Cover Interview – Nut – Supanut Lourhaphanich

POSH Magazine Thailand ได้มีโอกาสแวะมานั่งคุยชิลๆ กับ นักแสดงจากซีรีส์ที่โด่งดังเมื่อปลายปีที่แล้ว ‘Oxygen The Series ดั่งลมหายใจ’ นัท – ศุภณัฐ เลาหะพานิช

แนะนำตัวก่อนเข้าวงการ

ชื่อ นัท ศุภณัฐ เลาหะพานิช ครับ อายุปีนี้ก็ 28 นะครับ ก่อนเข้าวงการเป็นนักแคสเกมส์ครับ แล้วก็แข่งเกมส์ E-Sports เกมส์ Ragnarök ออนไลน์นะครับมีโอกาสได้เล่นละครจริงๆ เป็นของช่อง 3 ครับ เรื่อง ‘เด็ดปีกนางฟ้า’ แล้วมาได้เล่นซีรีส์วายแบบเต็มตัวคือเรื่อง Oxygen The Series เป็นซีรีส์วายทางช่อง One ครับ

เล่นซีรีส์วายครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้าง

ตอนเล่นซีรีส์ครั้งแรกไม่ได้รู้สึกว่าแปลกอะไรนะครับ มีความรู้สึกว่ามันก็เหมือนการเล่นละครทั่วไปนะครับ เพราะก่อนที่จะเล่นก็จะมี workshop จะมีเรื่องของการตีความ เขาจะบอกว่าจริงๆ ความรักของคนเรามันระบุไม่ได้ว่าเราจะรักเพศๆ ไหน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันคือเรื่องของความรักให้มองข้ามเรื่องเพศไปนะครับ

นัทเองมีเทคนิคอะไรบ้างที่ใช้ในการพัฒนาการแสดงของเรา

ตัวนัทเองไม่ได้มีเทคนิคอะไรขนาดนั้นครับ แต่ว่าเรื่องของการแสดงเราจะ Workshop ค่อนข้างเยอะ อ่านบท ทำการบ้าน สำหรับในเรื่อง Oxygen โชคดีก็คือ character ของเรามันค่อนข้างใกล้กับตัวละครเพราะทางนักเขียนเขาขอมาเอง มันเลยค่อนข้างไม่ได้ยากมากนะครับ

ผลงานหลังจากนี้มีอะไรบ้าง

ผลงานหลังจากนี้มีถ่ายอยู่ครับเรื่อง ‘คู่เวร’ ทางช่อง 3 เรื่องนี้ต้องปรับค่อนข้างเยอะในเรื่องของตัวละคร เพราะมันค่อนข้างแตกต่างจากบทของ โซโล่ ในเรื่อง Oxygen แต่มันก็จะมีความใกล้เคียงกับตัวเราในแง่ที่เกี่ยวกับ IT ใช้คอมเล่มเกมส์อะไรอยู่แล้วนะครับซึ่งมันก็พอไปปรับใช้ให้ใกล้กันได้

ตัวเราเป็นคนชอบการแสดงไหม

ชอบการแสดงไหมเหรอครับ? ตอนแรกคือไม่ชอบเลย เพราะเราเป็นเด็กขี้อาย สมมุติถ้าเจอคนแปลกหน้าก็จะไม่กล้าคุย ไม่กล้าพูดด้วยอะไรแบบนี้ครับ คือเราเก็บตัวอยู่คนดียว จำได้ว่าตอนที่เล่นละครเรื่องแรกกับพี่ไก่ วรายุฑ พี่ไก่ก็สอนตลอดในทั้งเรื่อง acting และอื่นๆ เราก็ไป Workshop ไปเรียนเองด้วย แล้วก็มีไปเรียนร้องเพลง เราเลยเข้าสังคมมากขึ้น ไปเจอผู้คนมากขึ้น ก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่า การแสดงช่วยให้เรามีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ทำให้เราเป็นคนกล้าแสดงออกมากขึ้น เราก็เลยรับตรงนี้มาเรื่อย ๆ ครับ

ตอนนั้นคิดว่ามันยากไหมสำหรับการแสดง

ยากมากเลยครับ แค่จะคุยกับใครก็รู้สึกว่ายากแล้ว ไม่ใช่แค่การแสดงนะครับ

สำหรับเรื่องของการร้องเพลง เป็นไงมาไงถึงได้มาร้องเพลง?

ต้องบอกว่าการร้องเพลงเป็น flight บังคับมากๆ ของซีรีส์ เขาอยากให้ตัวพระเอกร้องเพลงด้วย แล้วนัทเรียนร้องเพลงอยู่แล้วด้วยครับ

เหมือนเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก

ไม่ครับ แต่คือพอเราเข้าวงการ เราเลยอยากทำให้ได้ทุกอย่างเลย ก็เรียนมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้จริงจังถึงขนาดว่าจะต้องเก่ง ต้องร้องเพลงเพราะ ถึงขั้นมีเพลงเป็นของตัวเองได้ แต่พอมาตอนนี้มันเป็น flight บังคับมากๆ และเพลงค่อนข้างร้องยากมากๆ ทำการบ้านหนักเหมือนกัน พอมันออกมาเรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วมันสนุกดีไม่ว่าการร้องเพลงหรือการถ่าย MV มันสนุกมาก เราเลยเริ่มชอบนะครับ

ระหว่างการแสดงและการร้องเพลงชอบอันไหนมากกว่ากัน

มันคนละฟีลกันนะครับ อย่างในการร้องเพลงเหมือนเราได้ปลดปล่อยตัวเองออกไป แต่ในการแสดงเราได้ไปเป็นคนอื่นที่แบบเราอาจจะไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้ แต่ว่าเราสามารถเป็นได้ในโลกของการแสดง ละคร คือชอบทั้ง 2 อย่าง อยู่ที่ฟีลเลยครับ

พูดถึงเพลงที่ทำออกมา

ชื่อเพลง ‘เช้านี้ (be my girl)’ ครับเป็นอารมณ์แบบว่า ตื่นมาตอนเช้าแล้วคิดถึงใครสักคนอะไรแบบนี้ ไปเจอเขามาแล้ว จะเพ้อๆ คลั่งรักหน่อยแบบนี้ จริงๆ เพลงมันเริ่มจากตอนที่จบเพลง Oxygen ไปแล้ว นัทเลยอยากที่จะทำอีกสักเพลงเป็น single ของเราเอง เลยเริ่มหาและโชคดีที่ไปเจอกับพี่ปอซึ่งเป็นสามีของเพื่อนสนิทนัทคนหนึ่ง แล้วพี่ปอก็กำลังทำเพลงกับพี่เป้วง MILD อยู่พอดีเลยได้เริ่มมาทำโปรเจกต์นี้ด้วยกันครับ

ยากไหมกับเพลงที่เป็นของตัวเองครั้งแรก

กับเพลงนี้ยากเหมือนกันครับ เพราะมันมี Rap เบาๆ จริงๆ เป็นคนชอบ Rap แต่เราไม่เคยร้องแนวนี้มาก่อนเลย แต่พี่เป้เขาจะแนะนำว่าตอนอัดเราควรใช้เสียงประมาณนี้ อารมณ์ประมาณนี้ เขาก็แนะนำครับ

พี่เป้เขาชอบมี Rap อะไรประมาณนี้ใช่ไหม

ใช่ครับ พี่เขาเป็นสาย Rap อยู่แล้ว คือ Rap เก่งมากครับ

ฝากถึงแฟนๆ หน่อย

เมื่อปลายปีที่แล้วเพิ่งจะจัด Mini Fan Meet ไป แฟนคลับเป็นคนจัดให้ครับ แฟนคลับน่ารักมากๆ เลย รวมถึงล่าสุดที่กำลังจะปล่อยเพลง ก็คอยซัพพอร์ตนัทแบบเต็มที่มากๆ แบบมีเอาขึ้นจอ LED ตรง Terminal 21 จัดแบบยิ่งใหญ่มาก ขอบคุณมากๆ ที่ยังคอยซัพพอร์ตในแบบที่ไม่ใช่แค่พาร์ทของซีรีส์ เค้ายังตามซัพพอร์ตเราในพาร์ทต่อไปในงานที่เราทำต่อไปเรื่อยๆ ต้องขอบคุณมากๆ เลยครับ

มีแฟนคลับต่างประเทศบ้างไหม

หลังๆ แฟนคลับต่างประเทศค่อนข้างเยอะเหมือนกันครับ มีทั้ง ญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ เยอะมากๆ ครับ

ฝากถึงแฟนคลับจีน

ฝากบอกเป็นภาษาไทยได้นะครับ (หัวเราะ) อยากขอบคุณแฟนๆ ชาวจีนทุกๆ คนที่คอยติดตามและคอยซัพพอร์ตนัทนะครับ ถึงบางทีเราก็เห็นว่าเขาพยายามจะสื่อสารกับเราแต่เราอ่านภาษาจีนไม่ออก

เรามี Weibo ไหม

มีครับ แต่ไม่ได้ค่อยได้สื่อสาร บางทีข้อความที่ไม่ได้ยาวเกินไป เราจะรบกวนคนที่เขาพอได้บ้างช่วยแปลครับ แต่เขาน่ารักตรงที่ว่าบางคนเขารู้อยู่แล้วว่าเราอ่านไม่ออก เขาโพสต์ เขาแชร์ไป ทำให้เรารับรู่ว่าเขายังอยู่ตรงนี้คอยซัพพอร์ตเรา น่ารักมากๆ ขอบคุณมากๆ ครับ