ถึงชั่วโมงนี้ วัยรุ่นไทยคงไม่มีใครไม่รู้จักดาราวัยรุ่นชายทั้งสองคน เกรท – สพล อัศวมั่นคง และ โอบ – โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ ที่มาปรากฏกายบนปก POSH Magazine Thailand ….ทั้งสองกำลังจะมีผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากค่าย ‘ทรานส์ฟอร์เมชั่น’ เรื่อง ‘แสงกระสือ’ ซึ่งเข้าฉายวันที่ 14 มีนาคม วันนี้ POSH จะพามารู้จักเรื่องราวของทั้งคู่กับภาพยนตร์เรื่องนี้
เกรท – สพล อัศวมั่นคง
แนะนำตัวเองรับบทเป็นใครในภาพยนตร์เรื่อง ‘แสงกระสือ’
ในเรื่องผมรับบทเป็นเจิด คาแรคเตอร์จะแบนๆ ดูเผินๆ เหมือนเจิดไม่คิดอะไรกับชีวิต ใช้ชีวิตสนุกสนาน แต่ตัวละครบางตัวมีหลายเลเยอร์ พอเจิดเจอเหตุการณ์อะไรบางอย่างเค้าก็โตขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง บทเลยมีความซับซ้อนมากขึ้น ความยากในเรื่องนี้คือเราต้องโตไปตามบทของเจิด เราต้องเล่นไปตามพัฒนาการของตัวละครครับ นอกจากจะเวิร์คช็อปแล้ว ผมต้องทำการบ้านคุยกับผู้กำกับพี่โดมว่าเค้าต้องการให้ผมดีไซน์การแสดงอย่างไร ต้องปรับเพิ่มหรือลดให้ตรงกับที่พี่เค้าต้องการครับ
หนังเรื่องแรกในชีวิตหรือเปล่า
ผมตื่นเต้นมากที่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ เหมือนได้รับโอกาสดีๆ ที่เราอยากทำมานานแล้ว เพราะผมฝันว่าอยากเล่นหนังมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่รู้ว่าได้ไปแคสติ้ง ผมรู้แต่ว่าผมต้องทำให้ได้ เวลาเราดูหนัง เรารู้สึกอินและสนุก อย่างละครก็ทำให้คนอินและสนุกได้เหมือนกัน แต่ความรู้สึกที่เราได้ทำตามฝันมันที่สุดแล้วนะ พอได้มาร่วมงานกับทีม ‘ทรานส์ฟอร์เมชั่น’ ผมสนุกมาก พี่โดม เชื่อในตัวเรา ตอนที่ผมแคสต์ ผมก็เล่นตามที่เราเข้าใจ ไม่ได้ปรุงแต่งตัวเองเลย
ความแตกต่างละครกับหนัง
ผมไม่ได้เล่นละครมาเยอะนะ แต่ทีมงานช่วยถ่ายตามลำดับบทให้เราเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครมากขึ้น ขณะที่ละครจะมีเปลี่ยนซีนไปมา แต่ทั้งการเล่นหนังและละคร ต่างก็ใช้ความรู้สึกจริงทั้งคู่ เพียงแต่หนังจะเล่นเบากว่าละครครับ
กระสือในความคิดของเกรท
นึกถึงผู้หญิงมีหัวกับไส้ห้อยและผมเชื่อว่าหลายคนต้องมีภาพจำแบบนี้แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ากระสือไม่ใช่ภูตผีแต่เป็นปีศาจครับ
ได้ร่วมงานกับพี่เอ็ม สุรศักดิ์ เป็นอย่างไรบ้าง
พี่เอ็มคือสุดมาก เป็นพี่ที่น่ารักเวลาเข้าฉากกันผมจะปรึกษาพี่เอ็มตลอดว่าเล่นแบบนั้นแบบนี้ดีไหมเค้าจะให้คำแนะนำต่างๆ กับผมตอนแรกที่มาเล่นเรื่องนี้ผมกดดันนะ ทั้งพี่เอ็มและโอบมีผลงานการแสดงมาเยอะกว่าผมช่วงแรกเวลาเทคผมจะรู้สึกว่าตัวเองไปถ่วงใครหรือเปล่าแต่ทุกคนกลับทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ผมเลยสนุกกับงานมากขึ้น
เห็นมินนี่เล่าว่าเกรทมีเทคถี่ด้วย
แรกๆ ถี่ครับ เพราะยังหาคาแรคเตอร์ตัวเองไม่เจอ จับจุดไม่ถูก และบท “เจิด” ค่อนข้างยาก พี่โดมผู้กำกับจะปล่อยให้ผมทำอารมณ์ได้เต็มที่พอผมพร้อมปุ๊บก็ลุยถ่ายทันทีแล้วหลังๆ ผมปล่อยทุกอย่างลงในทุกๆ ฉากทุกซีนที่เล่นเรื่องนี้เปิดโลกใหม่ให้ผมเลยครับ
ประทับใจฉากไหนบ้างไหม
ผมประทับใจซีนที่ทุกคนได้กลับมานั่งคุยกัน ผม โอบ มินนี่ เราเล่นหนังด้วยกันมาสักพักนึงเราเลยรู้สึกสนิทกันแล้วในเรื่องเหมือนกับเพื่อนทั้ง 3 คนไม่ได้คุยกันมานานพอถ่ายฉากนี้ ทุกคนส่งอารมณ์ได้ดี ผมชอบบรรยากาศถ่ายทำฉากนี้มากครับ มันแสดงถึงความผูกพันของเพื่อนที่ไม่มีวันตาย เจิดกับผมในเรื่องมีความคล้ายกันตรงที่มีความเป็นเด็กแต่จริงๆ แล้วลึกๆ มีความเป็นผู้ใหญ่
ความสนุกในกอง
เรื่องนี้สนุกมากครับ ผม โอบ มินนี่ วัยใกล้เคียงกัน เหมือนเพื่อนกัน เวลามากองเหมือนไปเจอเพื่อนคุยเล่นกันได้ตลอด
อยากเม้าท์ใครเป็นพิเศษไหม
ผมไม่เม้าท์โอบ เราเป็นพันธมิตรกันครับ ไม่เม้าท์กันอยู่แล้ว จะมีก็แต่มินนี่ครับ เวลาอยู่กองชอบบ่นว่าตัวเองอ้วน อยู่ในกองจะระวังเรื่องการกิน เน้นทานคลีนครับ แต่พอเลิกกอง หรือวันไหนที่ไม่มากอง ผมเห็นในไอจี สตอรี่ มีแต่ของกิน ผมก็แซวน้องนะครับว่า หนูกินแบบนี้แล้วจะผอมไหมลูก สรุปคือ ไม่ลงสักทีครับ
ชวนดูหนัง
อยากให้ทุกคนเปิดใจรับชม “แสงกระสือ” หนังเรื่องนี้ฉีกแนวจากหนังผีกระสือที่เราคุ้นเคยกันอย่างแน่นอน และ CG เรื่องนี้ทำสวยและสมจริงมาก ภาพดูเป็นหนังดราม่า แต่จริง ๆ แล้ว สุข เศร้า มีความกลมกล่อม ผมเชื่อว่าแต่ละคนจะเดาอารมณ์แต่ละซีนไม่ออกแน่จะเป็นแบบไหนต่อไป อยากให้ติดตามกันดูนะครับ
โอบ – โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์
โอบรับบทเป็นใครใน ‘ แสงกระสือ’
ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็น ‘น้อย’ ตัวละครตัวนี้ค่อนข้างยาก มีทัศนคติขัดแย้งกับคนอื่น เรื่องราวของหนังย้อนยุคและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เกิดในชนบท ซึ่งชาวบ้านก็จะมีความเชื่อแบบเก่า ๆ แต่น้อยจะเป็นคนที่หัวสมัยใหม่ เพราะเคยไปอยู่พระนคร ไปรู้ไปเห็นอะไรที่ทันสมัยความคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ดังนั้น เค้าจะมีความคิดที่แหวกกว่าคนอื่น จะพยายามพิสูจน์ให้คนได้รู้ว่าเรื่องบางเรื่องถ้าไม่เห็นจริง ไม่เจอกับตัว อย่าเพิ่งเชื่อ ถามว่าเรื่องนี้ยากตรงไหน เรื่องภาษาและคำพูดครับ เพราะผมต้องพาตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในยุคที่เรียก ‘กรุงเทพ’ ว่า ‘พระนคร’ ต้องระวังเรื่องคำพูดไม่ให้หลุดภาษาปัจจุบันออกมา เช่น คำว่า ‘โอเค’ ไม่มีแน่นอน และความยากอีกอย่างก็คือ ผมต้องเล่นกับทัศนคติของคน อย่าง น้อย เค้ามีความคิดที่แน่วแน่ แต่พอมาเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เค้าต้องเฟลกับตา หักล้างกับความเชื่อของตัวเองที่มีมาตลอด และเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดกับคนรักของเค้า เค้าจะแก้ปัญหาเพื่อช่วยคนรักอีก มันค่อนข้างยากมากเลยครับ
ก่อนหน้านี้ โอบ เคยผ่านงานหนังมาแล้ว กับเรื่อง ‘แสงกระสือ’ เป็นอย่างไรบ้าง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของผม เรารู้สึกว่าโตขึ้นเพราะประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามา ครั้งแรกที่ผมเล่นหนัง ตอนนั้นอายุ 20-21 เอง ตอนนั้นเรายังไม่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแสดงมาก แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ เรามีความพร้อมมากขึ้น แล้วพอมาได้ทำเวิร์คช็อปยิ่งทำให้เรารู้สึกสนุกและได้ความรู้ใหม่ ๆ มากขึ้นมากครับ
การแสดงละครและหนังต่างกันอย่างไร
-ผมโชคดีที่ซีรี่ส์หรือละครต่างๆที่ผมเล่นเค้าอยากให้ผมเล่นแบบเพียวๆเล่นแบบจริงๆแต่หนังยากกว่าตรงที่การถ่ายหนังใช้กล้องตัวเดียวต้องเปลี่ยนมุมกล้องต่างๆ 1 ซีนจะมีหลายคัทและก็ต้องเล่นหลายเทคเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุดขณะเดียวกันก็ต้อง hold อารมณ์ไม่ให้หลุดและผมเป็นนักแสดงที่เล่นแต่ละซีนไม่เหมือนกันพี่โดมก็จะคอยบอกว่าแต่ละฉากแต่ละซีนเค้าอยากให้ผมเล่นออกมายังไงเพิ่มหรือลดตรงไหนบ้าง
รู้จัก “กระสือ” ไหม ตีความกระสือในมุมมองของตัวเอง
-ในความทรงจำของผมตั้งแต่เด็กคือเป็นผู้หญิงมีหัวกับไส้น่ากลัวน้อยกว่าผีอื่นผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้นะแต่ถ้าเจอผมก็วิ่งหนีไม่เจอดีที่สุดครับ
ประทับใจฉาก/บทไหน
-เป็นฉาก climax เป็นซีนที่ความเชื่อต่างๆของน้อยถูกทำลายลงกับตาความรู้สึก fail เพราะสิ่งที่เค้าไม่เคยเชื่อมาเกิดกับคนที่มี impact มากที่สุดในชีวิตเค้ามันทั้งช็อคทั้งสับสนผมรู้สึกสนุกกับฉากนี้ตั้งแต่ตอนทำเวิร์คช็อปแล้ว พยายามคิดว่าจะเล่นออกมาแบบไหน ซึ่งพอเล่นมาแล้วผู้กำกับ พี่โดม โอเค กับการแสดงของเรา เราก็รู้สึกดีใจครับ
การร่วมงานกับนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างพี่เอ็ม สุรศักดิ์
-ระยะหลังมาพี่เอ็มหันไปทำงานเบื้องหลังไม่ค่อยได้เห็นผลงานของพี่เค้าพี่เอ็มไม่ได้เป็นแค่นักแสดงนะครับพี่เอ็มช่วยสอนการแสดงให้กับผมและน้องๆคนอื่นด้วยความที่พี่เค้าทำงานเบื้องหลังเค้ามีวิธีการสอนหลายแบบ การมีเค้าในซีนเหมือนมีผู้ช่วยผู้กำกับเพิ่ม เวลาที่พี่เอ็มแสดงด้วยเมื่อไหร่ งานจะเสร็จเร็วขึ้นครับ
ความสนุกในกองถ่ายและอยากเม้าท์ใคร
-ก็ต้องเรื่องแกล้งมินนี่แต่ผมแกล้งทุกคนนะครับแต่มินนี่จะโดนบ่อยหน่อยเพราะเค้าน่าแกล้งเค้าต่อกรเราไม่ได้คือผมจำได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เจอมินก็บอกว่าจะลดน้ำหนักเพราะกลัวดูอ้วนเวลาเข้าฉากสุดท้ายก็ไม่ได้ลดสักทีสงสัยมินนี่คงอยาก Keep character ครับ
ชวนดูหนัง “แสงกระสือ” หน่อย
-คนคงชอบคิดว่าหนังเกี่ยวกับผีอาจไม่น่าดูแตผมอยากให้คนไทยได้เสพคอนเทนท์ดีๆผ่านตัวบทและอารมณ์ของหนัง ชอบ Judge ว่าไม่ใช่หนังตลาดไม่มีแบรนด์ค่ายใหญ่ แต่อยากให้เปิดใจดูหนังเรื่องนี้ก่อนจะตัดสินกันครับ
Photography – Narin Lourujirakul
Makeup – Hair – Suphanut Tichana
Clothes – PAINKILLER Atelier Spring/Summer 2019 www.painkilleratelier.com และ www.facebook.com/PAINKILLERATELIER/
Assistant photography – Nanthawat Chobngam
Creative Director – Termsit Siriphanich
Editor in Chief Austin Thein
Location : อินเตอร์คอนติเนนตัล พัทยา รีสอร์ท (InterContinental Pattaya Resort) 437 Phra Tamnak Road , Chonburi , Pattaya 20150 Thailand
www.intercontinental.com/pattayaresort และ www.facebook.com/InterContinentalPattaya
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 038 259 888 หรือ อีเมล icpattaya@ihg.com