Special Interview – Junior Kajbhunditt

POSH Magazine Thailand พาคุณมาพูดคุย ทำความรู้จักกับนักแสดงหน้าใหม่จากช่อง 3 หล่อ เท่ ขนาดนี้ มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร มาทำความรู้จัก จูเนียร์-กาจบัณฑิต ใจดี กันเลย

Q: ก่อนหน้าจะเข้าวงการทำอะไรมาบ้าง ?

A: สวัสดีครับผมชื่อ จูเนียร์ กาจบัณฑิต นะครับ ก่อนเข้าวงการก็จะเรียนมาตลอดเลยครับ เรียนมหาวิทยาลัยปกติทั่วไป เรียนที่ธรรมศาสตร์ เรียนด้านสถิติคอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนนั้นผมไปงานบอล จุฬา-ธรรมศาสตร์ แล้วไปยืนอยู่หลัง ริว-วชิรวิชญ์ พอดี แล้วพี่แป๊ะ (ผจก.) เขาเห็นผมจากในรูป ก็เลยติดต่อมา เริ่มมาถ่ายแบบ ถ่าย MV ถ่ายโฆษณาบ้างนะครับ แล้วก็มาถ่ายละคร

Q: เคยมีความคิดในหัวบ้างไหมว่าอยากจะเข้าวงการบันเทิง?

A: เคยมีครับ แต่ก็มีความกล้าๆ กลัวๆ ด้วย

Q: หลังจากที่เข้าวงการมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

A: หลังจากที่เข้ามาก็มีความรู้สึกว่ายากครับ ตอนแรกจากที่ดูละครตอนเด็กๆ ก็คิดว่ามันคงไม่ยากหรอก คิดว่าจำบทอย่างเดียวหรือเปล่า แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย มันต้องแสดงอารมณ์อะไรอีกเยอะเลย มันไม่ใช่สิ่งที่ผมเรียนมาเลย มันต่างกันลิบลับ เลยรู้สึกว่ามันยากมากครับ

Q: ได้ไปเรียน Acting บ้างหรือเปล่า?

A: เรียนเยอะเลยครับ แล้วก็มีเวิร์กช็อปของละครแยกอีกทีด้วย

Q: จากที่ทำงานมาระหว่างถ่ายแบบและเล่นละครชอบทำอะไรมากกว่ากัน?

A: ผมว่าถ่ายละครสนุกกว่า มันยากครับ แต่เรารู้สึกว่ามันท้าทาย มันไม่ใช่ยืนถ่ายรูปเฉยๆ

Q: ละครเรื่องแรกที่ได้เล่นคือเรื่องอะไร?

A: ‘ยมทูตกับภูตสาว’ ครับเรื่องแรก

Q: รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างกับละครเรื่องแรก?

A: รู้สึกว่ามันยากมากเลยครับ ผู้กำกับเขาละเอียดด้วย ละเอียดมากกับการแสดงต่างๆ มันมี ร้องไห้เสียใจ ดีใจ เรื่องนี้มันครบมากเลยครับ มันไม่ใช่เรื่องแรกที่จะไปเล่นเฉยๆ แต่เรื่องนี้คือมีบทค่อนข้างเยอะ เป็นพระรอง ซึ่งมันยาก On Air ไปแล้วทางช่อง 3 ครับ

Q: เรื่องที่ถ่ายอยู่ตอนนี้คือ?

A: เรื่องที่ถ่ายอยู่ตอนนี้คือเรื่อง ‘18 มงกุฎสะดุดเลิฟ’ ครับ เล่นเป็นทนายความที่รักความยุติธรรม ช่วยเหลือสังคม ช่วยคนจน คนที่ไม่มีเงินพอจะมาสู้คดีอะไรแบบนี้ เป็นทนายอาสา มองโลกในความเป็นจริงที่ว่าคนนี้ไม่ได้เป็นคนดีหรือคนเลว ไม่ได้ตัดสินจากการขโมยของแล้วเขาจะเป็นคนเลว แล้วก็เป็นคนที่คิดว่าการที่เขาขโมยของแล้วไปช่วยเหลือคนอื่นแล้วเขาจะเป็นคนดี เขาคิดว่าเป็นคนธรรมดาแต่เขาสงสัยมากกว่าว่าทำไมคนคนนี้ถึงทำแบบนี้

Q: บททนายนี่เราต้องไปเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมมาบ้าง?

A: มาด การวางตัวเป็นทนายครับ ไม่ว่าจะเป็นการเดินของทนายที่มันมีความแตกต่างกับคนธรรมดา เหมือนในหัวเขาคิดอะไรตลอดเวลา มันมีมาดนั้นอยู่ ก็จะดูซีรีส์บ้างอย่าง Vincenzo อะไรแบบนี้ครับ

Q: ในอนาคตมีแผนการจะทำอย่างอื่นไหมนอกเหนือจากการแสดงในวงการ?

A: จริงๆ การแสดงนี่แทบจะเรียกว่าสุดแล้วครับ ผมก็ไม่ได้มีแผนการอะไรต่อ มีอะไรมาก็น้อมรับไว้ ตอนนี้ก็เรียนร้องเพลงอยู่ด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าจะร้องได้ดีเท่าไร (หัวเราะ)

Q: เคยร้องไหมแบบจริงจัง?

A: จริงจังไม่เคยเลยครับ มีแบบร้องคนเดียวบ้าง ร้องไปเรื่อย (หัวเราะ)

Q: มีศิลปินที่เป็น Idol ที่เราชื่นชอบไหม ไทยหรือเทศก็ได้?

A: ถ้าคนไทย ผมชอบพี่ชาคริต พี่อนันดา พวกเขาเท่มากครับ ถ้าต่างประเทศก็ Robert Downey Jr. ครับ

Q: จากที่เรียนการแสดงมาเรารู้สึกว่าศาสตร์การแสดงมันต้องเป็นอย่างไรบ้าง จากประสบการ์ณที่เราเจอมา?

A: จากประสบการณ์ ผมคิดว่าเราต้องเชื่อในบทที่เราได้รับ แล้วก็แสดงออกมาให้เป็นธรรมชาติที่สุด การแสดงมันดูเหมือนง่ายนะแต่มันไม่ใช่เลย มันยาก ผมว่ามันก็แค่นั้นนะครับ

Q: คิดว่าการแสดงของเราเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?

A: ก็มีติดขัดอยู่บ้างครับ โดยเฉพาะเวลาพูด บางทีเราก็ดูตั้งใจเกินไป พอตั้งใจเกินไปมันเลยเกร็ง มันเลยทำให้ไม่ไหลลื่นครับ

Q: มีงานอดิเรกอะไรไหม?

A: ก็ดูหนัง กีฬาก็เล่นฟุตบอลซะส่วนใหญ่กับเพื่อน จริงๆ มีอีกอย่างก็คือถ่ายรูปฟิลม์ แต่ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายมานานแล้วครับเพราะจะถ่ายแค่ตอนไปเที่ยว เวลาไปเที่ยว ผมอยากทำ Photo Essay มากเลย ผมลองทำไปนิดเดียว เรียกว่า Mini Photo Essay แล้วกัน ผมทำเรื่องช้างในอุดมคติของคนไทย ช้างในชีวิตจริงแล้วก็ช้างในแบบที่คนนำมาทำมาหากิน แต่ว่าผมไม่ได้เห็นภาพนั้นแล้วในสังคม มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้วผมต้องออกไปหาครับ

Q: เราป็นคนชอบเที่ยวไหม?

A: ชอบครับ แบบป่าเขา แนวธรรมชาติอะไรแบบนี้ แต่ไม่ได้ชอบเที่ยวแบบลำบากแบบเดินป่านะครับ ก็มีเพื่อนชวนไปเดินแบบ 4-5 วัน จากระนองไปไหนก็ไม่รู้ผมก็เลยไม่ไปนะครับ (หัวเราะ)

Q: ฝากช่องทางการติดตามและผลงาน

A: ก็ IG นะครับชื่อ @kajbhunditt แล้วก็ช่อง Youtube นะครับทำกับออกัสชื่อช่อง ‘เมื่อไหร่จะโต’ ผลงานละครที่เพิ่งจบไปคือ ‘ยมทูตกับภูตสาว’ ส่วนที่ถ่ายทำอยู่ตอนนี้คือเรื่อง ‘18 มงกุฎสะดุดเลิฟ’ ครับ