Kidakarn Chatkaewmanee
“New Chapter of Zung”
#มือกีตาร์หน้าหล่อ แฮชแท็กแรงๆ สำหรับชื่อของ ‘ซุง – กิดาการ ฉัตรแก้วมณี’ มือกีตาร์วงแมทนิแมร์ (Mattnimare) วงดนตรีของ 4 หนุ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและ รางวัลเพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยมจากเพลงจากเวที สีสันอวอร์ด ครั้งที่ 28 ประจำปี 2559
การก้าวเข้ามารับบทพระเอกในภาพยนตร์เรื่องเปรมิกาป่าราบเป็นครั้งแรก ถือเป็นอีกเส้นทางใหม่ของนักดนตรีอย่างซุง แน่นอนว่า เขาแบกกีตาร์มาด้วย
ทำไมต้องเป็นชื่อ Mattnimare
“ตอนนั้นตั้งวงกันตอนเด็กมาก เลยคิดชื่อมั่วๆ เอาคำที่แต่ละคนชอบมา 1 พยางค์ โยนๆ มาผสมกัน ก็เลยเป็นชื่อที่ไม่มีความหมาย แต่ว่าข้อดีของมันก็คือไม่มีใครใช้เลย เวลาเซิร์ซก็จะเจอแต่วงเรา”
ถ้าให้คำจำกัดความของวง Mattnimare
“ตอนนี้วงเราเป็นวงร็อค ก่อนหน้านี้จะมีชื่อจำกัดความที่แปลกๆ ว่าดนตรีบำบัดหรือโพสต์ร็อค ซึ่งผมว่ามันก็เป็นอะไรที่เข้าใจยากเหมือนกัน เอาเป็นร็อคดีกว่า เข้าใจง่ายครับ”
ย้อนกลับไป คุณเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่เมื่อไร
“ผมเล่นกีต้าร์ตั้งแต่ประมาณ ป.5 ครับ หัดเองครับ ไม่ชอบเรียนแบบมีครูสอน ผมว่าถ้าเกิดผมไปเรียนกีต้าร์ผมอาจจะเลิกเล่นไปแล้วก็ได้ เหมือนอะไรก็ตามที่ถูกให้ต้องทำหรือต้องเรียน สุดท้ายเราจะไม่ชอบมัน ตอนนั้นก็หัดจากหนังสือคอร์ดเพลง เล่นตามไปมั่วๆ เล่นตอนแรกก็จับได้แค่ 2 คอร์ดครับ C, Em สลับกัน แต่ถ้าตอนนี้เด็กรุ่นใหม่โชคดีมาก มียูทูป มีอินเทอร์เน็ต”
คนเริ่มรู้จักวงของเราได้อย่างไรคะ
“วง Mattnimare จะทำตอนประมาณมหาวิทยาลัยครับ ตอนแรกเล่น cover เล่นตามสถานที่ต่างๆ จะเป็นผับเป็นร้าน แล้วพอเล่นไปสักพักก็รู้สึกว่าอยากมีเพลงของตัวเอง ก็เริ่มแต่งเพลงของตัวเอง บวกกับยุคสมัยมันสามารถทำให้เราปล่อยเพลงเองได้ โดยไม่ต้องไปอยู่ค่าย แล้วก็เลยเอาเพลงเราปล่อยลงในยูทูป จึงมีกลุ่มคนที่สนใจในแนวเพลงของเราพอดี เลยมีการจ้างให้ไปเล่นตามงานอินดี้ จากนั้นก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นมา”
แล้วจากนักดนตรีแล้วมาเป็นนักแสดงได้อย่างไรคะ
“เริ่มจากการถ่ายภาพนิ่งครับ มีรุ่นน้องคนหนึ่งชื่อน้องเมย์ ทำอยู่เกรย์ฮาวด์ เรียกเราไปถ่ายแบบให้เกรย์ฮาวด์ สักพัก ก็เริ่มงานมีโฆษณาบ้าง แต่ว่าตอนนั้นผมยังไม่รู้สึกหลงใหลงานนี้มากเท่าไร เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดี ได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ ดีกว่า จนได้เล่นหนังเรื่องแรก ได้เวิร์คช็อปกับครูบิว เขาทำให้ผมรู้สึกว่า การแสดงมีความคล้ายคลึงกับการเขียนเพลง”
คล้ายกันอย่างไรคะ
“คือเราต้องมีความเชื่อก่อน เราเชื่อถูกต้องหรือยัง เราเชื่อมันมากพอไหม ถ้าข้างในเราเชื่อมันมากพอ การกระทำมันจะออกมาเอง เหมือนเขียนเพลง ถ้าเราเชื่อในเรื่องราว เราเขียนตามความรู้สึกข้างใน คำแต่ละคำมันจะออกมาเหมือนการแสดง เราจะยิ้มออกมายังไงมันอยู่ที่ข้างใน ถ้าร้องไห้ ข้างในเราร้องเดี๋ยวมันจะร้องเอง ไม่ต้องไปบังคับให้น้ำตาไหลก็ได้ ครูบิวเป็นคนเห็นศิลปะการแสดง ก็เลยรู้สึกว่าหลงรักการแสดงและเริ่มจริงจังมากขึ้น เริ่มทำการบ้านมากขึ้น”
อยากให้เล่าถึงบทของ ‘เอก’ ในเรื่องเปรมิกาป่าราบหน่อยค่ะ
“เอกเป็นมือกีต้าร์ เป็นหัวหน้าวงเดอะยูธ (The Youth) มีเบสหรือตุลย์เป็นนักร้องนำซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เราโตมากับเขาแล้วก็ทำวงด้วยกัน ซึ่งในวงก็จะมีเรื่องราวของวงดนตรี จะมีคนตั้งใจมาก มีคนสนุก มีตัวฮา ซึ่งเอกเป็นคนตั้งใจกับงานมาก ส่วนตุลย์เป็นคนรักเพื่อนมาก สนิทกัน อยู่ด้วยกัน จนวันหนึ่งมีจุดแตกหัก ทำให้วงไปต่อไม่ได้ คือมีกลิ่นความดราม่าอีกพาร์ท นอกจากความฮาของหนัง”
บทใกล้ตัวมาก มีความยากง่ายอย่างไรบ้างคะ
“ใกล้ตัวจนผมอินนะ (หัวเราะ) อย่างที่บอกมันเป็นสิ่งที่เราก็ทำอยู่แล้วด้วย ผมรู้สึกว่าบทเขารีเสิร์ซในพาร์ทดนตรีมาดี เราอ่านแล้วรู้สึกว่ามันจริงมาก ผมว่าทุกวงก็ต้องมีตำแหน่งแบบนี้อยู่ มีความรู้สึกมีเรื่องราวแบบนี้อยู่ในวงดนตรีแต่ละวงครับ”
ในส่วนของความสยองที่รู้ว่าต้องมาเล่นหนังผี
“ผมน่ะกลัวผีแล้วกลัวการดูหนังผีมาก (หัวเราะ) แต่ว่าพอต้องมาเล่นเอง ความกลัวแทบไม่มีเลย เพราะเรารู้ขั้นตอนการถ่ายทำ แล้วมีเพื่อนๆ พี่ๆ ในกองเยอะ แต่ละคนก็ฮาทั้งนั้น แต่คนเล่าให้ฟังนะครับ คือซีนที่ยกกองไปถ่ายในป่า จะมีโซนที่เป็นแสงสว่างอยู่แค่ตรงทีมงาน ขยับไปนิดนึงมันมืดแล้ว ทีนี้พอมีใครเดินออกไปเข้าห้องน้ำเขาก็จะเล่ากันว่า เห็นคนเดินอยู่ในป่าอะไรอย่างนี้ ซึ่งตรงนั้นมันไม่น่ามีใคร แต่คือคนเล่าก็เล่าเก่งไง เล่าซะเห็นภาพเลย มีซาวด์มีเสียง เล่าเหมือนเราดูหนังจริงเลย (หัวเราะ)”
แล้วพอเขาเล่าให้ฟังแล้วหลอนไหมคะ
“หลอนครับ คือทุกที่ที่ไปทำงาน ทั้งเรื่องนี้ทั้งเรื่องอื่น ทุกที่จะมีเรื่องแบบนี้หมด ซึ่งผมก็ไม่อยากจะลบหลู่ไง เขาเล่ามาก็ไม่ถึงขั้นไม่เชื่อ คิดว่าอาจจะมีก็ได้ ผมเชื่อว่ามี แต่ว่าเวลาที่ผมไปสถานที่ต่างๆ ผมก็จะพยายามพูดในใจว่าเราเชื่อนะว่ามีจริง แต่ว่าไม่ต้องมานะคร้าบ”
สำหรับภาพยนตร์เรื่องแรก คาดหวังไว้มากน้อยแค่ไหน
“ผมอยากให้คนเข้ามาดู สนุกกับหนัง สนุกกับภาพรวมทั้งหมด เพราะผมรู้สึกว่าตัวละครแต่ละตัว แต่ละกลุ่มมีปมของตัวเอง ผมเป็นคนชอบดูหนัง สิ่งที่คาดหวังของผมจบแล้วก็คือเราได้เป็นฝ่ายทำบ้าง เป็นฝ่ายผลิตบ้างในสิ่งที่เราชอบดูมาตลอด แค่นี้ผมรู้สึกว่าผมโอเคแล้ว ส่วนสิ่งที่คาดหวังให้ทุกคนก็คือให้ทุกคนสนุกกับหนัง สนุกกับเรื่อง สนุกกับการดำเนินเรื่อง”
เล่นหนังเรื่องแรกได้เรียนรู้อะไรจากพี่ตือผู้กำกับบ้างคะ
“พี่ตือจะมีจังหวะที่ทำให้เราได้ฝึกการแสดงให้มันกระชับเฉียบคบ จังหวะชัดเจน ซึ่งแบบว่าเราอาจจะไม่ค่อยได้ฝึกสายนี้เท่าไร ก็ดีครับ กลับบ้านไปก็มีความเฉียบคมขึ้นทันที (หัวเราะ) คนรอบตัวก็จะทักว่าทำไมมันคมขึ้นวะ เวลาตบมุกคุยกันอะไรอย่างนี้ ปกติผมจะเป็นคนไม่ค่อยเล่นกับใคร แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ก็ได้ทักษะนี้กลับไปใช้ในชีวิตจริง”
ทำไมเราต้องไปดูเปรมิกาป่าราบ
“เป็นหนังผีตลกที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งตัวผมที่เป็นนักแสดงเองก็ได้เจออะไรแปลกใหม่ในหนังเรื่องนี้ผมก็ ไม่ใช่หนังตลก แต่มันทั้งฮา ทั้งสนุก มีความรักระหว่างเพื่อน ที่สำคัญผมลุ้นมากที่จะได้ดูหนังเรื่องแรกของตัวเอง ยังไงขอฝากเรื่องเปรมิกาป่าราบด้วยนะครับ”
ติดตามผลงานของ ‘ซุง-กิดาการ’ ได้ทาง IG @zung_kidakarn
Interview: by Pookie Chatcha
Photography: Termsit Siriphanich
Makeup&Hair: Chin Chintasurasa & Gems Tanasontirach
No Comments