Cover Interview – Golf Pichaya

“กอล์ฟ-พิชญะ @golfpichaya ” ใน “ไลโอ โครตแย้ยักษ์” กับการลองเล่นหนังสัตว์ประหลาดสักครั้งในชีวิต

5 ปีสำหรับ “กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ที่ห่างหายไปจากวงการภาพยนตร์ เจ้าตัวเองก็แอบคิดถึงไม่น้อย ประจวบเหมาะกับค่ายเนรมิตหนัง ฟิล์ม ได้ลองทำหนังกลิ่นอายใหม่กับ “ไลโอ โครตแย้ยักษ์” ที่ได้ผสมผสานความแอ็คชั่นเข้ากับกลิ่นอายสัตว์ประหลาดเข้าไปด้วย นั่นจึงทำให้กอล์ฟกระโจนเข้าหาโอกาสนี้ทันทีทันใด เพราะเขาเองก็อยากลองเล่นหนังแนวนี้อยู่เหมือนกัน 

ได้ทีที่ POSH MAGAZINE THAILAND คว้าตัวกอล์ฟมาถ่ายแฟชั่นขึ้นปก เราเลยให้เขาบอกเล่าถึงการทำงานในเรื่องนี้ ซึ่งกอล์ฟพูดด้วยตาที่เป็นประกาย เพราะเขาเองก็อยากเห็นหนังไทยไปถึงจุดที่ CG มันล้ำได้แบบนี้สักที

3

จากเด็กอ่านการ์ตูน สู่คนแสดงจริง

เหตุผลที่รับเพราะชอบหนังแนวนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว ต่อให้ไม่ได้เป็นพี่ที่สนิทหรือเคยร่วมงานกันมาก่อนเป็นคนชักชวน ก็อยากลองดูสักตั้ง เพราะความชอบเรามันแมตช์เข้ากับแนวภาพยนตร์ได้พอดี รวมถึงตอนเด็กผมชอบอ่านการ์ตูนแนวซูเปอร์ฮีโร่หรือมอนสเตอร์บ่อยๆ อะนิเมะก็ชอบเสพแนวที่มันออกแฟนตาซีแอ็คชั่นหน่อยๆ 

  ผมเลยมองว่า ถ้าเราได้แสดงจริงๆ คงจะตื่นเต้นไม่น้อย พอมีโปรเจกต์ ‘ไลโอ’ ติดต่อเข้ามา ก็ไม่ลังเลเลยที่จะรับเล่น คือเหมือนมีคนเปิดสนามให้เราได้ทดลองเล่นแล้ว เราก็ใส่แรงตัวเองเข้าไปเต็มที่ในสนามนั้นเลย

1

ตัวเก้า ฝุ่นทราย จินตนาการ และความบู๊

  ถ้าให้เรียงลำดับความยาก 4 อย่างนี้จากหัวข้อที่พูดไป ผมมองว่า ไม่ได้มีสิ่งไหนที่รู้สึกว่ายากแบบโดดขนาดนั้น อย่างการทำความเข้าใจตัวละครเก้า ก็ไม่ได้ต้องลึกหรือเจาะชีวิตเขาขนาดนั้น เพราะในชีวิตจริง ผมก็ไม่ได้โดนผู้จัดการกลั่นแกล้งอะไร (หัวเราะ) ส่วนการเล่นกับจินตนาการหรือความบู๊ในเรื่อง ผมมองว่าเท่าๆ กันเลย ซึ่งโชคดีที่ผมมีทักษะการเต้นมาประมาณหนึ่ง มันเลยช่วยให้ผมรู้มูฟเมนต์ของการเคลื่อนไหวในหนังหรือการเล่นกับจินตนาการของสัตว์ประหลาด และมูฟเมนต์ตรงนี้แหละ แอบช่วยทีมงานครีเอทฉากได้เยอะขึ้น เราเองก็แปลกใจเหมือนกันว่า เคลื่อนตัวแบบนี้ มันจะกลายเป็นฉากนี้ได้ด้วยเหรอ 

  ส่วนที่ผมมองว่าท้าทาย คือมันไม่ได้มองในแง่ของความยาก แต่มันเป็นชาเลนจ์ที่ต้องจัดการกับจิตใจของตัวเองพอสมควรคือ เรื่องของโลเคชั่น ซึ่งเป็นฝุ่นทรายและถ้ำเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมไม่ได้แพ้ฝุ่นทรายหรืออะไรนะ แต่ผมกล้วค้างคาวที่อยู่ในถ้ำมากกว่า เพราะช่วงนั้นตรงกับสภาวะโควิด-19 แพร่ระบาดค่อนข้างสูง เลยไม่แน่ใจว่า ค้างคาวจะเป็นพาหะนำโรคหรือไม่ ตอนเล่นก็ต้องแอบระวังเหมือนกัน แต่ก็ผ่านมันมาได้

5

ร่วมงานกับ “ฟาง-ธนันต์ธรญ์”

  เขาเป็นคนหวานมากคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยรู้จักเลยนะ แล้วก็พูดน้อยด้วย คือผมเองถ้าใครไม่เข้าหาก่อนหรือมาคุยเล่นอะไร ก็จะเป็นคนพูดน้อยหรือไม่กล้าคุยไปโดยปริยาย และกลายเป็นว่า ฟางเคยพูดถึงผมช่วงแรกๆ ตอนเข้ากองถ่าย จำได้เลยเป็นบรรยากาศช่วงเช้า ว่าทำไมพี่กอล์ฟถึงเงียบจัง ผมเลยบอกว่า “ไม่ใช่นะฟาง พี่ไม่ได้เงียบ แต่พี่ยังไม่เฟรชเต็มตัว พี่จะตื่นอีกทีช่วงบ่ายสองเลย ถึงจะมีสติ” (หัวเราะ) จุดนั้นแหละเหมือนเปิดก๊อกระหว่างกัน หลังจากนั้นคือผมกับฟางคุยกันเยอะขึ้น แม้มันอาจจุดติดกันช้านิดหน่อย แต่หลังๆ ก็เริ่มปรับตัวและทำงานได้เร็วขึ้น และฟางเองเขาก็น่ารักมากตอนเล่นด้วยกัน

คุณภาพดีที่ CG ไม่ธรรมดา

  6-7 ปีที่แล้ว เราอาจเห็น CG ในหนังบ้านเราเป็นแบบหนึ่ง แต่วันนี้ผมว่า CG บ้านเราเริ่มมีมาตรฐานในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าถามผมในหลายปีก่อน ผมเองยังรู้สึกว่า ทำไมประเทศไทยไม่ทำ CG แบบหนังเกาหลีที่มีซอมบี้หรือมอนสเตอร์สักที ทั้งๆ ที่มีคนฝีมือดี ทำ CG เก่งๆ ในบ้านเราอีกเยอะมาก ผมเลยมองว่า ‘ไลโอ’ คือการทลายกรอบนั้น ซึ่งกว่าจะทลายกรอบเงื่อนไขเหล่านั้นได้ ต้องมีนักลงทุนที่เชื่อในเรื่องนี้ และเชื่อในฝีมือคนทำงานว่า เขาจะพัฒนามาจนถึงจุดนี้ได้

  ‘ไลโอ’ ที่ทำออกมา มันเลยเหมือนเซ็ตมาตรฐานใหม่ของ CG ที่เห็นถึงการพัฒนาและความตั้งใจของคนทำงานทุกคนที่อยากเห็น CG ที่สวย สมจริง และทำออกมาได้มีคุณภาพ ซึ่งจุดนี้เอง มันเลยช่วยให้ ‘ไลโอ’ น่าดูขึ้น และผมพูดในฐานะคนทำงานว่า มันช่วยยกระดับอุตสาหกรรมหนังไทยให้เดินไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งด้วย 

2

การประเมินและเปิดใจให้ ‘ไลโอ’

อยากให้ทุกคนเปิดใจกับเรื่องนี้ เหมือนอย่างที่ผมก็เปิดใจให้กับการแสดงในเรื่องเช่นกัน ซึ่งคะแนนประเมินการทำงานที่ผมจะให้ มันมาจากความตั้งใจของตัวเองล้วนๆ คือ เต็ม 10 เพราะผมใส่การแสดงสุดแบบเต็มร้อยและเต็มที่กับมันมากๆ และอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ 

  ‘ไลโอ’ จึงไม่ใช่แค่เปิดใจเรื่องการแสดงและการทำงานของผมเพียงอย่างเดียว แต่มันอาจเปลี่ยนมุมความคิดของผู้ชมไปด้วยว่า CG บ้านเราได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ และลืมภาพ CG เก่าๆ ไปได้เลย เพราะทีมงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกคนลงมือแรงใจให้กับเรื่องนี้แบบสุดๆ อยากให้ทุกคนได้ลองไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองครับ

4


Creative Director / Photographer : Termsit Siriphanich @termsit @termsitstudio

Stylist : Eirin Kiyota @eirindesu

Clothes : Philip Huang @philiphuangnyc – www.philiphuang.com – Line Official @philiphuangbkk

Editor in Chief : Austin Thein

Interview: Yutthachai Sawangsamutchai @Youthtumz

Location : Studio VJ