COVER INTERVIEW – OHM X NONT

POSH พาคุณมาทำความรู้จัก นนท์ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ และ โอมภวัต จิตต์สว่างดี จาก ภาพยนตร์เรื่องดิว ไปด้วยกันนะ” ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ซึ่งเข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

OK4

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ได้สร้างชื่อให้สองนักแสดงวัยรุ่นคู่จิ้น มาริโอ้ เมาเร่อ และ วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล ใน “รักแห่งสยาม” มาปีนี้เขาได้สร้างสองนักแสดงวัยรุ่นคู่ใหม่ นนท์-ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ และ โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี ในบท ภพ (วัยเด็ก) และ ดิว 

OK7

ภพ เป็นเด็กชายผู้แข็งกร้าว มีโลกส่วนตัวสูง ในขณะที่ ดิว คือเด็กใหม่ที่ยังหาที่ทางของตัวเองในปางน้อยไม่ได้ ทั้งคู่ดูเป็นเคมีที่ไม่อาจเข้ากันได้เลย ทว่ากลับกลายเป็นส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน จนพัฒนาความรู้สึกเกินไปมากกว่าคำว่าเพื่อน ท่ามกลางสภาพสังคมที่ยังไม่อาจยอมรับความรักในเพศเดียวกันได้นัก

นนท์ประเดิมการแสดงครั้งแรกในหนังเรื่องนี้ ซึ่งตัวละครภพดันมีความคล้ายคลึงกับตัวตนของนนท์อยู่ไม่น้อย จึงไม่ได้เรียกร้องการทำความเข้าใจในตัวละครสูงนัก เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับนักแสดงหน้าใหม่อย่างเขา “ภพเป็นลูกคนจีน พ่อเป็นทหาร ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร บอยๆ เล่นบาส มีโลกส่วนตัวสูง ซึ่งผมได้ฝึกการแสดงมาก่อนหน้านี้นิดเดียวเอง”

OK1

ประเดิมหนังเรื่องแรก นนท์ก็เจองานหินคือตัวละครจะต้องพูดสองภาษาคือไทยและจีน แต่พื้นฐานนนท์มีเชื้อสายจีนอยู่แล้ว จึงพอมีทักษะภาษาจีนอยู่บ้าง “ผมได้ไดอะล็อกภาษาจีนก่อนออกกองนิดเดียวเอง แล้วเราก็ไปฝึกตอนเข้าฉาก แต่จะมีครูที่เก่งภาษาจีนอยู่ในกองด้วยมันเลยไม่ยากเท่าไหร่เพราะเรามีพื้นฐานอยู่บ้าง”

บทภพในวัยเด็กกับนนท์มีจุดร่วมกันอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคนจีน และบุคลิกส่วนตัว “ผมว่าภพค่อนข้างเหมือนผมมาก ต่างกันตรงที่ครอบครัวผมไม่ได้เข้มงวดเท่าบ้านของภพ ส่วนอื่นๆ อย่าง personality มีความคล้ายคลึงกันอยู่ เลยไม่ได้ใช้เวลาปรับตัวมาก กับอีกอย่างคือเรื่องภูมิลำเนา ภพเป็นเด็กที่โตในสังคมจีนยูนนานทางภาคเหนือ แต่ผมมีเชื้อจีนกับคนใต้ สิ่งนี้มากกว่าที่ทำให้ผมต้องปรับตัวเยอะสุด”

ส่วนสำคัญที่เรียกร้องการทำความเข้าใจในตัวภพมากขึ้น สำหรับนนท์คือความรักในแบบที่เขาเองไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมมาก่อน นั่นคือความรักแบบชายรักชาย “ตอนแรกเขาส่งเรื่องย่อมาให้ว่าภพเป็นใคร เป็นคนยังไง และจะสร้างความสัมพันธ์กับดิวมากขึ้น ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันเพราะไม่เคยคิดว่าจะรับเล่นบทชายรักชายมาก่อน แต่พอบทนี้มาอยู่ในมือก็คิดว่ามันเป็นความท้าทายแบบหนึ่ง เป็นตัวละครหนึ่งที่เราต้องพยายามทำความเข้าใจมากขึ้น”

OK3

ใน “ดิว ไปด้วยกันนะ” นนท์จะต้องเข้าฉากร่วมกับ โอม ผู้รับบทเป็นดิวมากที่สุด และนอกเหนือไปกว่านั้นคือเขาต้องมีความรู้สึกสุดพิเศษต่อกัน นนท์เล่าว่าในความเป็นจริงทั้งนนท์และโอมต่างมีบุคลิกส่วนตัวไปคนละทางโดยสิ้นเชิง เพราะในขณะที่โอมเป็นคนร่าเริงและเข้ากับคนง่าย นนท์กลับเป็นคนที่อยู่ในโลกส่วนตัวมากกว่า ทว่านั่นกลับเป็นประโยชน์กับหนังเพราะมนตร์เสน่ห์ระหว่างตัวละครภพกับดิวคือการสร้างสัมพันธ์อันดีแม้จะมีตัวตนที่ต่างกันก็ตาม “ผมว่านี่คือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้นะ นั่นคือการเปิดกว้างเรื่องความสัมพันธ์ที่หลากหลายมากขึ้น แม้เรื่องราวในส่วนของผมจะเล่าเหตุการณ์ในอดีตแต่มันก็สะท้อนปัจจุบันมากเลย ในเรื่องภพเขาก็ประสบปัญหามามากมายถึงขั้นยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อกลับมาเริ่มต้นใหม่ มันน่าจะทำให้คนที่ได้ดูได้หยุดคิดสักนิดนึงก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรไป”

OK6

สิ่งสำคัญจากการเล่นหนังเรื่องแรกของนนท์ คือการได้คู่หูรุ่นพี่คนใหม่ในวงการ นั่นคือ เวียร์-ศุกลวัฒน์ ผู้รับบทภพตอนโต ที่แม้ทั้งคู่จะไม่ได้เข้าฉากร่วมกันเลยก็ตาม แต่การได้ทำการบ้านกับตัวละครภพร่วมกัน ทำให้ทั้งคู่พบว่าต่างคนก็มีอะไรที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อย “หนักๆ เลยคือเราต้องจินตนาการว่าภพเป็นคนยังไง เราต้องสร้างตัวเขาขึ้นมาตั้งแต่เล็บเท้ายันเส้นผม จินตนาการว่าคนเชียงใหม่เมื่อก่อนใช้ชีวิตยังไง มีการทำการบ้านกับพี่เวียร์ แล้วก็ตีความตรงกัน ผมกับพี่เวียร์ก็เข้าขากัน เขายังบอกเลยว่าผมเหมือนพี่ชายของเขาที่เสียไปเมื่อ 18 ปีก่อน และตอนนี้ผมก็อายุ 18 พอดีด้วย ยังคุยกันอยู่เลยว่าผมทำให้พี่เวียร์คิดถึงพี่ชายของเขา”

ในขณะที่นนท์เริ่มต้นการแสดงครั้งแรกจากหนังเรื่องนี้ คู่หูของเขาอย่าง โอม-ภวัต ไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่แต่อย่างใด เขามีผลงานเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘Make It Right the Series รักออกเดิน’ และ ‘เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ’ ซึ่งหนัง ‘ดิว ไปด้วยกันนะ’ คือการเปิดตัวในวงการหนังไทยเป็นครั้งแรก และยังเป็นบทสำคัญที่เสมือนศูนย์กลางของจักรวาลในหนังเรื่องนี้

OK2

โอมอธิบายตัวละครของเขาว่า “ดิวเป็นเด็กที่อยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ย้ายที่ทำงานบ่อย เราก็ต้องย้ายตามไปเรื่อยๆ เปลี่ยนสังคมรอบข้างไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่ปางน้อย ก็คือการที่เราย้ายจากสังคมเมืองมากๆ ไปอยู่ในเมืองเล็กๆ เลยมีปัญหากับการปรับตัวอยู่พอสมควร เป็นคนที่ไม่รู้ว่าความรักคืออะไร แต่พอรู้สึกดีกับใครก็จะอยากอยู่ตรงนั้นกับคนนั้น”

ในเรื่องนี่ ดิวรู้สึกดีที่ได้อยู่กับภพ ดังนั้นสิ่งที่ต้องโอมต้องทำการบ้านอย่างหนักคือการทำความเข้าใจภพให้มาก รวมไปถึงนนท์ผู้รับบทนั้นด้วย “โอมเป็นคนที่เปิดกับทุกคนอยู่แล้ว พอรู้ว่าต้องเล่นด้วยกันก็ต้องไปเรียนรู้ว่าเขามีไลฟ์สไตล์ยังไง ชอบหรือไม่ชอบอะไร นอนกี่โมงตื่นกี่โมง ปรับตัวเรื่องการใช้ชีวิตกับเขาเป็นเดือนๆ อยู่ด้วยกันมาตลอดจนส่งผลให้การทำงานง่ายขึ้น”

OK5

การที่นอกจอสนิทกันแล้วต้องมารับบทที่แน่นแฟ้นไปกว่านั้น นี่คือเรื่องที่โอมจะต้องบริหารความรู้สึกตัวเอง “การอยู่ด้วยกันมันก็เหมือนเพื่อนอยู่ด้วยกัน พอทำงานก็เหมือนเราเป็นตัวละคร เหมือนเราคือดิว ถ้าเรารู้สึกดีต่อกันก็จะรู้สึกดีกับภพด้วย แต่นอกฉากก็เป็นเพื่อนกันปกติ เรื่องนี้ยังได้เข้าฉากกับพี่อุ๋ม (อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน) ซึ่งพี่อุ๋มน่ารักมาก เจอกันครั้งแรกพี่อุ๋มอ้าแขนกอดผมเลย รู้สึกอบอุ่นมาก จูนติดตั้งแต่โมเมนต์นั้นเลยว่าเราคือแม่ลูกกัน”

“สิ่งที่คนดูจะได้รับจากหนังเรื่องนี้คือ ความรู้สึกของคนคนหนึ่งไม่ได้มีด้านเดียว แต่ละคนมีจุดดีจุดด้อยเป็นของตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะบริหารมันยังไงเพื่อที่จะอยู่ในสังคมต่อไปครับ”


Photographed by Pichayakullkarn Sermsuk

Makeup by Suphanut Tichana

Hair by Gartoon Thanakorn

Clothes PAINKILLER Atelier

1FL. Siam Center
2FL. Qurator Men, Emquartier
1FL. Another Man Story, Emquartier
4FL. ZEN Megastore, Central World

Creative Director Termsit Siriphanich
Editor in Chief Austin Thein
Special thanks to CJ MAJOR Entertainment