก้วแตกบ้าง หลายๆ อย่างที่คาดไม่ถึงเยอะครับ ด้วยความที่ผมมึนอยู่แล้ว ไฟดับผมก็ร้องอยู่อย่างนั้น หลับตาร้อง (หัวเราะ)
ด้วยความที่ทั้งคุณป้า และคุณแม่เป็นนักร้องอยู่แล้วพวกท่านมีอิทธิพลกับเราเยอะไหม
ถ้าในเรื่องของรสนิยมพอมีครับ แต่ถ้าในด้านการทำงานนี่ไม่มีครับ พวกท่านห้ามด้วยซ้ำไป อย่างคุณแม่ห้ามไม่ให้เล่นกีต้าร์ ป้าเจินอยากให้เรียนภาษาญี่ปุ่นต่อ คือไม่ได้เกี่ยวกับงานเพลงเลย ตอนแรกผมเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรี กีต้าร์ กลอง ฯลฯ แล้วผมทำเพลงแล้วต้องการคนที่มาร้องไกด์เป็นผู้ชายมาร้องเพลงของผมอย่างที่ผมต้องการ แต่หาไม่ได้ ก็เลยร้องไกด์เองเลย เพื่อที่จะให้ศิลปินหลายๆ ท่านมาอัดเพลงๆ นั้นที่ผมทำไว้ สุดท้ายคือด้วยความบังเอิญก็เป็นทุกวันนี้ครับ
มันก็เหมือนอยู่ในสายเลือดเรา?
ตอนแรกผมอายมากนะครับ ผมคิดว่าเสียงผมแปลก เพื่อนๆ ต้องขำเสียงผมแน่เลย เวลาไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน ผมก็จะพยายามทำเสียงเบาๆ (หัวเราะ) ผมไม่เคยร้องเพลงในบ้านเลยนะ แม่กับป้าเจินไม่เคยได้ยินเสียงผมร้องเพลงเลยจนอายุ 20 เนี่ยแหละครับ (หัวเราะ)
สุดท้ายฝากผลงานเร็วๆนี้กับแฟนเพลงสักหน่อย
เดือนตุลาคมนะครับ ผมจะปล่อยอัลบั้มใหม่ และเพลงใหม่ รวมถึงแถลงข่าวคอนเสิร์ตเดี่ยวในปีหน้า ฝากติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจของ What the duck นะครับ แล้วมาเจอกันนะครับ
Special thanks to What the Duck Music
Clothes SIXONE-ZERO LINE @sixonezero www.sixone-zero.com
Photographed by Termsit Siriphanich
Interviewed by Chalermpol Teamkom
Editor in chief Austin Thein