Cover Interview – Jespipat Tilapornputt x Esther Supreeleela

‘วิมานทราย’ ละครโรแมนติกดราม่าเรื่องใหม่ทางช่องOne31 โดยจับเอาพระนางคู่ใหม่ เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ และ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา มาประชันบทบาทกันอย่างเข้มข้น วันนี้ POSH Magazine Thailand พาทั้งคู่มาถ่ายแฟชั่นพร้อมพูดคุยกันให้หายคิดถึง 

1

POSH: เนื้อเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง? 

เจษ: เป็นเรื่องราวความรักความแค้นของชายหนุ่มสุดหล่อ แสนดี รักครอบครัว ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาณิน หลังเขารู้ข่าวว่าน้องชายที่รักของเขา คิดสั้นจะฆ่าตัวตายเพราะถูกผู้หญิงที่ตัวเองหลงรักหักอก ภาณินจึงตั้งใจจะเอาเรื่องผู้หญิงคนนั้นให้ถึงที่สุด แต่แล้วเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เมื่อภาณินรู้ความจริงว่า ผู้หญิงที่น้องชายหลงรัก คือ อลิศรา (เอสเธอร์) จิตรกรสาวสวย ผู้เป็นรักแรกพบของเขา ภาณินถึงกับช็อค ทั้งโกรธและเกลียดอลิศราทันที เพราะคิดว่าเธอเป็นหญิงหลายใจที่คอยปั่นหัวหลอกผู้ชายไปวัน ๆ

 

POSH: ในเรื่องเจษรับบทเป็นใคร?

เจษ: เป็นภาณินครับ เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมใหญ่ซึ่งไม่เก่ามากแล้วก็ร่ำรวยเป็นเศรษฐี จากนั้นวันนึงก็ไปเจอกับนางเอกซึ่งก็คืออลิศราไปเจอกันที่ทะเล  โดยเจอกันโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครและคาดหวังว่าจะได้เจอกันอีก และหลังจากนั้นก็กลับมาที่กรุงเทพแล้วสรุปว่าน้องชายของพระเอกในเรื่องก็ไปชอบผู้หญิงคนเดียวกับเราเลยเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาครับ  

POSH: สำหรับบทของเอสเธอร์ในเรื่องละ

เอสเธอร์: ในเรื่องรับบทเป็นอลิศราจะเป็นผู้หญิงที่มีความทะมัดทะแมงนิดนึง เป็นเด็กศิลป์ชอบวาดรูป ชอบศิลปะ แล้วก็อย่างที่พี่เจษบอกคือไปเจอกับพี่เจษไปช่วยเค้าไว้ในเหตุการณ์ที่โดนยิง หลังจากนั้นก็รู้สึกชอบพอกันขึ้นมาแต่มันก็มีเรื่องที่ทำให้เข้าใจผิดแล้วก็ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายหลังจากนั้นค่ะ 

5

POSH: สำหรับ Character ในเรื่องนี้มีส่วนที่ตรงกับตัวตนของเราไหม? 

เจษ: ตรงไหมเหรอครับ มันก็มีส่วนที่ตรงแล้วก็ไม่ตรงครับ จริงๆก็ไม่ได้เป็นคนแปลกอะไรก็เป็นคนธรรมดาเนี่ยแหละครับ แต่มันจะมีอยู่ 2 ช่วงมันจะมีช่วงที่รักกับนางเอกแล้วพอผ่านช่วงที่เข้าใจผิดกันก็จะมีช่วงที่เราค่อนข้างร้ายกับนางเอกอยู่ประมาณกลางๆเรื่อง คือมันจะมีกราฟของตัวละครที่ขึ้นๆลงๆของมันอยู่ครับ 

เอสเธอร์: จะมีรู้สึกตัวเองช่วงต้นๆ เรื่องค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้มันเล่าเรื่องแบบตั้งแต่สมัยเรียนแล้วก็ผ่านเวลา 7 – 8 ปี โตขึ้นก็จะมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จะเหมือนช่วงแรกๆ  แต่ช่วงนี้ค่อนข้างไกลตัวในช่วงปลายๆ เรื่อง เพราะว่ามันมีเรื่องของความรักระหว่างแม่กับลูกเข้ามาด้วย ก็จะเป็นอีกบทนึงที่ค่อนข้างยากแล้วก็รู้สึกท้าทายค่ะ 

POSH: เรื่องนี้ใครเป็นผู้กำกับนะ?  

เจษ: พี่แมน-เมธี เจริญพงศ์ ครับ

POSH: พูดถึงผู้กำกับหน่อย

เจษ: พี่แมนเป็นคนอารมณ์ดี ทำงานคล่องแคล่ว คือไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน เอาจริงๆ พี่แมนก็ได้เพิ่งมาทำงานกับช่อง One เป็นเรื่องที่ 2 เราก็เลยเพิ่งเคยเจอ ก็ทำงานเร็วแล้วก็เหมือนอัธยาศัยดี คนในกองทุกคนรักครับ 

เอสเธอร์: เจอพี่แมนเป็นเรื่องที่ 2 แล้วค่ะ ก็รู้สึกว่าพี่แมนอัธยาศัยดี น่ารัก แล้วก็แบบว่ามีความชัดเจนมากๆ งานก็เลยดำเนินได้ไว ทุกอย่างไว วางแผนมาดีค่ะ

2

POSH: ลองบอกจุดที่น่าติดตามของละครเรื่องนี้ให้แฟนๆ หน่อย 

เจษ: ก็คือช่วยลุ้นไปกับพระนาง เพราะผมคิดว่าคนดูตอนแรกจะรู้สึกว่าอยากให้ 2 คนนี้ได้คู่กัน แต่ว่าสุดท้ายเขาไปคู่กันตอนหลังเลย ซึ่งมันจะมีช่วงเข้าใจผิดกัน ซึ่งคนน่าจะติดตากันในส่วนนี้ว่าพระนางจะได้รักกันเมื่อไร แล้วก็จะเข้าใจนางเอกเมื่อไร แล้วนางเอกจะเข้าใจพระเอกเมื่อไร อะไรแบบนี้ครับ 

เอสเธอร์: ก็อยากให้ติดตามเรื่องนี้เพราะว่าจากการที่อ่านบทก็รู้สึกว่าบทเข้มข้นมาก แล้วมันก็มีความ Drama แล้วก็ยังมีความ Romantic ด้วย นอกจากมีเรื่องราวความรักของพระนางก็ยังมีเรื่องราวของชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัวของพระเอก ชีวิตครอบครัวของนางเอกซึ่งแต่ละอย่างมันมีผลต่อการจตัดสินใจในการดำเนินชีวิตอะไรแบบนี้นะค่ะ มันน่าลุ้นเอาใจช่วยไปกับตัวละครค่ะ

POSH: สำหรับเจษเรื่องนี้เป็น Drama ตัวเจษเคยเล่น Drama มาอยู่แล้วใช่ไหม?

เจษ: ใช่ครับ ส่วนใหญ่เล่นแต่ Drama ส่วนบทนี้ก็ยากครับเพราะว่ามันมีอะไรไกลตัวเหมือนกัน เหมือนหลังๆ ก็เป็นเรื่องของพ่อกับลูก เหมือนกับการที่เราต้องดูแลเด็กคนนึงที่เป็นลูกเรา แต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกเราอะไร พอไปดูตอนหลังเราก็รู้สึกว่าค่อนข้างที่จะไกลตัว ต้องทำการบ้านเยอะครับ ใช้จินตนาการเยอะอยู่ครับ 

POSH: สำหรับ เอสเธอร์ ส่วนใหญ่เล่น Drama เยอะหรือเปล่า?

เอสเธอร์: ส่วนใหญ่เล่น Drama เยอะค่ะ มีบ้างที่อาจจะเล่น Comedy แต่ว่าจะไม่เยอะเท่า Drama ค่ะ  สำหรับบทนี้ก็รู้สึกว่ายาก ยากที่สุดในชีวิตให้เป็นเรื่องนี้เลยค่ะ อย่างที่บอกคือต้องเล่นเป็นแม่ที่มีลูกคือมันยากที่จะจินตนาการว่า ถ้าเราขาดลูกไป ลูกต้องไปอยู่ที่อื่นที่ไกลอะไรแบบนี้สายสัมพันธ์แม่ลูกมันจะเป็นอย่างไงอะไรแบบนี้นะค่ะ 

4

POSH: เคยเล่นคู่กันมาก่อนไหม?

เจษ: เล่นคู่กันเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกครับ เคยเจอกันมาก่อนเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เล่นเรื่องเดียวกันแต่ไม่ได้เล่นคู่กัน เรารู้อยู่แล้วว่าน้องเป็นคนเก่ง ตั้งแต่ตอนนู้นแล้วครับ น้องก็ยังเก่งเหมือนเดิม เอาจริงเก่งกว่าเดิม ด้วยวัยด้วยที่โตขึ้นมีวุฒิภาวะมากขึ้น เข้าใจอะไรต่างๆ มากขึ้น ก็ทำให้ทำงานง่ายครับ ทำงานเร็วเวลาเข้าฉากกับน้องก็แปบเดียว 

เอสเธอร์: รู้สึกเหมือนกันค่ะ ดีใจที่ได้กลับมาเจอพี่เจษอีกครั้ง ได้เล่นคู่กันแบบเต็มๆ ด้วย คือตัวละครนี้ถ้าไม่ใช่พี่เจษก็คือนึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นใคร คือเล่นกับพี่เจษเรื่องนี้ทุกอย่างมันง่ายไปหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การพูด การส่งอารมณ์ในบท มันดีไปหมดเลยค่ะ

POSH: ฝากผลงานละครเรื่องนี้และผลงานอื่นๆ ถึงแฟนๆ หน่อย 

เจษ: อื่นๆ ยังไม่มีเลยครับ (หัวเราะ)  ด้วยว่าช่วงจังหวะ Covid ทำให้เราต้องหยุดถ่ายทำไปงานเมื่อ 3 เดือนที่แล้วไป เลยต้องมาถ่ายทำใหม่ จะมีอีกทีก็น่าจะปีหน้าเลย 

เอสเธอร์: ฝากเรื่องวิมานทรายด้วยนะคะ แล้วก็ฝากร้านอาหารด้วย ร้านสุปรีย์ ใครอยู่แถวคลอง 3 สามารถแวะมาทานได้และร้านกาแฟอยู่คลอง 1 แล้วก็ร้านต้นไม้ @weplant_studio ค่ะ 

เจษ: ฝากตลาดรังสิตด้วยนะครับ (หัวเราะ) ตลาดพรพัฒน์เป็นกิจการของครอบครัวครับ (หัวเราะ)’

3

ติดตามชม ละครวิมานทราย ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20:20 น. เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ทางช่องวัน 31


Photography: Termsit Siriphanich @termsit

Esther – Makeup:  @JimMakeUp Hair: Tum ThongThon

Jes – Make Up&Hair: @ritz_angel_xx

Styled: @printystyle

Clothes:  https://www.jaspal.com   @jaspalofficial

Location: Sofitel Bangkok Sukhumvit
189 Sukhumvit Road Soi 13-15, Klongtoey Nua, Wattana,
10110 Bangkok, Thailand
Tel: +66 (0) 2126 9999
Fax: +66 (0) 2126 9998
Email: h5213@sofitel.com

www.sofitel-bangkok-sukhumvit.com

Creative Director: Termsit Siriphanich

Editor in Chief: Austin Thein