พอทราบข่าวว่า ‘ลอดลายมังกร’ จะปรากฏสู่สายตาประชาชนในรูปแบบของละครเวทีเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี คำถามแรกเกิดขึ้นในหัวคือ…ใครกันจะมารับบท ‘เหลียง’
แล้วผู้ชายคนนั้น ‘แบงค์–ปรีติ บารมีอนันต์’ ก็นั่งลงตรงหน้าดิฉันในห้องรับแขกของโรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ภาพของนักร้องขวัญใจวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียลยังไม่หายไปไหน ที่เพิ่มเติมคือ การเติบโตในฐานะนักแสดงมากฝีมืออย่างที่เราไม่แปลกใจกับผู้ชายที่ชื่อ ‘แบงค์’
ศิลปินหนุ่มวัย 30 ต้นๆ เริ่มบทสนทนาอย่างสบายๆ เขาเล่าถึงมิวสิควิดีโอเพลงซิงเกิ้ลใหม่ ‘ตายก็ยอม’ ที่เขาลงมือเขียนบทและเป็นผู้ช่วยผู้กำกับฯ ด้วยตัวเอง อย่างนี้ต้องลองถามเขาแล้วละว่า การมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ยากหรือไม่
“ไม่ยากนะ อาจจะเป็นเพราะผมชอบอ่านหนังสือด้วย พวกชีวประวัติต่างๆ ประวัติศาสตร์ นิยายสืบสวนสอบสวน เบ็ดเตล็ดทั่วไปก็อ่านได้”
เล่มไหนที่ชอบเป็นพิเศษ
“ไม่มีเล่มไหนชอบเป็นพิเศษ แต่ผมชอบอ่านประวัติศาสตร์ของเอเชียมาก ไม่รู้สิ ผมอ่านแล้วสนุกดี ผมรู้สึกว่าเราเป็นคนเอเชียก็ควรจะรู้ไว้ ไม่ใช่รู้แค่พระเจ้าตากเป็นใคร มันรู้แค่นั้นไม่ได้นะ”
สำหรับแบงค์คิดว่าการอ่านช่วยอะไรในการทำงานได้บ้าง
“ถ้านำมาใช้กับงานได้น่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จง่ายๆเลยหลายคนอาจจะมีหนังสือของ Steve Jobs หรือหนังสือประเภท How To ติดบ้านไว้บางอย่างเรารู้อยู่แล้วแหละแต่จะมีบางคนที่มีหลักการประหลาดๆแหม How To ของคุณมันช่างประหลาดจังเลยนะคุณมาถึงวันนี้ได้ยังไงวะ (หัวเราะ) อย่างแจ็กหม่าที่เพิ่งซื้อเคเอฟซีในจีนไปเพราะแค้นที่เมื่อก่อนไปสมัครงานแล้วเขาไม่รับ”
แล้วแบงค์คิดว่าเขาแค้นจริงหรือเปล่า
“ก็ต้องมีบ้าง ผมเคยทำงานแมคโดนัลด์เป็นพนักงานเสิร์ฟตอนเด็กๆ นี่ยังแค้นอยู่นะ (หัวเราะ) ผมได้ชั่วโมงละ 23.75 บาท ถ้ามีเงินก็ว่าจะไปซื้อบ้าง”
กลับมาที่เพลงตายก็ยอม เพลงนี้แบงค์แต่งจากความรู้สึกของตัวเองเลย
“เพลงนี้ผมแต่งมา 5-6 เดือนแล้ว อืม…อย่างที่ทราบกันว่า ผมกับแฟนต่างคนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตัวเอง เป็นการลดสถานะลง คือบางทีคนเราคบกันมา 13 ปี ถ้าเกิดเราลองแยกกันอยู่ มันอาจจะมีอะไรดีขึ้น ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ก็ได้ เพราะว่าพื้นที่มันจะเปิดมากขึ้น แล้วเราอาจจะมีแรงขับเคลื่อนบางอย่างที่ทำให้ตัวเองดีขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย
“ซึ่งในกรณีของเราไม่มีใครผิดเลยนะ เรื่องมือที่สามไม่มีแน่นอน คือเราคิดว่าลองแยกกัน ลองดู เผื่ออะไรมันจะดีขึ้น ปีหน้าอาจจะกลับมาคบกันแล้วแต่งงานเลยก็ได้ (ยิ้ม) หรือเพิ่งรู้ว่า…อ๋อ การอยู่คนเดียวนี่มันก็ดีไปอีกแบบหนึ่งนะ ถ้าเขาไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าผม ผมก็ยินดี คนเราน่ะ ถ้าแฟนเก่าไปเจอคนที่ดีกว่า เราต้องยืนปรบมือ ไม่ใช่ประเภทแบบ โอ้โห! ไม่ได้ แฟนใหม่เขาจะดีกว่าเราไม่ได้”
แสดงว่าทั้งคู่ตกลงว่าลองห่างกัน
“ใช่ๆคู่ผมไม่ใช่การอิ่มตัวทุกคู่บนโลกใบนี้มีปัญหาด้วยกันหมดบางคู่เลิกกันด้วยการทะเลาะแต่สำหรับคู่ผมมีปัญหาหยุมหยิมเหมือนเป็นมะเร็งที่แก้ไม่หายฉะนั้นเราควรแยกกันไปหาวิธีรักษากันเองเถอะต้องไปหาหมอก่อนเอาจริงๆเป็นปกติเลยที่ทุกคนจะเริ่มมองข้อเสียของกันและกันก่อนต้องบอกทุกคนว่าระวังบางทีคนเราคบกันนานจนบางทีเราก็ลืมว่ามองว่าเฮ้ย…เขาก็มีข้อดีอยู่เยอะเลยนะ”
พักเรื่องรักตอนนี้ก็พร้อมลุยงานละครเวทีเต็มที่เลย ซึ่งลอดลายมังกรเป็นละครเวทีเรื่องที่ 3 แล้ว แบงค์ยังจำความรู้สึกที่ได้เล่นละครเวทีเรื่องแรกได้ไหมคะ
“ตอนนั้นเหมือนเราขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วเพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากนั้นไปเรียนต่อปริญญาเอกผมเริ่มจากศูนย์ไม่รู้เลยว่าละครเวทีต้องซ้อมกันยังไงคือเราเห็นทุกคนเป็นอาจารย์หมดเลยพอมาเรื่อง 3 เชื่อไหมว่าผมตกลงเล่นตั้งแต่ยังไม่รู้ชื่อเรื่อง”
เล่าให้ฟังหน่อยสิคะ
“ทางทีมงานโทร. มาว่า แบงค์มีละครเวทีฟอร์มยักษ์ เล่นไหม ผมก็ถามก่อน เล่นกับใคร เขาบอก…อ๋อยังไม่มี มีตัวละครตัวเดียวคือแบงค์นี่แหละ โอ้โห…ถ้าพูดขนาดนี้มันต้องเป็นอะไรที่ยากแน่นอน ถ้าวางอั๊วไว้คนแรกขนาดนี้แล้ว (หัวเราะ) จากนั้นพอทราบชื่อเรื่องว่าคือ ‘ลอดลายมังกร’ เพลงประกอบละครลอยขึ้นมาเลย นี่มันเป็นบทละครน้ำดีที่เรารู้สึกว่าอยากเล่นละครแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาผมมักได้รับบทยอดมนุษย์เสมอ เช่น เป็นมือปืน เป็นนักสู้ เล่นบทบู๊ตลอด”
บทเหลียงใบแบบของแบงค์เป็นอย่างไรบ้าง
“เป็นคนที่รับทุกอย่างจนเครียด เมื่อวานผมเครียดจนอ้วกแตกเลย ตัวละครตัวนี้ต้องแบกรับทุกอย่าง เป็นละครที่สนุกแต่ว่าในความสนุกนั้นปนด้วยความเศร้า ตั้งแต่มีเมีย 3 คน มีลูก มีหลาน ฉะนั้นเหลียงจะทรมานทุกอย่าง เดี๋ยวลูกคนนั้นไปท้องกับคนนี้ ทำไมหลานคนนี้มันสอนไม่ได้วะ ทำไมสอนแล้วมันไม่จำวะ คุณธรรมอยู่ตรงไหน คำว่า ‘หงี’ ที่แปลว่า ‘คุณธรรม’ ทำไมไม่จำกันวะ บทนี้เครียดมาก ทั้งเรื่องต้องร้องไห้อยู่ 3-4 ครั้งอารมณ์มันพาไป บทก็เยอะ เพลงก็ค่อนข้างยาก ในองค์แรกมีอาเหลียงอยู่บนเวทีตลอดเวลา 90 เปอร์เซ็นต์เลย”
เรื่องนี้เล่นเป็นสามีคุณนก สินจัยด้วย
“ใช่ๆเป็นเมียแรกของอั๊ว (หัวเราะ) พอผมรู้ว่าต้องมาเล่นประกบพี่นกผมสบายใจมากเลยนะคือเราต้องเล่นสบายแน่ๆเลยเพราะพี่นกส่งส่งอารมณ์ให้เราเลยรู้สึกเหนื่อยน้อยลงนิดหนึ่งเพราะพี่นกช่วยอยู่แล้ว”
คิดว่าบทเหลียงยากตรงไหนคะ
“ยากตรงอายุครับบางที 60 เผลอเล่นแก่กว่า 60 ซึ่งจริงๆคนอายุ 60 ไม่ต้องแก่ขนาดนั้นก็ได้บางทีเล่นตอนอายุ 30 เผลอไปเล่นเด็กกว่า 30 อะไรแบบนี้เราต้องหาตรงกลางให้ได้ที่สำคัญคือเสียงที่ต้องเปลี่ยนต้องมี 4 เสียง 4 วัยบางครั้งซ้อมอยู่หันไปถามสเตจเฮ้ย!…เดี๋ยวตอนนี้กูอายุเท่าไรนะเร็วๆจะออกแล้ว (หัวเราะ)”
แล้วช่วงอายุไหนที่ยากสำหรับแบงค์
“ช่วงอายุ 50 ครับเป็นช่วงอายุของความเปลี่ยนแปลงเริ่มมีความวุ่นวายเข้ามาในชีวิตลูกหลานทะเลาะกันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทรมานมากสำหรับเหลียงในเรื่องครอบครัว”
เหลียงมีเมียหลายคน แล้วมาถึงตอนนี้แบงค์จำได้ไหมว่ามีแฟนมากี่คน
“2 คนผมมีแฟน 2 คนเองคนแรก 6 ปีแล้วก็นินิว 13 ปี”
แสดงว่าเป็นคนที่คบใครคบนานมาก
“ใช่ผมว่าผมเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจสูงเข้าใจโลกใบนี้เข้าใจคนชอบคิดแทนอีกฝ่ายอาจจะเป็นเพราะเป็นคนอ่านหนังสือด้วยแหละเราดึงข้อดีจากเล่มนั้นเล่มนี้มาใช้ได้คนจะคบกันนานต้องคอยเข้าใจกัน”
แล้วแบงค์มองอย่างไรกับคนที่มีความรักแบบรักๆ เลิกๆ
“ผมว่าบางทีเขาอาจจะโชคร้ายมั้งที่พยายามจะหาความสุขให้กับตัวเองคลายเหงาด้วยการหาแฟนสักคนหนึ่งซึ่งบางทีมันอาจจะยังไม่ใช่ไงแต่บางคนเขาอาจจะคิดว่าเดี๋ยวนี้แฟนหายากนะคบคนนี้แหละสุดท้ายก็พยายามแต่ไม่รอดหรือบางคนก็เป็นตัวของตัวเองน้อยเกินไปเพื่อที่จะเอาชนะอีกฝ่ายว่าฉันรักเธอซึ่งคนเราต้องเป็นตัวของตัวเองหากสักวันหนึ่งตัวจริงออกมาอาจทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่ชอบได้”
แล้วผู้หญิงแบบไหนที่แบงค์รู้สึกว่าอยากคุยด้วย
“ผมไม่รู้ว่าการจีบผู้หญิงทำกันยังไงนะแต่สำหรับผมรู้ว่าเราชอบเขาเฉยๆพอชอบก็อยากคุยพอคุยปุ๊บผมก็ไม่ได้คุยแบบจีบแต่หาเรื่องคุยไปเรื่อยบางทีเป็นเคมีที่เห็นหน้าแล้วปิ๊งยกตัวอย่างมีคน 5 คนยืนเรียงเป็นพี่สาวพี่ชายทำไมเราสนิทกับพี่คนนั้นสุดวะอ๋อ…ถูกชะตาพี่คนนี้ไงทำไมเราต้องไปปรึกษาพี่คนนั้นวะบางคนจบปริญญาเอกด้วยนะยังไม่คุยด้วยแต่กลับไปคุยกับคนป.4 เพราะเรารู้สึกอยากคุยกับเขา”
แล้วนอกจากร้องเพลง เล่นละครเวที วันว่างแบงค์ทำอะไรคะ?
“วันว่างก็อยู่บ้านไม่ค่อยไปไหนหรอกติดบ้านติดหมาแมวทำกับข้าวชีวิตผมไม่หวือหวาเพราะผมเป็นหลานย่าไงทำกับข้าวเป็นก็เพราะย่านี่แหละได้การอ่านหนังสือมาจากพ่อเพราะพ่อจบป.4 เลยรักการอ่านตอนนี้พ่อผมเป็นนายกสมาคมช่างตัดผมแห่งประเทศไทยแล้วนะเชื่อไหมคนจบด็อกเตอร์ยังชอบมานั่งคุยกับพ่อผมเลยรู้สึกว่าการอ่านมันสำคัญมากโดยเฉพาะหนังสือนะไม่ใช่การอ่านในดิจิตอลเพราะบางบทความมันบิดเบือนหาความจริงได้น้อยต้องเป็นหนังสือแล้วดูด้วยว่าใครเขียน”
ตอนนี้คุณพ่อก็ยังเปรี้ยวอยู่หรือเปล่าคะ
“เปรี้ยวปรี๊ดเลยครับ (หัวเราะ)”
แม้ว่าในชีวิตจริงแบงค์ยังไม่ได้เป็นพ่อ แต่สำหรับบทเหลียง ความเป็นพ่อของตัวละครนี้ให้อะไรกับแบงค์บ้าง
“คุณธรรมครับ คำนี้คำหลักเลย เพราะเหลียงจะแปะคำว่า ‘หงี’ ซึ่งแปลว่า ‘คุณธรรม’ ไว้กลางบ้าน ถ้าทุกคนมีสิ่งนี้ในตัวเอง ชีวิตจะสุขขึ้นเยอะ”
ติดตามผลงานของ แบงค์ ปรีติ ได้ทาง IG: @bankkcash
No Comments