10 ช่วงเวลามีค่า ในจังหวะชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ “ตรี-ภรภัทร ศรีขจรเดชา”
ธีมเวลาถูกคิดขึ้นในขณะที่ดูละคร “เวลากามเทพ” ของพระเอกหนุ่ม “ตรี-ภรภัทร ศรีขจรเดชา” ที่เจ้าตัวเองก็บอกว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้ลับสกิลและ Shape ตัวเองเรื่องการแสดงอีกครั้ง แต่หลังละครจบ POSH MAGAZINE THAILAND ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวเขามานั่งทบทวนถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาในชีวิตของหนุ่มสูงชะลูดหน้าหยกคนนี้ ที่ทุกช่วงเวลาของเขาได้บทเรียนบางอย่าง จนอยากมาแชร์ต่อในฐานะคนทำงานและผู้ชายสุดเรียบง่ายคนหนึ่ง
เวลาภารกิจชีวิตนอกจอ
ตอนได้รับภารกิจยอมรับว่า หนักใจครับ เพราะการดูแลคน 1 คนมีปัจจัยหลายอย่างมากที่ต้องคำนึงให้เขามีความสุข ยิ่งตอนที่เจอตัวเขาคือ ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูก แต่เวลาที่ได้อยู่กับเขา ผมเข้าใจคำว่า “ให้” จริงๆ โดยไม่หวังอะไร ให้อย่างเต็มใจ มันเป็นอย่างไร มันมีความสุขมาก ซึ่งเอาจริงๆ ผมเป็นคนใส่ใจคนรอบข้างมากนะ ไม่ว่าจะเพื่อน คนในครอบครัว หรือญาติผู้ใหญ่ และรับฟังทุกคนด้วยว่า เขาชอบหรือไม่ชอบอะไร
เวลา 1 วันของตรี
(หัวเราะ) มีเวลาพักผ่อนแล้วครับ ช่วงก่อนหน้านี้คือ ทำงานหนักมากแทบไม่มีเวลาพักเลย หลังละคร “เวลากามเทพ” ปิดกล้อง ก็มีรายการ “ภารกิจชีวิตนอกจอ” ต่อเลย แต่ก็ใกล้จะปิดแล้วเช่นกัน ก็เลยทำให้มีเวลามากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็รออีกโปรเจกต์หนึ่งอยู่ ช่วงนี้เลยทำให้คิดบ่อยๆ ว่า เมื่อก่อนอาจไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเวลามากนัก แต่ตอนนี้ได้บทเรียนแล้วว่า เวลาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสำหรับคนบางคน 1 นาที ก็นานแล้วครับ ผมเลยเป็นคนตรงต่อเวลา และน้อยครั้งมากที่ผมจะไปสาย
เวลาเด็กชายตรีผู้ไม่มีความฝัน
ข้อดีคือ ไม่ต้องกดดันหรือแบกรับอะไรมาก แต่ข้อเสียก็ตามมาโดยทันทีคือ เมื่อโตขึ้นและมองย้อนกลับไป อาจมานั่งนึกเสียดายก็ได้ว่า ทำไมตอนนั้นไม่ทำแบบนั้น ซึ่งเป็นข้อเสียใหญ่เหมือนกัน เพราะถ้ามีเป้าหมายชัดเจนตั้งแต่เด็ก เราอาจลงมือฝึกฝนให้ชำนาญ จนกลายเป็นความสามารถพิเศษ และพัฒนาสิ่งนั้นให้เก่งขึ้นไปอีก ผมเลยพูดได้ว่า นั่นคือข้อเสีย เพราะผมเคยอยู่ในจุดนั้นมาก่อน คือไม่รู้ว่าอยากจะทำอะไร ตัวเองโดดเด่นทางด้านไหนหรือเก่งอะไร ซึ่งก็แอบเคว้งนิดๆ เหมือนกัน
เวลาในอดีต
ถ้าให้เลือกเก็บโมเมนต์ในอดีตได้เพียงโมเมนต์เดียว คงเป็นโมเมนต์ตอนอยู่กับยาย เพราะช่วงก่อนที่ยายผมจะเสีย ผมทำงานหนักจนไม่ค่อยได้เจอและคุยกันเลย เพราะยายนอนเร็ว พอถึงบ้าน เขาก็หลับแล้ว และมีอยู่วันหนึ่ง คุณยายก็ล้มลงและเสียไปเลยแบบกะทันหัน ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คงอยากกลับไปนั่งคุย กินข้าว พาไปวัด และใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้เยอะกว่านี้ เพราะเราไม่รู้เลยว่า วันไหนคนที่เรารัก เขาจะจากไปเมื่อไหร่ ซึ่งนี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ
เวลาของนักแสดงหน้าใหม่
เป็นเวลาที่ทำให้รู้ว่า เรายังไม่พร้อมจริงๆ ทั้งใหม่ ตื่นเต้น กลัว และเกร็ง แต่ก็เริ่มๆ เข้าใจจังหวะ การทำงาน และวิธีการเล่นละครมากขึ้น แต่อาจยังไม่เข้าใจลึกไปถึงรายละเอียดต่างๆ ของตัวละครเท่าไหร่ อาจยังใช้ตัวเอง ณ โมเมนต์ตอนอายุ 21 ปีแสดงออกมาอยู่ แต่ไม่ได้เข้าใจประสบการณ์และปูมหลังของตัวละครที่ทำออกมาจริงๆ จำได้เลยว่า เคยยิ้ม เพราะผู้กำกับสั่งให้ยิ้ม แต่ไม่ได้เข้าใจตัวละครจริงๆ ว่า ทำไมถึงต้องยิ้ม แต่หลังจากเริ่มเข้าใจการแสดงมากขึ้น ความเกร็งก็ค่อยๆ ผ่อนคลายจากการไปทำงานทีละวันๆ และเริ่มที่จะลงลึกไปกับตัวละครที่เล่นมากขึ้น
เวลาเข้าใจศาสตร์การแสดง
“สายรักสายสวาท” ช่วงใกล้จบเลยครับ ตอนนั้นเริ่มเข้าใจแก่นของมันมากขึ้นแล้ว แต่พอมา “ภาตุฆาต” ผมแอบปล่อยตัวปล่อยใจประมาณหนึ่ง (หัวเราะ) คือเริ่มสนุกและอินกับสิ่งที่แสดงมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเท่ากับตอนนี้ที่มีชั่วโมงบินสูงขึ้น ดังนั้น ถ้าจะให้บอกว่า รู้สึกสนุกและเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองทำจริงๆ “เวลากามเทพ” คือเรื่องนั้นครับ เพราะมีการเวิร์คช็อปเข้มข้นมาก แทบจะเป็นเรื่องแรกของผมด้วยซ้ำที่เวิร์คช็อปจริงจังขนาดนี้ ทั้งทางโปรแกรม Zoom และเจอกันจริงๆ เลยทำให้ผมเชื่อในตัวละคร “ธาม” ประมาณหนึ่งเลย
เวลาของตัวละคร “ธาม”
ถ้าถามว่า “ธาม” ใน “เวลากามเทพ” ตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหมที่เลือกชีวิตแบบนี้ ผมว่าด้วยเวลาและเงื่อนไขที่มี ก็คงถูกแล้ว แต่ถ้าเป็นชีวิตจริง ถ้าผมเป็นธาม เขาไม่ได้เลือกเรา ก็ช่างเขาเถอะ ไปอยู่กับคนอื่นหรือบินไปต่างประเทศก็ได้ หรือไม่ก็บอกพี่เราไปตรงๆ ว่า คนนี้เราเคยจีบแล้ว ซึ่งผมคงไม่ทรมานตัวเองและครอบครัวแบบธาม เพราะมันยังมีอีกตั้งหลายวิธีในการจัดการปัญหา ไม่ว่าจะมรดกหรือเรื่องความรัก แต่ถ้ามันจัดการได้ง่ายขนาดนั้น ก็คงไม่มีละครและไม่มีธามออกมา (ยิ้ม) ผมเลยมองว่า คนละเงื่อนไขชีวิตกัน ชีวิตของธามตอนนั้น เขาเองก็คงคิดว่า นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับทุกฝ่าย
เวลาอยู่กับแฟนคลับ
เอาจริงไหมครับ ผมยังเขินๆ อายๆ อยู่เลย (หัวเราะ) แต่โชคดีที่แฟนคลับของผมเฮฮา น่ารัก ความอายและเขินของผมก็ลดลงบ้าง แต่ทุกครั้งที่เจอ ไม่ว่าจะขอถ่ายรูปหรือถ่ายคลิป ก็ยังเขินอยู่ แต่อย่างที่ผมบอกไป ผมใส่ใจทุกคนรอบข้างมาก เราจะรอเจอทุกคนให้หมด ถ้าเขามาหา เรามีเวลามากพอ และไม่ได้ไปทำงานอื่นต่อ ผมจะรอเจอพวกเขาเสมอ เพราะเขาสละเวลามาหาเราแล้ว แม้เวลาจะแค่ไม่กี่นาทีที่ได้เจอกัน ผมถือว่ามีค่ามากนะสำหรับแฟนที่ติดตามเรา
เวลากามเทพ
หัวข้อมานึกว่า จะถามเรื่องละครผม ถามเรื่องความรักเหรอครับ (หัวเราะ) ถ้าได้ตกหลุมรักใครสักคนจริงๆ ผมไม่นิ่งหรอก อ้อนได้อ้อน มีอะไรก็ให้หมด เพราะผมมองว่า ตัวเองเป็นคนคลั่งรัก ถ้าอยู่ในภวังค์ของความรัก หรือถ้าผู้หญิงคนนี้ที่เราชอบมานาน จนในที่สุดก็ได้เป็นแฟนกัน ถ้าไปถึงจุดนั้นคือ คลั่งรักแน่นอนครับ ห่วงใยและดูแลเต็มที่ มีร้อยให้ล้าน คือให้ทุกอย่าง อยากทำอะไรทำ เต็มที่ ถวายหัวเลย ผมน่าจะเป็นผู้ชายแบบนั้นเวลามีความรัก
เวลาในอนาคต
ถ้าให้มองตรีในอีก 10 ปีข้างหน้า จะบอกตัวเองว่า อย่าไปเครียดเยอะ ทุกอย่างต้องมีความพอดี อะไรที่เครียดหนักไป ก็ไม่ดี อะไรเครียดน้อยไป ก็ไม่ท้าทาย เราควรหาความพอดีให้ชีวิตตัวเอง อะไรที่คาดหวังเยอะ เวลาผิดหวัง มันก็เสียใจ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่คาดหวังอะไรเลย เพราะความคาดหวังทำให้ชีวิตมีเป้าหมายและเพิ่มคุณค่าในตัวเอง เช่น เดือนนี้จะทำอะไรให้สำเร็จ ปีนี้เราต้องได้อะไรบ้าง ซึ่งถ้าบอกว่า 10 ปีข้างหน้า ผมจะเป็นอย่างไร ก็จะบอกว่า “มึงเก่งเนอะ มาถึง 10 ปีนี้ได้ละ” (หัวเราะ)
บททดสอบชีวิตของ “ตรี-ภรภัทร” ยังคงดำเนินตามเวลาต่อไป
POSH เป็นกำลังใจให้ตรีในทุกช่วงเวลา และจะติดตามผลงานของตรีไปเรื่อยๆ นะ
10 Invaluable Life’s Moments of a Man Named “Tre-Porapat Srikajorndecha”
Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz
Translators: Apichaya Khamlert & Natthawut Chaiya
The theme of moments was developed while watching “The Love Proposal” starring “Tre-Porapat Srikajorndecha”, a young and gorgeous actor who said it was a great time to sharpen his acting skills again. After the drama ended, POSH MAGAZINE was eager to discuss every moment of his life which gave him lessons. So, these are lessons he wants to share as an ordinary working man and merely a simple guy.
Moment of “Mission Unscripted”
I have to admit that once I undertook my “mission”, it worried me because I needed to consider many things to make someone happy, especially seeing her in person made me nervous. But after spending time together, I came to realize the true meaning of “to give” without expecting anything in return and to know that it’s such a joy. To be honest, I deeply care for my people, whether they’re my friends, family, or relatives, and also always listen to what they like or dislike.
Moment in a day with Tre
(Laughs) Now I do have time to take some breaks. Earlier I worked so hard that I barely had time to relax since I needed to shoot “Mission Unscripted” right away after “The Love Proposal” ended, but it almost ends as well. Anyway, I have more time now, though another project is coming. In the past, I might not think about time that much, but lately I kinda think about it. I’ve learned that time is precious as one minute for some people is long enough. So, I’m now more punctual and rarely late.
Moment of a Carefree Boy
The upside of having no specific goals as a kid is no pressure and no burdens, but every coin has two sides. The downside is the regret of “I should’ve done that” when I grew up and looked back. It was such a big deal because if I’d set my goals back then, I might’ve sharpened my skills until they turned into talents which I could improve even more. I can say with confidence that it was such a mistake for me because the fact that I didn’t know my desires, talents, or skills somehow made me feel lost.
Moment in the Past
If I had to keep only one moment in my life, it’d be the time when I was with my grandmother. Before she passed away, I worked so hard and barely met her because she slept so early that she was already asleep when I arrived. One day, she collapsed on the floor and suddenly I just lost her forever. So, I feel likeif I was able to turn back time, I would talk with her, have dinner with her, take her to temples, and spend more time together. We never know when our beloved ones will disappear forever – this is the lesson learned from my experience.
Moment of a Newcomer
When I was a newcomer, I realized I was not skilled enough because acting was new for me, so I got nervous and tense. Later on, I started getting used to the cues, working process, and how to act, but I still didn’t understand the characters’ experiences and backgrounds in depth. So, at the time I might have acted as the 21-year-old me instead of the characters. I remember when I smiled just to follow the director’s direction, but I did not really know the reason why the character smiled. Then, after I gained a better understanding of acting from shooting each day, I’ve become more relaxed and given more depth to the characters I play.
Moment When Mastering the Art of Acting
When “Sai Rak Sai Sawat” almost ended, I came to understand the core of acting. However, when I starred in “Blood Brothers”, I kind of relaxed and went with the flow (Laughs). Although I started to enjoy and understand the characters in greater depth, I was not as skilled as I am now. So, “The Love Proposal ” gave me the moment I enjoyed and believed in my performance because it was probably the first time that I have had such intense acting workshops that much, both through Zoom and face-to-face sessions. That is why I am confident in “Time”.
Moment of “Time”
If you ask me whether “Time” from “The Love Proposal” made the right decision, I think, based on his time and situation, it was. However, if I was Time in real life and she did not choose me, I’d just move on. Perhaps, instead of torturing myself and hurting my family, I’ll go living with someone else, move to a new country, or even tell my brother directly that I’d liked her before. There are many other approaches to his inheritance and love-life problems. By the way, if life was that easy, Time wouldn’t be born (Smiles). So, I think Time and I have different situations that he might think his decision at the time was the best for everyone.
Moment with Fans
To be honest, I’m still sort of shy (Laughs), but luckily my fans are amusing and adorable. So, I feel more at ease, however, I’m still shy every time they ask me to be in pictures or videos. As I always say, I truly care for the people around me. If my fans come to meet me and I have enough time with no other plans, I’ll always wait to see them because they already took their valuable time to meet me. Even if it’s only for a single minute, it counts as precious time for my fans.
Moment of “The Love Proposal”
At first, I thought the topic was about my TV drama, but it’s about my love life instead (Laughs). Speaking of which, if I fall in love with someone, I’ll show my passion by cuddling and treating her like royalty. I describe myself as a passionate lover. If one day I’m madly in love or finally have a relationship with my long-time crush, I’ll be head over heels for sure, then I’ll take great care of her and give it my all for her. I may be that kind of man when being in love.
Moment in the Future
If I had a chance to tell myself something in the next 10 years, I’d say everything needs to have its balance. What causes too much stress is unhealthy while what causes no stress is not challenging. So, you should find balance within yourself. The more you expect things, the more you’ll be disappointed. However, it doesn’t mean you should not have expectations at all because they create meaning in your life and enhance value in yourself. You might ask yourself, for example, what should you achieve this month? Should you get new things this year? Anyway, if I could say something to myself in the next 10 years, it’d be “Dude, you’re awesome at making it through these 10 years.” (Laughs).
Life lessons of “Tre-Porapat” are still ongoing.
POSH will be by his side in every moment and look forward to his future accomplishments.
