Cover Interview – Mark Siwat x Zung Kidakarn

เขย่าวงการซีรีส์ไทยให้ฮือฮาด้วยการสร้างซีรีส์ในรูปแบบ O2O (ออนไลน์ ทู อ๊อฟไลน์) กับปรากฎการณ์ของซีรีส์กินได้ครั้งแรกของเมืองไทยในซีรีส์วาย “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ซีรีส์กินได้กับเรื่องราวความผูกพันระหว่าง “เอก” ไรเดอร์ส่งอาหารที่มีความฝันอยากเป็นเชฟ และ “เชฟเอื้อ” จากร้าน “อิ่มเอื้อ”…. ซีรีส์ที่พร้อมจะพาคนดูได้มีประสบการณ์ร่วมจริงกับการสั่งอาหารจากร้านอิ่มเอื้อมาชิมได้จริงหน้าจอในรูปแบบ คลาวด์ คิทเช่น (Cloud Kitchen) เรียกว่า อิ่มจริง ฟินจริง เป็นครั้งแรก ซึ่งถูกสร้างโดยบริษัท เดอะ ดรีม แอนด์ เดสทินี จำกัด (THE DND) บริษัทคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ (Content creator)

7

ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายของ SAMMON กำกับโดย “เดวิด บีแกนเดอร์”  ภายใต้เรื่องราว เมื่อ “เอก” (มาร์คศิวัช จำลองกุล) เด็กเหนือในวัย 21 ปี เติบและโตที่จังหวัดน่าน มีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ คณะบัญชี  หาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือด้วยการส่งไลน์แมน มีความฝันอยากเป็นเชฟระดับโลก  ส่วน “เชฟเอื้อ” (ซุงกิดาการ ฉัตรแก้วมณี)   เชฟวัย 30 ปี เจ้าของร้านอาหาร “อิ่มเอื้อ” ที่เปิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง เพราะสิ่งที่เชฟเอื้อขาด ไม่สามารถมีอะไรมาเติมเต็มได้นอกจาก  ‘พรสวรรค์’   โดยเชฟเอื้อไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งที่เขาขาดหายไปจะถูกค้นพบในตัวของ ‘เอก’ เด็กส่งอาหาร   เมื่อหนึ่งคนผู้มีความฝันแต่ขาดโอกาส กับ หนึ่งคนผู้มือความเชี่ยวชาญและความสามารถแต่ขาดรสมือ  วันนี้ POSH พาทั้งสองคนมาพบปะพูดคุยกันอีกครั้ง

4

แนะนำตัว / รับบท คาแรกเตอร์

มาร์ค : รับบทเป็นเอกครับ หนุ่มเหนืออายุ 21 ปี เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพมหานคร แล้วก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองครับโดยการขับรถส่งอาหาร

ซุง : ส่วนผมรับบทเชฟเอื้อครับ เป็นนักเรียนที่จบจากโรงเรียนอาหารมาโดยตรง และทำงานด้านอาหารมาเรื่อยๆ จนวันนึงมีโอกาสได้เปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองชื่อร้านว่าอิ่มเอื้อ แล้วมีอยู่วันนึงมีพนักงาน LINE MAN คนหนึ่ง ก็คือตัวเอกนี่แหละครับ มารับอาหารที่ร้านอิ่มเอื้อ เลยทำให้เราสองคนได้เจอกันเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเชฟเอื้อก็ได้ค้นพบว่าเอกเป็นเอ็กซ์เมนครับ (หัวเราะ) เพราะแค่ได้กลิ่นอาหารเอกก็สามารถตอบได้เลยว่าเมนูอะไร มีส่วนผสม และเครื่องปรุงอะไร โดยไม่ต้องชิม

1

มาร์ค : คือตัวเอกเขาจะสามารถดมกลิ่นแล้วรู้ได้ทันทีว่า เป็นอาหารประเภทนี้ ชนิดนี้ ใช้ส่วนผสมเครื่องปรุงอะไรบ้าง เลยทำให้เชฟเอื้อแปลกใจสำหรับตัวเด็กคนนี้ เฮ้ยทำไมถึงรู้ อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเอกเขามีความสนใจในเรื่องการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก เขาได้รับการสั่งสอนในเรื่องการทำอาหารไทยต้นตำรับจากคุณแม่ และคุณยายมาตั้งแต่เด็ก เลยทำให้เอกรู้หมด

ความยากง่าย ความกดดัน

ซุง : ส่วนคาแรกเตอร์ของเชฟเอื้อ เอาเข้าจริง ๆ แล้ว คือตัวผมก็ค่อนข้างที่จะยากอยู่เหมือนกันครับ เพราะไม่มีประสบการณ์ด้านการทำอาหาร คือแทบจะเรียกว่าไม่เคยเข้าครัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งความยากของตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้แต่ละตัวนั้น คือทุกคนต้องได้ทำอาหารกันแทบจะหมดเลย ซึ่งทุกคนจะต้องไปเวิร์กช็อปในเรื่องของการทำอาหารมาก่อนด้วย เรียกว่าเรียนกันแบบจริงจังมาก รวมประมาณ 50 ชั่วโมงได้ ส่วนคาแรกเตอร์ลักษณะนิสัยของเชฟเอื้อนั้น ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่เพอร์เฟกต์ สุขุม นุ่มนวล อ่อนโยน ซึ่งค่อนข้างจะตรงข้ามกับคาแรกเตอร์ของเราจริง ๆ ครับ ตรงข้ามกันสุด ๆ เลยครับ (หัวเราะ)  ต้องมีการปรับจูนกันนิดนึงครับ ถือว่าเป็นงานที่ยากมากสำหรับผม แต่ผมก็ภูมิใจกับงานนี้มาก ๆ ครับ บทค่อนข้างชัดเจนมากว่าเราไม่สามารถจะเป็นตัวเราเองได้เลย เพราะถ้ามีคาแรกเตอร์ของตัวเองหลุดเข้าไปเนี่ยจะไม่ใช่เป็นเชฟเอื้อเลยทันที ซึ่งก็ได้ลองหาคาแรกเตอร์ของเชฟเอื้อที่ตรงกับคาแรกเตอร์ของตัวเองเหมือนกันนะ ก็อาจจะมีมุมในเรื่องของความรัก ถ้าเกิดเรามีความรักเรากำลังตกหลุมรักใครอยู่ รักแบบคลั่งรักเลย ก็น่าจะประมาณฟิวนั้นเหมือนกัน

2

มาร์ค : สำหรับส่วนตัวเอกนั้น ความยากน่าจะไปอยู่ตรงเรื่องของการเป็นเชฟมากกว่าครับ ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วส่วนตัวของมาร์คเองจะเป็นคนทำอาหารได้ แต่เราก็ไม่ได้เรียนพื้นฐานขั้นตอนวิธีการที่ถูกต้องมาก่อน จึงจำเป็นต้องไปเริ่มเข้าคอร์สใหม่ ต้องไปเริ่มเรียนกันใหม่ เริ่มกันตั้งแต่วิธีการถือมีด การหั่นวัตถุดิบแบบหลากหลายวิธี ทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการแล่ปลา แล่ไก่ การหั่นผัก การหั่นให้เป็นลักษณะรูปทรงต่าง ๆ ส่วนคาแรกเตอร์ลักษณะนิสัยของเอกกับของผมนั้นก็มีคล้าย ๆ กันเหมือนกันครับ อย่างการขับรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องรับบทเป็น LINE MAN ส่งอาหาร ซึ่งส่วนตัวผมเองก็เป็นเด็กที่ชื่นชอบการขับมอเตอร์ไซค์อยู่แล้วด้วยเหมือนกันครับ แล้วก็ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการร่วมงานกับพี่ซุงเป็นครั้งแรกครับ คือมาถึงพี่เดย์ผู้กำกับก็ให้เล่นเลยแสดงเลย ไม่มีละลายพฤติกรรม ไม่มีพูดคุยกันก่อน ไม่ได้พูดคุยหรือรู้จักกัมานก่อน มาถึงก็ให้เล่นเลย ช่วงแรกจึงความเกร็งกันเล็กน้อยครับ อย่างพี่ซุงเนี่ยเขาเคยได้เวิร์กช็อปมาก่อนผม ส่วนผมมาทีหลังเขา พอเข้าห้องไปแล้ว ก็ได้สังเกตว่าคนนี้น่าจะต้องรับบทเป็นเชฟเอื้อแน่นอน จึงมีความเกร็งบ้างเขินบ้างเล็กน้อยครับ ดูเค้าก็ขรึม ๆ สุขุมดีครับ จึงเริ่มคิดเล็กน้อยว่าเขาจะขรึมใส่เราไหม จะเข้ากันได้ดีไหม

5

การร่วมงานกันครั้งแรก

ซุง : ส่วนตัวผมพอเจอมาร์คครั้งแรก ครั้งแรกก็เอ๊ะเลย ! เด็กคนนี้จะกระโดดต่อยเราหรือเปล่านะ (หัวเราะ) คือก่อนหน้านี้เราก็เคยเข้าไปส่องไอจีน้องเขา พอเห็นรูปต่าง ๆ เราก็ว่าไอ้เด็กคนนี้มันเท่ดีนะเนี่ย ซึ่งจากที่เราได้มีการเวิร์กช็อปก่อนน้อง ได้ซ้อมบทกับนักแสดงที่มารับบทเอกแทนก่อนนั้น ผมก็ได้จินตนการไว้ว่า เอกต้องเป็นคนแบบนี้ ๆ เอกจะต้องพูดประมาณนี้ลักษณะท่าทางหน้าตาจะต้องประมาณนี้ และพอได้ลองเล่นกับมาร์คครั้งแรก ก็ใช่เลยครับคือมาร์คเป็นเอกในจินตนาการของผมเลยครับ เลยทำให้ผมรู้สึกว่าผมทำงานง่ายขึ้น

มาร์ค : จะบอกว่าผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าพี่ซุงแอบไปส่องไอจีผมมาก่อน สำหรับตัวผมยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าใครมารับบทเป็นเชฟเอื้อ พอหลังจากเข้าห้องเวิร์กช็อปครั้งแรกเสร็จแล้ว ถึงจะเห็นไอจีพี่ส่งทีหลัง เขาก็เท่ไม่ต่างกับผมนั่นแหละ เลยกลายเป็นว่าเด็กผู้ชายแบบสไตล์เด็กไทยที่อาจจะมีมุมลุยๆ บ้าง 2 คน มาแสดงซีรีส์วายด้วยกัน จนออกมาเป็นแบบใสปิ๊งได้ ผมว่ามันสุดยอดเลยนะครับ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการปล่อย TEASER ปล่อย TRAILER จนถึง ออนแอร์ไปแล้วตอนสองตอนแรก  ผมก็ได้เข้าไปติดตามดูคอมเม้นต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใน YouTube เป็นไอจี ทวิตเตอร์ หรือเพจต่างๆ ฟีตแบ็กค่อนข้างกลับมาดีครับ ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับ

9

ซุง : ผมบอกเลยว่าใน TRAILER เนี่ยไม่ถึง 5% ของความดีงาม  อย่างเชฟเอื้อเนี่ยคาแรกเตอร์เห็นเป็นคนเงียบๆ อยู่แล้ว แต่คุณจะได้เห็นว่าเวลาคนเงียบ ๆ มาอยู่ในอาการคลั่งรักจะเป็นยังไง มันจะมีความเก็บอาการแต่ไม่เนียน

มาร์ค : ส่วนตัวเอกหลังจากที่ได้เข้าไปเป็นเชฟในร้านแล้ว ตอนช่วงแรก ๆ จะมีความเกร็งนิดนึง เพราะเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ เช่นถ้ามีคนสั่งว่า พี่ขอแกงเขียวหวานถ้วยหนึ่ง เอกจะต้องตอบว่า ครับเชฟ ทันที ซึ่งเป็นไดอะร็อกที่ต้องพูดซ้าไปซ้ำมาบ่อยมาก จนมีอยู่ครั้งหนึ่งผมพูดเบาไปพี่เดย์ผู้กำกับจึงขอให้พูดดังกว่านี้ ด้วยความเคยชินผมก็หันกลับไปตอบพี่เดย์ว่า ครับเชฟ (หัวเราะ)

 

ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่เป็นยังไง

ซุง : ส่วนความรู้สึกที่ได้ร่วมงานแสดงกับพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่ ผมจะใช้วิธีการสแตนด์บายไว้ก่อนครับ รอให้พี่ๆ ส่งบทมา ถ่ายทอดอารมณ์มาว่าฟิวไหนความรู้สึกไหน เราก็สแตนด์บายรอรับตรงนั้นแหละครับ เขาสามารถจะจูงเราไปได้เองทันที มันเลยทำให้ดูลื่นไหล ดูสนุกครับ

มาร์ค : ส่วนผมหลักๆ เลยจะเข้ากับพี่ต๊งแหน่ง (รัดเกล้า อามระดิษ) เป็นหลัก เพราะว่าพี่ต๊งเหน่งแสดงเป็นแม่ของผมครับ ตอนแรกมีความแอบเกร็ง เพราะว่าเคยได้ดูผลงานของพี่ต๊งมาก่อนมากมาย ได้เห็นมุมต่างๆ ที่พี่ต๊งได้แสดงไว้ พี่เขาเป็นคนที่เก่งมากๆ แต่พอได้ลองมาเวิร์กช็อปกับพี่เขาแล้ว ความรู้สึกเกร็งมันหายไปเลยครับ เพราะพี่ต๊งคือแบบว่าสนุกมากๆ เป็นคนแบบว่ามีความอบอุ่น เป็นคุณแม่ได้แบบว่าสุดยอดมากๆ ครับ รู้สึกว่าผ่อนคลายครับ

ซุง : ส่วนผมสำหรับพี่ต๊งเหน่งแล้ว จะมีซีนที่เชฟเอื้อได้คุยกับแม่ของเอก เป็นซีนที่ค่อนข้างจะจริงจังด้วย ฉากนั้นทำให้ผมรู้สึกว่า ผมมองตาพี่ต๊งเหน่งแล้ว มันเป็นแววตาของคนเป็นแม่ที่มีความเป็นห่วงลูกมากๆ มันจี๊ดเข้ามาตรงหัวใจ มันทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องดูแลลูกของเขาให้ดี แบบโดยไม่ต้องพูดอะไร ประมาณนี้ครับ ไม่อยากสปอยล์มาก (หัวเราะ)

3

โควิดกระทบการทำงานแค่ไหน แล้วเม้าท์วีรกรรมคู่ตัวเองในกองถ่ายหน่อย

มาร์ค : สำหรับการถ่ายทำก็มีความลำบากกันนิดหน่อบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทางกองถ่ายของเราก็ได้ทำตามกฎระเบียบข้อปฏิบัติการกันอย่างเคร่งครัดครับ โดยยังมีความสนุกสนานกันอยู่ อย่างตอนที่ไปถ่ายที่ จ.น่าน เราไปถ่ายเมื่อประมาณช่วงมีนาคม ตอนนั้นอากาศไม่ได้หนาวแล้ว แต่ตัวละครจะต้องใส่เสื้อกันหนาวให้ดูสมจริง ก็เฮฮาสนุกสนานกันไปครับ ยิ่งตัวผมก็จะสนุกพิเศษกว่าใครหน่อย กับบรรยากาศภาคเหนือ อาหารเหนือ รู้สึกแปลกตาเหมือนกันครับ เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปภาคเหนือ ส่วนเรื่องขำ ๆ อำกันในกองนั้น อย่างตัวผมต้องบอกก่อนว่า เวลาว่างจากการคัทซีนเกือบจะทุกครั้ง ผมจะต้องขอตัวไปแอบงีบชาร์จพลัง แล้วทุกครั้งเวลาผมสะดุ้งตื่นอะไรซักอย่าง ผมจะต้องลืมตามาเห็นพี่ซุงอยู่ตรงหน้าผมตลอด เขาจะชอบแอบถ่ายรูปผมตอนหลับทุกครั้งครับ หลักฐานใน PHOTO ALBUM ในมือถือพี่เขาเลยครับ

ซุง : ขออธิบายเหตุผลที่ผมจะต้องถ่ายมาร์คไว้ ผมทำไว้ป้องกันตัวเองครับ เขาไม่ได้จะแกล้งผม ถ้าวันไหนเขาแกล้งผมขึ้นมา ผมก็มีรูปถ่ายเขาไว้เป็นตัวประกันอยู่ครับ (หัวเราะ) สำหรับซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์วายเรื่องแรกของผมครับ ปกติผมก็เล่นบทโรแมนติกทั่ว ๆ ไปมาก่อน ซึ่งพอมาเล่นแบบโรแมนติกในซีรีส์วาย ผมไม่รู้สึกเลยว่ามันต่างกับโรแมนติกที่เคยเล่นมายังไง ผมรู้สึกว่ามันก็คือโรแมนติกอย่างนึง อาจจะไม่มีฉากที่หวือหวามาก แค่พอให้ชวนจิ้น เน้นในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร เรื่องความเติบโต เรื่องความฝัน เรื่องการที่เราจะพัฒนาตัวเองไปด้วยกัน แบบรักห่วงใยกันครับ

ซีรีส์ให้อะไรกับคนดู ฝากซีรีส์หน่อย

มาร์ค : ซีรีส์ของเราก็เด่นเรื่องการทำอาหารด้วยเหมือนกัน เพราะซีรีส์ของเราคือ ซีรีส์กินได้ครับ จึงถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับอาหารไทย ร้านอาหารไทย ขนมไทยต่าง ๆ สำหรับแฟน ๆ คนไหนกำลังดูซีรีส์อยู่แล้วหิว ก็สามารถเข้าแอพพลิเคชั่น LINE MANได้ ซึ่งสามารถสั่งอาหารทานได้เลยจากร้านอิ่มเอื้อที่มีอยู่ในแอพพลิเคชั่นใน LINE MAN ครับ

ซุง : ไม่แน่นะครับถ้ากระแสดี ๆ อาจจะมีนักแสดงใครสักคนในซีรีส์เรื่องนี้เป็นคนไปส่งอาหารให้คุณก็เป็นได้

มาร์ค : ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ณ ตอนนี้ก็อยากจะฝากแฟนๆ ทุกคนนะครับ ตอนนี้โควิดก็ยังระบาดอยู่ก็ขอให้ทุกคนรักษาตัวเองให้ดี ออกไปข้างนอกก็อย่าลืมใส่แมส แล้วก็ล้างมือด้วยเจลล้างมือด้วยนะครับ ดูแลตัวเองดีๆ ครับ

6

ซุง : โซเชียล ดิสแทนซิ่ง กันด้วยนะครับ เว้นระยะห่างด้วย ตอนนี้เราอาจจะยังไม่ได้เจอกัน เดี๋ยวถ้าเกิดสถานการณ์มันกลับเข้ามาสู่สภาวะเกือบปกติแล้ว เราคงมีโอกาสมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้เรามาเจอกันในช่องทางโซเชียลมีเดียกันก่อนนะครับ ฝากซีรีส์ “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ซีรีส์กินได้กันด้วยนะครับ

ร่วมเป็นกำลังใจให้ความสัมพันธ์ระหว่าง  “เอก” และ “เชฟเอื้อ” ในซีรีส์กินได้  VIU ORIGINAL “ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME” ได้ทุกคืนวันอาทิตย์ เวลา 22.15 น. ทางช่อง ONE 31 และทาง VIU  ได้วันเดียวกันเวลา 23.15 น.  พร้อมฟินกับเมนูเด็ดจากร้าน “อิ่มเอื้อ” สั่งจริง ส่งจริง อิ่มจริง  ที่ร้าน “อิ่มเอื้อ” ทาง LINE MAN  พร้อมกับติดตามความเคลื่อนไหวของซีรีส์กินได้เรื่องนี้ที่  FB ; Twitter ; IG ; Youtube ;Tiktok ; Weibo  ของ THEDNDTH  และสำหรับ ร้านอิ่มเอื้อ ได้ที่  FB ; IG @imaue.eatery , Twitter : ImaueE   #BITEMETHESERIES  #ส่งร้อนเสิร์ฟรักBITEME

8


Photographed by @yun8narin

Styled by Vorapol Suporn (BRASBAS) @88_brasbas_88

Makeup&Hair สันติภาพ กันทะพงศ์ , ปณิชา มนูญศักดิ์

Clothes Calvin Klein Jeans, Zara Men, Uniqlo, Marc Jacob

Shoes Dior, Balenciaga, Alexander Wang

Location Kene Hotel Bangkok  http://kenehotelbangkok.com Tel. +66 (0) 9 8197 5638 LINE @Kenehotelbangkok หรือคลิก bit.ly/KeneHotelBKK

Email: info@kenehotelbangkok.com
Creative Director  Termsit Siriphanich
Editor in Chief  Austin Thein