Cover Interview – MEAN Phiravich

หลายคนกำลังอินกับซีรีส์วายเรื่องดัง ‘บังเอิญรัก Season 2 – A Chance to Love’ วันนี้ POSH พาตัวเอกของเรื่อง ติณณ์ รับบทโดย มีน – พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร มาโพสท่าเก๋ๆ ถ่ายแฟชั่น พร้อมมานั่งคุยเรื่องราวชีวิตของเขากัน

1

เป็นไงมาไงมีนถึงได้มาทำอาชีพนักแสดงอย่างปัจจุบัน

มีนเข้าวงการประมาณช่วงม.5 ก่อนหน้านั้นก็เป็นเด็กกิจกรรม ชอบเล่นกีฬา เป็นประธานนักเรียน เป็นคนไม่ชอบอยู่ว่าง อยากหาอะไรทำตลอด เหมือนช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังตัดสินใจว่าอยากจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยไหน คณะอะไร หนึ่งในคณะที่สนใจคือคณะที่เกี่ยวกับงานเบื้องหลัง จึงเลือก คณะวารสารศาสตร์ เกี่ยวกับงานสื่อสารมวลชน ประกอบกับมีพี่ที่รู้จักกัน ชวนเข้าวงการ ชวนมาแคสติ้ง ช่วงนั้นเราว่างด้วย เราก็เลยลองดูครับ อยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร พอมันมีโอกาสครั้งหนึ่ง จึงทำให้มีโอกาสครั้งต่อๆ มา เราก็สนุกกับมัน โชคดีที่เราได้รับโอกาสมาเรื่อยๆ ค่อยๆ เก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ออกไปไม่ได้แล้ว

3

งานชิ้นแรก

ซีรีส์เรื่อง ‘Love Sick – Season 2’ ครับ ตอนนั้นไปแคสต์บทที่ไม่ใช่บทหลัก หลังจากนั้นก็ทำให้ได้มีโอกาสเจอกับพี่ๆ ในวงการหลายคนที่เอ็นดู เห็นเราเป็นเด็กใหม่ ช่วยป้อนงานให้ เรื่องแรกคือแทบไม่มีบทเลยครับ ออกน้อยมาก (หัวเราะ) เหมือนลองชิมลางจริงๆ นอกนั้นงานจะไปอยู่กับพวก MV งานโฆษณา วิ่งแคสต์งานโฆษณาเสียมากกว่า

12

บทบาทที่ประทับใจมากที่สุด

เท่าที่เล่นมาตอนนี้มีสองบทที่มีนประทับใจครับ บทแรกคือ ติณณ์ ในซีรีส์ ‘บังเอิญรัก’ ซึ่งคิดว่าเป็นบทที่มีนทำการบ้านเยอะมาก และเป็นงานชิ้นแรกที่ทำให้มีนได้มีชื่อเสียงมากขึ้น ตอนแรกมีนก็คิดว่าจะรับเล่นดีไหมเพราะมันเป็นซีรีส์วาย แต่พอเราอ่านบทแล้วเราชอบบทนี้มากจึงตัดสินใจรับเล่นและคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วครับ อีกบทหนึ่งคือบท ไลท์ ในซีรีส์เรื่อง ‘My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100%’ เราต้องเล่นกับนักแสดงคุณภาพอย่างพี่ ณิชคุณ ต้องเตรียมตัวเยอะครับ ฝึกเยอะ เป็นงานที่ท้าทายมาก ถึงแม้ก่อนหน้าจะมีเวิร์กชอปกันแล้ว แต่ตอนเล่นเรายังต้องขอทีมงานเรียนเพิ่มเติมอีก แก้เป็นจุดๆ ไป เป็นงานที่เหนื่อยมากสำหรับมีนและทำให้ได้ประสบการณ์อะไรหลายๆ อย่าง เป็นงานที่มีนลงรายละเอียดลึกจริงๆ 

5

สำหรับความสามารถในการแสดงของมีน มันคือการเรียนรู้หรือเป็นพรสวรรค์

มีนเป็นคนไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้เลย ไม่มีความกล้าด้วยครับ ตอนแรกที่เข้ามาคือไม่มีอะไรเลย สิ่งเดียวที่มีคือความอยากรู้ อยากลอง แต่ว่าแค่นั้นมันไม่พอสำหรับงานในวงการบันเทิง เราต่างจากนักแสดงบางคนที่เล่นแล้วเป็นธรรมชาติ เป็นเด็กใหม่ที่เล่นดี เราไม่ใช่แบบนั้น ช่วงแรกที่มีนทำงาน มีนไม่เคยชอบผลงานตัวเองเลยครับ รู้สึกว่าเราต้องทำได้ดีกว่านั้น มีนจึงตัดสินใจไปเรียนการแสดงเพิ่มเติม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่ามีนเรียนหรือรู้จักกับทุกครูและสถาบันสอนการแสดงใหญ่ๆ ในประเทศไทย นอกจากการเรียนกับสถาบัน มีนยังชอบที่จะศึกษาด้วยตัวเองด้วย เพราะการเรียนแอคติ้งนั้น จุดหนึ่งคือการเรียนรู้ความเป็นคน ความเป็นมนุษย์ เราแค่เรียนรู้ตัวละครนั้นแล้วถ่ายทอดความเป็นมนุษย์คนหนึ่งออกมา บางคนอาจจะบอกว่าบทแปลกๆ ไม่มีคนจริงๆ เป็นแบบนั้น แต่ที่จริงแล้วเราต้องพยายามหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมบทถึงเป็นแบบนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีนชอบศึกษาคน อ่านบทความเพิ่มเติม คิดเทคนิควิธีการแสดงขึ้งมาเองด้วยครับ 

7

การเรียนด้านภาพยนตร์ช่วยอะไรบ้างไหม

ต้องย้อนกลับไปว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่ตัดสินใจเข้าวงการบันเทิงเพราะมีนอยากทำงานเบื้องหลังครับ เราชอบงานเบื้องหลัง ชอบไปคุยกับผู้กำกับ คุยกับช่างภาพ ชอบนั่งดูหลังมอนิเตอร์ ทำให้เรามีประสบการณ์ตั้งแต่ก่อนเรียนมหาวิทยาลัย พอเรียนมหาวิทยาลัย ความรู้ต่างๆ ทฤษฎีต่างๆ ก็ย้อนกลับมาช่วยเติมเต็มเรามากขึ้น ในฐานะที่เราเรียนกำกับ เรียนเขียนบทมา มันทำให้เราเข้าใจภาพมากขึ้น เข้าใจว่าตัวละครต้องการอะไร ผู้กำกับต้องการอะไร สุดท้ายต้องทำอย่างไรถึงจะสมจริงทั้งในฐานะตัวละคร จริงในฐานะคนดู มีนว่ามันช่วยมากๆ เลย

2

ตั้งแต่แสดงมา นักแสดงคนไหนที่รู้สึกว่าประทับใจ เข้าขากันมากที่สุด

คนแรกคือ ‘บอลชอน’ เป็นรุ่นพี่ผม เขาเรียนการแสดงที่มศว. เป็นครูสอนการแสดงและเป็นนักแสดงด้วย เจอกันเรื่อง ‘Hook’ และเรื่อง ‘The Graduates’ เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการแสดงมากครับ ไม่ว่าจะโยนอะไรไปเขาก็รับและส่งกลับมาได้ เป็นคนที่เป็นพาร์ตเนอร์ในการแสดงที่ชอบมากๆ เล่นแล้วคลิกกันมาก อีกคนหนึ่งคือพี่แปลน ที่เล่นด้วยกันใน ‘บังเอิญรัก’ เหมือนเล่นด้วยแล้วสบายใจ เป็นคนที่มีอะไรก็จะคุยกันตลอดว่าจะเล่นประมาณไหน แบบนี้โอเคไหม อาจจะเป็นเพราะว่ารู้จักกันมานานด้วยครับ เวิร์กชอปกันเป็นสิบๆ ครั้ง พอสนิทกันก็จะคุยกันตลอด ทุกวันนี้เรารู้ไปถึงกระทั่งวิธีการพูด รู้จังหวะกันหมดครับก็เลยเล่นด้วยแล้วง่ายครับ

4

ระหว่าง ‘บังเอิญรัก’ ซีซั่น 1 กับ 2 ต่างกันอย่างไร

ต่างเยอะมากครับ อย่างซีซั่นแรก คู่มีนเป็นคู่สอง แต่คราวนี้เป็นคู่หนึ่ง หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าคาแรคเตอร์ของติณณ์กับแคนมันเปลี่ยนไปไหม มีนยอมรับว่าคาแรคเตอร์มันถูกวางให้มันกลมขึ้น อย่างซีซั่นแรก ติณณ์จะถูกผู้กำกับวางให้เป็นคนที่ร้ายที่สุดเพื่อที่ในตอนจบคนจะได้สงสารมากที่สุด แต่พอเป็นซีซั่นสองที่เป็นบทนำ มันต้องอะไรที่มากกว่าการแสดงอารมณ์หงุดหงิด โมโหร้าย อารมณ์เหยียด มันต้องมีด้านสว่างเข้ามาเพื่อให้คาแรคเตอร์มันกลมขึ้น ความยากอยู่ที่เราจะทำอย่างไรให้คนเชื่อว่ามันคือตัวละครเดิม แต่มันค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไป ให้มันกลมขึ้น มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีนกับพี่แปลนก็จะมาคุยกันว่าเราจะปรับประมาณไหน มาเวิร์กชอป ใช้เวลาสักพักเหมือนกันครับ 

10

ถ้ามีโอกาส อยากไปลองประสบการณ์กับโปรดักชั่นส์ต่างประเทศเช่นประเทศจีนไหม

ถ้ามีโอกาสก็อยากไปครับ เคยไปแต่แฟนมีตติ้งกับงานอีเวนต์ แต่ยังไม่เคยได้ร่วมงานจริงๆ กับโปรดักชั่นส์จีนเลยครับ เพราะการไปทำงานมันต้องใช้เวลาหลายเดือน แล้วเราก็มีงานที่ไทยที่ค่อนข้างแน่น แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองครับ เพราะอุตสาหกรรมภาพยนตร์หรือโปรดักชั่นส์จีนอลังการและยิ่งใหญ่มากๆ 

ดาราจีนที่ชื่นชอบ

หลิวอี้เฟย (จากเรื่อง ‘มู่หลาน’) ชอบมากครับ น่ารัก (หัวเราะ)

11

ประสบการณ์ความรักที่ประทับใจ

น่าจะเป็นช่วง Puppy Love มากกว่าครับ ช่วงตอนเด็กๆ จริงๆ มีนเป็นคนไม่โรแมนติกเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีของเซอร์ไพรส์ หรือมีอะไรตื่นเต้น ไม่หวาน พอเราไปเจอคนที่โรแมนติกมากๆ เราก็จะประทับใจครับ เหมือนเป็นความหวานที่มาเติมให้เราในช่วงวัยเด็ก ช่วงมัธยม จากผู้ชายแมนๆ เฮ้วๆ เตะบอล เล่นอยู่แต่กับเพื่อน บางครั้งเราเจอเซอร์ไพรส์เล็กๆ อย่างในวันเกิด ก็ทำให้ใจฟูขึ้นมาเลยครับ ส่วนตอนช่วงมหาวิทยาลัยก็ไม่มีอะไรหวือหวาครับ ส่วนมากจะเป็นคุยๆ กันมากกว่า เพราะว่าเราก็ทำงานด้วยเรียนไปด้วย เรารู้ตัวเลยว่าเป็นคนบ้างานเลยทำให้ไม่มีเวลาเรื่องความรักเท่าไรครับ

บทที่อยากจะเล่นแล้วยังไม่เคยเล่น?

อยากเล่นหนังผีครับ ผีที่ไม่ใช่ผีตลกแบบ ‘พี่นาค’ (หัวเราะ) ผีแบบจริงจังครับ หลอนๆ เลย มีนเป็นคนกลัวผีมากตั้งแต่เด็กแล้ว การเล่นหนังผีอาจจะปลดล็อกความกลัวเราได้ หรืออาจจะพาเราไปเจออะไรใหม่ๆ ได้ครับ

6

หนังผีที่ชอบ?

มีนชอบหนังผีไทยนะครับ ด้วยความที่เราเป็นคนไทยด้วยแหละ เราอาจจะไม่อินกับผีหรือปีศาจของชาติอื่น ที่กลัวมากที่สุดคือเรื่อง ‘ชัตเตอร์’ ครับ ทำให้เรากลัวการถ่ายรูปไปพักใหญ่ อีกเรื่องก็คือ ‘The Eye คนเห็นผี’ ครับ

สิ่งที่แฟนคลับทำให้แล้วประทับใจมากที่สุด

มีนประทับใจการที่แฟนคลับซื้อป้ายบิลบอร์ดให้ในช่วงวันเกิดครับ เรารู้ว่าการซื้อป้ายบิลบอร์ดในการโฆษณาจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาล การที่แฟนคลับรวมเงินซื้อป้ายจึงเป็นวัฒนธรรมใหม่ซึ่งเราไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีหน้าเราอยู่บนป้ายที่ไทย จีน และประเทศอื่นๆ ที่เราไม่มีโอกาสได้ไปดูด้วยซ้ำ คิดว่าแฟนคลับทำเพื่อเราและเป็นอะไรที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่ บางครั้งยังรู้สึกไม่ดีเลยที่เราไม่มีโอกาสได้ไปดูป้ายเหล่านั้นจริงๆ 

8

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อาชีพที่มีนจะเลือกทำคือ?

มีนอยากเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ครับ สมัยเด็กๆ เราเจอครูหลายรูปแบบ เราคิดว่าถ้าเราเป็นครู เราน่าจะเป็นครูที่เข้าใจเด็ก เป็นเพื่อนกับเด็กได้ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถพัฒนาเด็กได้ มีนเชื่อแบบนั้น

ฝากถึงแฟนคลับไทยและต่างประเทศ

อย่างแรก ต้องขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนกันมาตลอด ยังไม่ห่างหายกันไปไหน บางคนอยู่ด้วยกันตั้งแต่ก้าวแรกที่มีนเหยียบวงการบันเทิง ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ หรือแม้แต่คนที่เพิ่งมากัน อยากจะขอบคุณที่คอยติดตามกันตลอด ถึงแม้จะมีบางช่วงที่ไม่ได้เจอหน้ากัน อย่างเช่นช่วง COVID ไม่มีโอกาสได้เจอกันตัวเป็นๆ แต่ก็ยังซัพพอร์ตกันมาตลอด อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพ ดูแลตัวเอง เมื่อมีโอกาสจะได้มาเจอกันอีก สุดท้ายมีนฝากติดตามผลงานซีรีส์ ‘บังเอิญรัก Season 2 – A Chance to Love’ ‘The Graduates’ และหนังที่กำลังจะเข้าฉายปลายเดือนพฤศจิกายนนี้เรื่อง ‘วอน (เธอ)’

9


Creative Director – Photographer : Termsit Siriphanich

Makeup and Hair : Thanakorn Chanhom

Clothes : PAINKILLER Atelier at Another Man Story 1st. FL. Helix quartier, Emquartier, Central World 4th. FL. Central at Central WorldPAINKILLER Emquartier, Qurator zone, 2nd Floor., Emquartier. and www.painkilleratelier.com

Editor in Chief : Austin Thein